Spa day ผมเสียซ่อมได้ ทำสบาย ง่ายๆ ที่บ้าน
ฮาโหลสาวๆ พักเรื่องหน้าไปก่อน วันนี้ขวัญขอมาพูดเรื่องการดูแลเส้นผมบ้างล่ะกันนะ คืองี้! ขวัญเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนอ่ะ ต้องมีความคิดว่าฉันจะเปลี่ยนสีผม สีผมนี้สวยจัง สีนี้ก็สวย สวย สวยยยย!! และในที่สุดก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ตัดสินไปทำให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่คุณคะ! ผลลัพธ์ที่ได้มันช่างทำร้ายจิตใจเราจริงๆ ผมเสีย ผมแห้ง ผมขาดง่าย สารพัดปัญหาผมที่สาวๆ ต้องเจอ
ซึ่งขวัญเป็นอีกหนึ่งคนที่ผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ ตัดผมสั้นไปหลายตลบละ! จนล่าสุดไปทำการยืดผมด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และดีท็อกซ์หนังศีรษะ ซึ่งก็โอเคยอมรับว่าสุขภาพผมดีขึ้นจริงๆ แต่เราจะหยุดแค่นี้ไม่ได้นะ เราต้องดูแลต่อไป และวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการอบไอน้ำเพิ่มวิตามินเข้าสู่เส้นผม ครั้งจะให้ไปเสียเงินหลายๆ ร้อยๆ เดือนละหลายๆ ครั้งน่าจะเสียทรัพย์ไปนับไม่ถ้วน วันนี้ขวัญเลยจะมารีวิวหมวกอบไอน้ำที่ลงทุนครั้งเดียว แต่ใช้ได้ระยะยาวพร้อมกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม จะมีตัวไหนบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
มาดูอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์กันก่อนเลย
- หมวกอบไอน้ำ (LESASHA รุ่น Professional Nano Hair Spa Treatment Cap)
- แชมพูสระผม และครีมนวดผม (Dove Volume Nourishment)
- ทรีตเมนต์บำรุงผม (Intense Care Keratin Repair Mask)
- เซรั่มบำรุงเส้นผม (Revive Hair Serum)
เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการทำความสะอาดผมให้สะอาด ขวัญจะใช้แชมพูสระผมของ Dove Volume Nourishment ตัวนี้นะคะ ที่ขวัญใช้ตัวนี้เพราะว่าเขาเครมว่าเป็นยาสระผมที่จะช่วยลดปัญหาผมไร้น้ำหนัก ชี้ฟูแบบไม่มีทิศทางได้ ซึ่งขวัญว่ามันก็ช่วยได้จริงๆ นะ ผมฟูน้อยลง ตัวแชมพูจะเป็นน้ำใสใส ฟองไม่ค่อยเยอะนะ ขวัญจะสระทำความสะอาดผมทั้งหมด 2 รอบนะ จะได้ล้างสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะเราให้สะอาดจริงๆ
จากนั้นข้ามการลงครีมนวดไปก่อน เพราะตอนนี้เกล็ดผมเราได้เปิดแล้ว ขวัญก็ลงตัวทรีตเมนต์บำรุงไปก่อนเลย สำหรับตัวที่ขวัญใช้จะเป็นของ Intense Care Keratin Repair Mask ตัวนี้ใช้มาหลายกระปุกมากกกก ลองใช้น่าจะเกือบครบทุกสูตร เพราะมันให้ความรู้สึกที่นุ่ม หลังการใช้อย่างเป็นประจำ กลิ่นหอมอ่อนๆ สบายยยย ขวัญจะเน้นลงที่บริเวณปลายผม รีดๆ นวดๆ ให้วิตามินเข้าเส้นผม แล้วนำผ้าเล็กๆ มาห่อผมเอาไว้ก่อน แล้วใช้หมวกครอบผมสีฟ้า คลุมอีกหนึ่งชั้น
มาถึงนางเอกของงานนี้กันแล้วล่ะค่ะ ขวัญจะใช้หมวกอบไอน้ำของ LESASHA ตัวนี้ในการช่วยผลักวิตามินเข้าสู่เส้นผมให้มีประสิทธิภาพและล้ำลึกดียิ่งขึ้น ซึ่งหมวกอบไอน้ำขวัญอยากให้เลือกดูให้ดีนิดนึงนะคะ เพราะมันต้องใช้ไฟ ซึ่งไฟกับน้ำเป็นอะไรที่มันเข้ากันไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น เราต้องเลือกหมวกที่ได้รับมาตรฐานและปลอดภัยต่อชีวิตเราจริงๆ ซึ่งที่ขวัญเลือกตัวนี้ เพราะว่าเขามีตัวตัดไฟอัตโนมัติ มีฉนวนกันความร้อน 3 ชั้น ขนลวดกระจายความร้อนทั่วทั้งหมวก
ซึ่งเจ้าหมวกตัวนี้มีตัวปรับความร้อนได้ 3 ระดับนะคะ สามารถเลือกปรับได้เลย ขวัญก็จะใช้เวลาในส่วนนี้ประมาณ 15 - 20 นาที เพื่อที่เราจะได้มีผมที่นุ่ม และแก้ปัญหาผมได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพจริงๆ
พอครบกำหนดเวลาก็ไปล้างออกเลยค่ะ ซึ่งเราก็จะมาต่อที่การลงครีมนวดเพื่อเป็นการปิดเกล็ดผมเลย
ก่อนไดร์ผมขวัญจะใช้ตัวเซรั่มบำรุงเส้นผมเพื่อลดการหลุดร่วงด้วย บำรุงด้วย คือตัว Revive Hair Serum แล้วทำการไดร์ผมให้เรียบร้อย
จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเส้นผม และผมชี้ฟูก็ลดน้อยลง ผมดูเงาขึ้น ต่างจากการที่สระผมอย่างเดียว สาวๆ คนไหนที่อยากลองสูตรหมักผมใหม่ๆ ก็สามารถที่จะใช้กับหมวกอบไอน้ำนี้ได้เลย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ขวัญย้ำๆ ว่าควรจะทำเป็นประจำนะคะ หาเวลาทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าร้านทำผมบ่อยๆ ลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ ^^
อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ อินสตาแกรม : sanookwomen
พูดคุยกับขวัญได้ตามช่องทางที่อยู่ด้านล่างเลยค่ะ