สงกรานต์ เตชะณรงค์ ..อดีตแบดบอย สู่ผู้บริหารในวันนี้

... จากอดีตเด็กเสเพล เกเร ติดเพื่อน ติดยา แต่ ณ วันนี้ชื่อของ สงกรานต์ เตชะณรงค์ กลับกลายมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฮโซ เป็นที่รู้จักกันนี้ในฐานะผู้บริหารธุรกิจนับพันล้าน บนอาณาจักรเกือบ 5 พันไร่แห่ง โบนันซ่าเขาใหญ่ โดยสงกรานต์ได้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้โบนันซ่า ทั้ง สนามกอล์ฟ, รีสอร์ท โรงแรม, และโซนกิจกรรมต่าง อาทิ ขับรถเอทีวี, มอเตอร์ไซด์วิบาก, ปีนเขา, โรยตัว, สนามยิงธนู, เดินสะพานเชือกบนต้นไม้ และอื่น ๆ มีมากมาย ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นแฟนกับดารามาแล้วหลายคนทั้ง เจน ชมพูนุช ปิยะภาณี, พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, โบ สุรัตนาวี สุวิพร และ อี๊ฟ กมลชนก เวโรจน์ แต่นั่นทั้งหมดก็เป็นเพียงอดีตเท่านั้น เพราะปัจจุบันเขาเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่สาว ๆ หลายคนในประเทศต่างก็หมายปอง ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปี นิตยสารวัยรุ่นแทบทุกฉบับอ้าแขนให้ สงกรานต์ เตชะณรงค์ เด็กหนุ่มเนื้อหอมวัยละอ่อนนักเรียนนอกอังกฤษขึ้นปกเป็นว่าเล่น ยังไม่นับงานเดินแบบโลดแล่นบนเวทีที่มีเป็นประจำ ทำให้ถึงวันนี้เขาก็ยังคงเป็นนายแบบ รูปหล่อ พ่อรวย ที่สาวๆ ถามหา หากแต่วันนี้เขาเติบโตเป็น ผู้ใหญ่ที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิเพียงพอที่จะก้าวเข้ามาดูแลธุรกิจนับพันล้านบนอาณาจักรเกือบ 5 พันไร่แห่ง โบนันซ่าเขาใหญ่ ส่วนหนึ่งแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจของชายหนุ่มวัยเพียง 25 น่าจะเกิดจากความต้องการที่จะ ลบรอยแผลเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตที่เขาก้าวผิดหลงไปพัวพันกับยาเสพติด!! น่าชื่นชมที่ครอบครัวนี้ซึ่งถือว่ามีหน้ามีตาในสังคมยินดีตีแผ่เรื่องราวนี้ให้เป็นอุทธาหรณ์ สงกรานต์ เตชะณรงค์ เยือนรายการ สุริวิภา พร้อมกับ ไพวงษ์ เตชะณรงค์ ผู้เป็นพ่อที่รักลูกดั่งดวงใจ ไพวงษ์ เปิดใจเล่าถึงวิกฤตแห่งครอบครัวช่วงนั้นว่า เมืองไทยเมื่อช่วง 9-10 ปีที่แล้ว เราได้ยินข่าวกันบ่อยๆ ว่าในคลับในบาร์จับเด็กมาตรวจ 100 คนต้องได้เจอฉี่ม่วงซัก 8-90 คน ถือว่าเป็นช่วงวิกฤตของเด็กวัยรุ่นเลยทีเดียว ตอนนั้นยาอีระบาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขนาดเม็ดละตั้ง 7-800 บาทแต่ของพวกนั้นกลับมีขายกันง่ายๆเหมือนขายท๊อฟฟี่ บ้านเมืองปราบปรามกันลำบากพราะต้องยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวพันในเรื่องนี้ ผมไม่อายที่จะบอกว่าครอบครัวเราก็ผ่านวิกฤตเรื่องนี้มาเหมือนกัน ผมว่าบ้านผู้ลากมากดีอีกหลายๆบ้านพลิกแพลงโลดโผนกว่าบ้านผมอีกเยอะ ผมจึงไม่อายที่จะเล่าให้ฟังถือว่าเป็นช่วงชีวิตหนึ่งของสงกรานต์ สงกรานต์ เล่าถึงเรื่องราวในช่วงนั้นว่า อายุ 15-16 ครับ มีโอกาสเข้าทำงานในวงการเป็น นายแบบ ได้เจอผู้คนเจอเพื่อนเยอะขึ้น จากที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืน ก็ออกไปเที่ยวทุกคืน เคยใช้เงินมากสุดก็เป็นแสนต่อวันซื้อของจุกจิก เสื้อผ้า ของแต่งรถ เวลาไปเที่ยวก็เลี้ยงเพื่อนทั้งกลุ่ม ยิ่งสมัยนั้นไม่มีตรวจบัตร เด็กขนาดไหนก็เข้าไปเที่ยวได้ ตอนนั้นยาอีค่อนข้างระบาด เขาใส่มาในน้ำเราก็ไม่รู้ แต่ด้วยวัยคึกคะนองอยากลองและในสังคมแทบทุกคนก็ใช้มัน มันเป็นยาปาร์ตี้กินแล้วก็ตื่นๆเหมือนเมาเหล้า ตอนนั้นเราเด็กๆ ก็คิดถึงแค่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงหรือสนใจคนรอบข้าง คิดเพียงว่าไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่กลายเป็นว่าทั้งครอบครัวเป็นทุกข์เพราะผม คุณพ่อไพวงษ์เล่าเสริมทันทีว่า ก็ครอบครัวเราไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ เขาวุ่นวายอยู่แค่ 5-6 เดือนเราก็ตกใจแทบเป็นบ้ากันแล้ว ขณะที่เด็กทั้งประเทศก็โดนสิ่งเสพติดพวกนี้แทรกซึม ทุกคืนผมนั่งรอลูกกลับบ้าน ตี 1-2-3-4-5 ทุกตีผมก็นั่งรอมาแล้ว นั่งภาวนาว่าเขาจะกลับบ้านมาในสภาพไหน ขอให้กลับมาในสภาพดีๆ ผมก็ทั้งพูดดี ทั้ง ดุ ด่า บ่น ว่า ผมบอกเขาว่าชีวิตมนุษย์มีทางเลือกอยู่สองทาง คือ ขึ้นสวรรค์กับลงนรก คนเราเลือกเกิด ไม่ได้ แต่คุณเกิดมาโชคดีคุณเกิดมาเป็นลูกเสี่ย ผมเป็นแค่ลูกเตี่ยต้องทำมาหาเงินด้วยตัวเอง คุณต้องเลือกเองเพราะไม่มีใครช่วยคุณได้ หรือกระทั่งเคยพูดแรงๆ ว่าถ้าเขาเลือกจะให้ครอบครัวเป็นทุกข์แบบนี้ ก็ไปโดดลงสะพานพุทธเลยดีกว่า แม่เขาก็นั่งร้องไห้ โชคดีเขาไม่ได้เป็นคนเกเรโดยพื้นฐาน แต่เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมในยุคนั้น เขาก็บอกว่าเขาจะกลับไปเรียน แต่ขอไปพักผ่อนที่เขาใหญ่สัก 2 วัน ระหว่างเดินทางเขาก็คงยังมึนๆ อยู่ ลูกน้องผม 2 คนที่ตามไปประกบก็จอดรถเติมน้ำมัน เขาก็ขอเข้าห้องน้ำ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหายไปเลย ให้ลูกน้องช่วยกันระดมหา ตี 2-3-4 ก็ยังไม่เจอ ผมก็ขึ้นไปห้บานศาลกล่าว ถ้าเขาไม่มีบุญรับช่วงต่อสิ่งที่ผมทำให้หมดบุญแค่นี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาไม่ได้เลวร้าย ก็ขอให้เขารอดปลอดภัย เช้ามาลูกน้องก็โทรมาบอกว่าเจอนั่งอยู่ริมกำแพงข้างถนน น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นด้วยความปวดร้าวใจอีกครั้ง เมื่อย้อนระลึกถึงความทุกข์สาหัสของพ่อแม่ สงกรานต์เล่าต่อว่า ผมดูแล้วอนาคตผมไม่รอดแน่ ตัดสินใจหนีออกไปจากตรงนี้หนีไปสักพักเลย ให้เราแข็งแรงเข้มแข็งขึ้น ผมยอมรับว่าผมหัวอ่อนติดเพื่อน ถ้ายังอยู่ในวังวนนี้อีกผมคงหนีมันไม่พ้น กลับไปเรียนดีกว่า ครอบครัวเตชะณรงค์จึงตัดสินใจเลือกนิวซีแลนด์ดินแดนเงียบสงบ สิ่งแวดล้อมดี ไม่มีสิ่งยั่วยุ โดยมีคุณแม่ทำหน้าที่รับส่งลูกๆ ถึงวันนี้ สงกรานต์ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้โบนันซ่า เขาสร้างสนามเด็กเล่นกลางแจ้งมูลค่ากว่า 10 ล้าน ภายใต้ความเชื่อมั่นในการลงทุนครั้งนี้ ผมเชื่อว่าอย่างน้อยครอบครัวที่มาพักผ่อนวันหยุดที่โบนันซ่าจะมีที่ให้เด็กๆและผู้หญิงทำกิจกรรมร่วมกัน ขณะที่คุณพ่อบ้านเพลิดเพลินกับการ ตีกอล์ฟ ผมว่าจะน่าคืนทุนได้ในเร็วๆนี้ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจมากพอสมควร แล้วสงกรานต์ ก็นำ สุริวิภา เยี่ยมชมอาณาจักร 10 กว่าไร่ของเขา ที่มีทั้งกิจกรรมแบบ ผจญภัย ปีนเขา โรยตัว ขี้ม้า ขับรถเอทีวี มอเตอร์ไซด์วิบากสนามยิงธนู เขาวงกต สวนนก และอีกมากมายที่เขา ยืนยันความปลอดภัย 100% โดยมี คุณพ่อไพวงษ์ เตชะณรงค์ มองลูกชายในวันนี้ได้อย่างชื่นชม... ข้อมูลจากรายการ สุริวิภา