ดีใจจังตาน้องหมากลับมามองเห็นอีกครั้ง
คลินิกโรคตา โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โรคต้อกระจกไม่ใช่แค่เกิดขึ้นกับคนเท่านั้น สัตว์เลี้ยงของเราก็เป็นได้เช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุมาจากการที่ดวงตาเคยได้รับบาดเจ็บ หรือเคยมีอาการอักเสบรุนแรงด้วยโรคทางระบบบางชนิด เช่น การป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น อาการที่แสดงของสัตว์ป่วยขึ้นอยู่กับความขุ่นมัวของแก้วตาว่ามีปริมาณมากหรือน้อย ความขุ่นของแก้วตาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โปรตีนของแก้วตามีการแปลงสภาพ (Protein denaturation) ที่พบได้ในคนและสัตว์สูงอายุ
โรคต้อกระจกในสุนัขสังเกตได้เช่นไร สำหรับโรคต้อกระจกที่เกิดขึ้นกับน้องหมานั้นเราสามารถสังเกตได้เมื่อแก้วตาสุนัขนั้นมีลักษณะขุ่นขาวผิดไปจากเดิม ไม่ว่าที่ตำแหน่งใด หรือจากสาเหตุใดก็ตามจะเรียกว่า “ต้อกระจก” เราอาจสังเกตเห็นแก้วตาที่ขุ่นขาวผิดปกติในเวลากลางคืนได้ชัดเจนกว่า เนื่องจากในภาวะที่มีแสงน้อยรูม่านตาจะขยายออกเพื่อรับแสง ความจำเป็นในการรักษาต้อกระจกขึ้นอยู่กับการมองเห็นที่ลดลงซึ่ง แก้วตา (Lens) ของสุนัขโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นเลนส์นูน ใส มีความโค้งนูนทั้ง 2 ด้านมีหน้าที่สำคัญร่วมกับกระจกตาในการรวมแสงไปโฟกัสบนจอตา (Retina)
โดยแก้วตามีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำและโปรตีน โดยร้อยละ 65 เปอร์เซ็นต์เป็นน้ำ และร้อยละ 35 เปอร์เซ็นต์เป็นไขมันและแร่ธาตุอื่นๆ
วิธีการรักษาต้อกระจกในสุนัข สำหรับการรักษาที่ให้ผลดีที่สุดคือ การผ่าตัดเพื่อนำเอาแก้วตาที่เป็นต้อกระจกออกแล้วใส่แก้วตาเทียมให้กับสัตว์ป่วย ในปัจจุบันได้มีการนำเทคนิคการผ่าตัดชั้นสูงคือการสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งเครื่องมือและเทคนิคในการผ่าตัดต้อกระจกนั้นทำเช่นเดียวกับคน แต่ในสุนัขอาจจะต้องมีการวางยาสลบเพื่อความสะดวกและปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัด หลังผ่าตัด จะมีการให้สุนัขได้มีการพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 4 วัน เพื่อวัดความดันตาเช้า-เย็น หยอดตาเพื่อลดการอักเสบทุกชั่วโมงเพื่อดูแลติดตามผลการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างรายล่าสุดคือน้องโชกุนเป็นสุนัขพันธุ์ Jack Russell Terrie อายุ 3 ปี 7 เดือน มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่กับเจ้าของที่จังหวัดกระบี่ คุณนภาสิริ สัจจาภินนท์ เจ้าของสุนัขกล่าวว่า “ตอนแรกยังไม่รู้ว่าน้องโชกุนเป็นโรคต้อกระจก เพียงแต่สังเกตเห็นว่าตาของน้องโชกุนเริ่มขุ่นเหมือนมีวุ้นอยู่ภายในตา จึงตัดสินใจพาไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้านซึ่งคุณหมอก็บอกว่าน้องไม่เป็นอะไรมาก แต่หลังจากนั้นอีกหลายเดือนพบว่าน้องโชกุนเองเริ่มมีพฤติกรรมในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น จากเดิมที่ขึ้นลงบันไดได้ดี ก็มีความรู้สึกกลัวไม่กล้าที่จะวิ่งขึ้นลงเหมือนเก่า
เวลาที่โยนของเล่นให้ก็จะหาของเล่นไม่เจอ และเวลาพาไปทะเลปกติจะวิ่งลงทะเลเลย แต่พบว่าตอนหลังๆพบว่าน้องโชกุนจะมีอาการกลัวและไม่กล้าที่จะลงเล่นน้ำทะเลเหมือนเดิม จึงตัดสินใจพาน้องมากรุงเทพฯ เพื่อทำการตรวจรักษา เมื่อมาพบทีมสัตวแพทย์ คลินิกโรคตาโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ คุณหมอบอกว่าน้องโชกุนเป็นโรคต้อกระจก ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้ทำการผ่าตัด ตอนแรกก็กลัวว่าน้องโชกุนจะทนไม่ไหว กลัวว่าผ่าตัดไปแล้วจะมองไม่เห็นดังเดิม แต่ก็มีความไว้วางใจในโรงพยาบาลเนื่องจากคิดว่าที่นี่มีเครื่องมือที่ทันสมัย และพร้อมด้วยเทคนิคการผ่าตัดชั้นสูงด้วยการสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Phacoemulsification) จึงตัดสินใจให้น้องโชกุนผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดแล้วพบว่า “น้องโชกุนสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ทำกิจกรรมได้ดังเดิม ก็รู้สึกดีใจ และรู้สึกดีกับการผ่าตัดในครั้งนี้ ตอนนี้ก็ยังเหลือตาอีกข้างซึ่งรอทำการผ่าตัดอยู่ซึ่งคิดว่าจะได้ทำการผ่าตัดในเร็ววันนี้ค่ะ”