เปลือยชีวิต “บุ๋ม ตรีรัก” อดีตดาราสาวเปรี้ยวจี๊ด สวย แซบ โสด สุข ในวัย 50

เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน “บุ๋ม ตรีรัก รักการดี” คือนักร้องสาวเปรี้ยวซ่าคนแรกๆ ที่กล้านุ่งกางเกงสั้นแค่คืบกับเสื้อเอวลอย ทั้งยังสลัดผ้าถ่ายแบบโชว์หวิวโดยไม่ยึดติดภาพนางเอกมีชื่อ…แต่แล้ววันหนึ่งผู้หญิงแรงๆ คนนี้กลับหักเหชีวิตบนเส้นทางบันเทิงด้วยการเดินทางไปใช้ชีวิตต่างแดน การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลยเลข 3 กับสถานที่ๆ ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน กลับเป็นการเปลี่ยนชีวิต และวิธีคิดเดิมๆ ของเธอจนหมดสิ้น

Sanook! Women เปลือยชีวิตบุ๋ม ตรีรัก ร่างเดิมแต่ความคิดใหม่ ทำอย่างไรถึงกลายเป็นสาววัย 50 กะรัตที่เต็มไปด้วยพลังและความสุข

เห็นเธอแซบซ่าแบบนี้จริงๆ แล้วเธอคือสาวแกร่งที่ต้องรับภาระเสาหลักของบ้านมาตั้งแต่อายุ 19เนื่องจากคุณพ่อติดการพนันล้มละลายและแยกกันอยู่กับคุณแม่ แต่โชคดีที่คุณป้าแท้ๆ รับอุปการะครอบครัวของคุณบุ๋ม ในวัยเด็กเธอจึงไม่ได้ลำบาก

แววการเป็นดาราของเธอไม่ได้ฉายตั้งแต่แรกเพราะในวัยเด็กคุณบุ๋มซ่อนความหน้าตาดีอยู่ภายใต้กรอบแว่นตาหนาเตอะ แม้จะซนแสบแต่อีกด้านเธอคือหนอนหนังสือนิยายประจำโรงเรียนราชินี ที่มักใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอ่านนิยายแม้แต่เวลาเรียนในห้อง

เมื่อเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ การได้รับตำแหน่งดาวคณะนิเทศประจำมหาวิทยาลัยทำให้คุณบุ๋มมั่นใจและนี่คือจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการเข้าร่วมประกวดหนุ่มสาวแพรว และดาวรุ่งช่อง 3 จนเข้าไปรอบ 10 คนสุดท้าย “ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกมั่นใจในตัวเองแล้ว พอประกวดดาวรุ่งช่อง 3 เข้ารอบก็รู้สึกว่าแอคติ้งเราก็ได้ สงสัยได้ทักษะมาจากการอ่านนิยาย หลังจากนั้นเลยได้เล่นละครแม่นาก และประสบความสำเร็จมากกับละครเรื่องแรก”

จากนั้นเส้นทางในวงการบันเทิงของคุณบุ๋มถอดยาวไปเรื่อยๆ ทั้งเป็นนางแบบ นางเอก และนักร้องในภาพสาวเปรี้ยวเจ้าของอัลบั้ม Moddy ตรีรักกับบทเพลง “มีแฟนหรือยังจ๊ะ” ที่ฮือฮาและโด่งดังมาก ภาพลักษณ์เซ็กซี่และการเป็นสาวพูดจาตรงไปตรงมาทำให้เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิง “แรง” “ มั่นใจ” ซึ่งสำหรับเธอแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เธอ “โอเค” เนื่องจากเป็นนิสัยที่แท้จริง “พี่ชอบนะเพราะว่านี่คือบุ๋ม ตรีรัก ถ้าเห็นคอมเมนท์ในไอจีพี่ หรือแฟนเพจของพี่จะรู้เลยว่าแฟนคลับของพี่ส่วนใหญ่เป็นรุ่นลูก เขาเห็นพี่ยังสดใส ดูมีความสุข เขายังอยากเป็นแบบพี่ มีพี่เป็นไอดอล”

การประสบความสำเร็จสูงสุดในทุกด้านสำหรับบางคนมันคือจุดอิ่มตัวที่ทำให้ไม่อยากไปต่อบนเส้นทางเดิมเช่นเดียวกับคุณบุ๋มเลือกทิ้งชื่อเสียง เงินทอง สังคมในวงการมายาแล้วหอบเงินสะสมทั้งหมดไปลองใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเพียงเพราะต้องการเดินตามความฝันที่ตั้งไว้ในวัยเด็ก “มันถึงจุดอิ่มตัว เราอยู่ในวงการมานาน ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกด้าน พี่มีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากไปเรียนเมืองนอก อยากทำงานกับชาวต่างชาติ อยากเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก”

3 ปีแรกที่อเมริกาคุณบุ๋มตั้งใจทดลองใช้ชีวิตพร้อมหาลู่ทางด้วยการเริ่มเรียนภาษา และพบว่าตนเองสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ จากนั้นจึงเริ่มวางรากฐานให้ตัวเองด้วยการหาอาชีพและเลือกเรียนตัดขนสุนัข ตัดขนแมว โดยไม่แคร์ว่าตัวเองคือบุ๋ม ตรีรัก ดาราดังจากเมืองไทย “พี่ไม่ยึดติดกับชื่อเสียง เงินทอง หรือคนในรุ่นเดียวกันประสบความสำเร็จ พี่ก็ไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเขา พี่เป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก พี่เลยมีความสุข ไม่ว่าจะทำอะไรพี่จะแฮปปี้กับมัน พี่มีจุดยืนของพี่ พี่เดินตรงไปข้างหน้า เจอปัญหาก็แค่หยุดพัก แล้วตั้งต้นใหม่”

หลังเรียนตัดขนสุนัขจนได้รับใบประกาศรับรอง คุณบุ๋มเลือกประกอบอาชีพตัดขนสุนัข อาบน้ำสุนัขเป็นอาชีพหลัก ที่อเมริกาเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดขนสุนัขจนเรียกได้ว่าเป็นมือหนึ่งโดยเฉพาะการตัดขนสุนัขพันธุ์บิชอง ฟริเซ่ เหล่าเซเลบริตี้คนดังต่างใช้บริการจากเธอ “อาชีพนี้ถ้าใจไม่รักทำไม่ได้หรอก เพราะส่วนหนึ่งเราต้องตัดขนสุนัขหรือแมวที่ถูกทิ้ง ขนมันจะพันทั้งตัว สกปรก เขาจะหวาดกลัว จับไม่ได้ เขาจะกัดเรา และการสางขนก็ไม่ใช่ง่ายๆ พันธุ์ที่มีขนยาวคุณต้องสางยังไงไม่ให้ขนเสีย พี่เคยแปรงขน 4 ชั่วโมงไม่หยุดเลย ไหนจะอาบน้ำ เป่าขนอีก ถือว่ายาก”

ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่อเมริกาเธอสร้างเนื้อสร้างตัวจากอาชีพที่คนอื่นอาจไม่ให้ค่า แต่สำหรับเธอแล้วเธอได้ทุกสิ่งทุกอย่างจากอาชีพสุจริตนี้ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมในย่านหรู รถยนต์ส่วนตัว การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดปีละครั้ง รวมถึงเธอยังคงหน้าที่เป็นเสาหลักให้ครอบครัวดูแลคุณแม่ น้องชายและหลานซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองไทย “ พี่ใช้วิธีเก็บเล็กผสมน้อย แล้วพี่ก็เล่นหุ้นด้วย ได้เงินมาพี่จะแบ่งเป็น 3 ก้อน ส่วนแรกเป็นเงินของพี่เอง ส่วนที่สองคือครอบครัวที่พี่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างและดูแลแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 19 ใครอยากได้อะไรได้หมด แต่พี่จะให้ยืมแล้วจดไว้เอามาคืน แต่ถ้าเป็นคุณแม่อยากได้อะไรพี่ให้เลย ส่วนก้อนสุดท้ายเป็นเงินเก็บที่พี่จะซื้อกองทุน เล่นหุ้น พี่ไม่อยากบอกว่าพี่ฉลาดแต่พี่เป็นคนที่รู้จักตัวเอง” นอกจากการได้มีชีวิตตามแบบที่ตนเองพึงพอใจแล้ว 19 ปีที่อเมริกายังเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นหญิงสาวที่มีความสุขคนนึง

คุณบุ๋มเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปีแต่ยังลังเลในการเริ่มต้นใหม่และยอมย่ำอยู่กับที่ทั้งๆ ที่ไม่มีความสุข โดยเฉพาะการเลือกสถานะโสดทั้งๆ ที่พิจารณาจากรูปร่าง หน้าตา ความเป็นอยู่แล้วเธอน่าจะเป็นที่สนใจของผู้ชายทุกคน “พี่ชอบชีวิตอิสระ และพี่รักตัวเอง รักที่จะมีความสุข ไม่อยากมีทุกข์กับความรัก พี่ไม่คิดว่าจะมีเวลาไปเทคแคร์ผู้ชายคนไหน เพราะพี่รู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นของฉัน ฉันอยากมีความสุข อยากจะไปไหนก็ได้ พี่คิดว่าพี่ดูแลตัวเองได้”

หากเป้าหมายในชีวิตเรายังคงเป็น “ความสุข” วิธีที่ผู้หญิงวัย 50  อย่างบุ๋ม ตรีรักใช้คงไม่ได้ยากเกินไป เพราะเธอเพียงแค่ “รู้จักตัวเอง และ รักตัวเอง” ก็แค่นั้น