“กรุณา บัวคำศรี” คนข่าวกับความฝันที่ไม่มีวันหมดอายุ

“กรุณา บัวคำศรี” คนข่าวกับความฝันที่ไม่มีวันหมดอายุ

“กรุณา บัวคำศรี” คนข่าวกับความฝันที่ไม่มีวันหมดอายุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
"เสน่ห์การลงพื้นที่ทำข่าว มันไม่ใช่เพียงให้เรารู้แค่เรื่องในสถานที่จริง แต่มันทำให้เราเห็นแก่ตัวน้อยลง"โดย กรุณา บัวคำศรี

ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกาศข่าวทีวีหลายช่องตบเท้าพร้อมใจโยกย้ายภารกิจจากช่องทีวีเดิมไปสู่ช่องใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกัน “กรุณา บัวคำศรี” ผู้ประกาศสาวมาดแกร่งคือ 1 ในนั้น เธอเลือกโบกมือลาจากสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ไปสู่อ้อมอกทีวีช่องฟ้าอย่าง PPTV หลายคนตั้งคำถามถึงการเดินจากมาของเธอ หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา หากแต่เมื่อ Sanook! Women พูดคุยแล้วจึงได้รู้ว่า “ความฝัน” สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดแม้จะผ่านวัยมาจนถึงหลัก 4 แล้วก็ตาม

ความฝันการเป็นนักข่าวของคุณกรุณาไม่ได้แรกคลอดมาพร้อมกับเธอ แบบที่รู้ตัวว่า “โตขึ้นฉันจะเป็นนักข่าว” หากแต่เป็นเพียงแวบเดียวในวัยเด็กที่ได้ดูข่าวคุณสมเกียรติ อ่อนวิมลรายงาน แล้วเกิดความสนใจ แต่นั่นคือความคิดชั่วคราวของเด็กๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป

“สมัยเด็กๆ แถวบ้านทีวีสัญญาณไม่ค่อยดี เวลาจะดูให้ชัดทีก็ต้องจับหนวดกุ้ง แล้วตอนนั้นเห็นคุณสมเกียรติ อ่อนวิมลรายงานข่าวก็รู้สึกสนใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนเด็กๆ จริงๆ ฝันอยากเป็นหลายอย่างเป็นครูดอยก็อยากเป็น แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักข่าว”

กระทั่งเธอเอนทรานซ์เข้าศึกษาเป็นนิสิตในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยจนมีโอกาสได้รู้จักกับนักข่าวรุ่นพี่หลายๆ คน แม้จะไม่ได้เรียนในสาขาวิชาชีพโดยตรง แต่กลับเริ่มรู้สึกว่าอาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่น่าสนใจ

“จริงๆ การได้เรียนคณะอักษรศาสตร์เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เรารู้จักการอ่าน การค้นคว้า ถึงจะไม่ใช่สายตรงในการประกอบอาชีพ แต่ก็มีส่วนช่วยงานสายนี้ค่อนข้างมากแล้วเรายังได้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ทำให้เราสามารถค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ได้มากขึ้น สำหรับเราแล้วถือว่าเป็นเรื่องได้เปรียบ”

หลังจบการศึกษาเธอสมัครเข้าทำงานเป็นนักข่าวที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ด้วยความมุ่งมั่น แม้จะไม่มีทักษะเรื่องการเขียนข่าว แต่ยังยืนยันที่จะเป็นนักข่าวให้ได้

“ตอนไปสัมภาษณ์งานเขาให้ทดลองเขียนข่าวเป็นภาษาอังกฤษ แม้เราจะเรียนอักษรมาแต่ภาษาอังกฤษของเราก็ไม่ได้ดีมาก เขาบอกว่าการเขียนของเรายังใช้ไม่ได้ แต่เราก็บอกว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาอย่างตั้งใจ ตอนนั้นกว่าจะเขียนแต่ละประโยคได้มันยากมาก”

คุณกรุณาได้เข้าทำงานเป็นนักข่าวสมใจ ประสบการณ์การทำงานที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 2 ปีถือเป็นการปูพื้นฐานและสร้างความท้าทายในสายงานสื่อสารมวลชนให้คุณกรุณามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากนั้นคุณกรุณาไปศึกษาต่อและทำรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ออสเตรเลีย การทำงานข่าวต่างแดนสร้างประสบการณ์ตื่นเต้นแปลกใหม่ให้เธอเช่นกัน

“เราต้องทำข่าวให้คนออสเตรเลียดู มันก็แปลกที่พวกเขาสนใจเรื่องที่คนไทยอาจไม่ค่อยสนใจเช่นเรื่องช้าง เรื่องพม่า มีครั้งหนึ่งที่พี่ต้องนัดรับเทปสัมภาษณ์อองซาน ซูจี ตอนนั้นเราต้องปลอมตัวเข้าไป มีการนัดแนะกันว่าจะจัดส่งที่ไหน แล้วต้องให้เจ้าหน้าที่สนามบินตรวจ ตอนนั้นเราซ่อนเทปสัมภาษณ์ไว้ในรองเท้า ดีนะที่เขาให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องตรวจ ตื่นเต้นมาก”

ต่อมาคุณกิตติ สิงหาปัดชักชวนคุณกรุณาให้เข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าวที่สถานทีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการเริ่มต้นงานผู้ประกาศข่าวแบบเต็มตัว เมื่อไอทีวีเกิดการเลิกจ้างพนักงาน คุณกรุณาจึงอยู่ในช่วงว่างงานประจำแต่ยังคงทำงานประสานงานให้กับทีมทำข่าวจากต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาทำข่าวในเมืองไทยก่อนจะเข้าไปทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวที่สถานีโทรทัศน์ Thai PBS และสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ในเวลาต่อมา

“ช่วงทำงานที่ Thai PBS เป็นช่วงที่การเมืองระส่ำระสาย และเราทำรายการเกี่ยวกับเหตุบ้านการเมืองเป็นหลัก เลยรู้สึกว่าได้รับแรงกดดันจากทุกส่วน จริงๆ ใจอยากทำข่าวต่างประเทศมากกว่าเพราะตอนไปเรียนต่อต่างประเทศเห็นว่าคนไทยมักได้รู้ข่าวต่างประเทศจากชาวต่างชาติเป็นคนทำ แต่ไม่มีคนไทยเป็นคนทำให้คนไทยด้วยกันดู จนย้ายมาอยู่ช่อง 3 พี่เลยขอเบรกเรื่องการเมือง เพราะรู้สึกเหนื่อย และก็ได้เข้าไปทำข่าวต่างประเทศมากขึ้น แต่มักเป็นแบบเกิดเหตุการณ์แล้วถึงไป ทำอยู่ช่อง 3 ได้ 6 ปีเริ่มคิดถึงสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ”

การตัดสินใจย้ายจากช่องใหญ่อันดับต้นๆ ไปสู่สถานีโทรทัศน์ PPTV เอชดีคือคำตอบที่มาพร้อมความท้าทายของการได้ทำในสิ่งที่ผู้ประกาศสาวใฝ่ฝันมานานนั่นคือการทำสารคดีเชิงข่าวในมิติที่เป็นการสื่อสารแบบสากล แตกต่างจากการทำข่าวเสนอข้อเท็จจริงแบบทั่วไป

“การทำงานกับช่องใหญ่ไม่แตกต่างกับช่องเล็กๆ เพียงแต่พี่มองว่ามันเป็นความท้าทาย ถ้าเราเอาคอนเทนต์เดียวกันนี้ไปใส่ไว้ในช่วง 4 ทุ่มกว่าของช่องใหญ่ รับประกันคนดูมหาศาล แต่การที่เราเอาเนื้อหาเดียวกันนี้มาใส่ในช่องเล็กๆ พี่มองว่ามันเป็นความท้าทายและทำให้เราทำงานสนุกมากยิ่งขึ้น สำหรับพี่การเดินออกมาจากช่อง 3 เป็นการเดินจากออกมาด้วยความรู้สึกดี และเป็นมิตรกัน เพราะพี่เตรียมตัวเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ของช่องตั้งแต่ต้นปี จากนั้นอีกครึ่งปีถึงเดินออกมา ทุกวันนี้พี่ยังคุยกับพี่ๆ ที่ช่อง 3 ได้เป็นอย่างดี”

รอบโลก by กรุณา บัวคำศรี จึงเป็นรายการสารคดีข่าวของช่อง PPTV ในเวอร์ชั่นที่นอกจากจะเติมความฝันในฐานะคนทำข่าวให้เต็มแล้ว การเดินทาง ลงพื้นที่ สัมผัสชีวิตผู้คนจากสถานที่จริงนั้นยังเปรียบได้ว่าเธอพาเราเดินทางไปพบกับความคิดหลากหลายมิติของผู้อยู่ในเหตุการณ์ หรือแม้แต่ตัวเธอเองก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การเดินออกไปสู่ภายนอก หากแต่เป็นการเดินทางภายในจิตใจ และความคิดของเธอด้วย

“เสน่ห์ของการลงพื้นที่ไปทำข่าว พี่คิดว่ามันไม่ใช่เพียงให้เรารู้แค่เรื่องราวในสถานที่จริงแต่มันทำให้เราเห็นแก่ตัวน้อยลง อย่างบางทีไปในที่ๆ เขาแทบจะไม่มีอะไรกินแต่เราไปถึงเขายังอุตสาห์ต้มชาหาอาหารให้เรา พี่ว่ามันสะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง”

หลังจากนี้เธอคงต้องเคี่ยวกรำกับงานที่เธอตั้งใจ เปรียบไปแล้วก็เหมือนฝีมือปรุงอาหาร เสิร์ฟแล้วหากไม่ถูกปากอาจต้องเติมนั่นนิด เหยาะนี่หน่อยเพื่อให้กลมกล่อม แต่นั่นคือความท้าทายที่ไม่มีข้อจำกัดเพราะความฝันไม่มีวัยเกษียณ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ “กรุณา บัวคำศรี” คนข่าวกับความฝันที่ไม่มีวันหมดอายุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook