6 ท่าออกกำลังกายสลายเซลลูไลท์

6 ท่าออกกำลังกายสลายเซลลูไลท์

6 ท่าออกกำลังกายสลายเซลลูไลท์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้หญิงไม่ว่าจะวัยไหน ก็มีเซลลูไลท์กันได้ทั้งนั้น บางคนถึงกับงงว่า อะไรกันอายุดิฉันยังไม่ถึง 30 เลย แล้วเซลลูไลท์มันเกิดขึ้นได้อย่างไร จริงๆ แล้ว เซลลูไลท์ สามารถเกิดขึ้นมาได้ตลอดเวลา เพราะเนื้อเยื่อของเรามีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ก็ตามที แต่เซลลูไลท์นี้ มักจะสังเกตเห็นได้ชัดเมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหนังของเราบางลง แถมเมื่อเราอายุมากขึ้น เราก็มักจะอ้วนขึ้นด้วย

ผู้หญิงส่วนใหญ่จะสูญเสียกล้ามเนื้อไปประมาณ 5 ปอนด์ แล้วถูกแทนที่ด้วยไขมัน 15 ปอนด์ ในทุกๆ 10 ปี นั่นก็ยิ่งทำให้เราสังเกตเห็นเซลลูไลท์ได้อย่างชัดเจน แต่หากเรารู้วิธีการบริหารร่างกายที่ถูกต้อง เซลลูไลท์เหล่านี้ ก็จะลดลงไปได้

และ 6 ท่าการบริหารต่อไปนี้ หากคุณทำเป็นประจำเซ็ทละ 10-15 นาที อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยสลายเซลลูไลท์ให้คุณได้ โดยก่อนเริ่มท่าเหล่านี้ วอร์มเบาๆ ด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน หรือยกเวทสักเล็กน้อยก่อนก็ได้ จากนั้นก็มาเริ่มท่าแรกกันเลย

ท่า Side to Side เป็นการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาหน้า กล้ามเนื้อด้านในของต้นขา กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และกล้ามเนื้อสะโพก ท่านี้ สามารถใช้ดรัมเบลร่วมด้วยก็ได้ แต่หากไม่สะดวกก็เพียงแค่วางมือไว้บริเวณสะโพก จากนั้น ก็ให้ทำในสองขั้นตอนคือ



1. ยืนแยกขาให้ปลายเท้าชี้ออกประมาณ 45 องศา หลังตรงมือถือดรัมเบลไว้ข้างละอันและวางไว้บริเวณสะโพก

2. ก้าวยาวๆ ออกไปทางซ้าย ให้เข่าซ้ายงอ พยายามให้ขนานกับพื้น ขาขวาเหยียด แล้วกลับมาท่าเริ่ม จากนั้นให้ก้าวออกไปทางขวา ในลักษณะเดียวกับการก้าวออกทางซ้าย สลับกันไป

ท่า All-Four Kickback กล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวคือกล้ามเนื้อสะโพก อุปกรณ์ที่ต้องใช้คือ Ankle Weight ในขณะที่ทำท่าออกกำลังกายนี้ต้องให้หลังตรง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักมาลงที่บริเวณหลัง ท่านี้ สามารถบริหารได้โดยไม่ใช้ Ankle Weight เช่นกัน



1. เมื่อสวม Ankle Weight แล้ว ให้คุกเข่าลงกับพื้น วางศอกติดพื้น ให้รับน้ำหนักด้วยช่วงแขน ไม่ใช่ที่มือ หลังตรง ศีรษะขนานไปในแนวเดียวกับหลัง ตามองพื้น



2. ยกขาขึ้น ช้าๆ เริ่มจากขาขวาก่อน โดยให้ท่องขาท่องบนที่ยกขึ้นนั้น ขนานไปกับพื้น ระดับเดียวกับหลัง ปลายเท้าชี้ไปด้านหนัง ไม่ต้องกระดกขึ้น อยู่ในท่านั้นประมาณ 1 วินาที แล้วกลับมาที่ท่าเริ่มต้นใหม่ ยกขาซ้าย สลับกันไป
ท่า Lying Inner-Leg Lift ท่านี้เป็นการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน สามารถใช้อุปกรณ์ Ankle Weight หรือไม่ก็ได้ การบริหารท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อด้านในของช่วงขาแข็งแรง โดยในการบริหาร จะต้องจัดท่าลำตัวท่อนบนให้มั่นคง



1. สวม Ankle Weight นอกตะแคงด้านข้างวางศีรษะไว้บนท่อนแขนช่วงบน มือขวาวางด้านหน้า แตะพื้น ให้ช่วงอกรับท่อนแขนบนไว้ จากนั้น งอเข่าของขาที่อยู่ด้านบนวางเท้าไว้ด้านหน้า โดยเท้าแตะพื้น จากนั้นเหยียดขาที่อยู่ด้านล่างให้ตรง



2. ค่อยๆ ยกขาที่อยู่ด้านล่างขึ้น ในลักษณะขาตรง ค้างไว้ประมาณ 1 วินาที ค่อยๆ ลดขาลง ยกขึ้นลงแบบนั้น 1 เซ็ท แล้วสลับด้านปรับท่านอนเริ่มต้นใหม่


ท่า Squat and Side Lift จะเป็นการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อก้น กล้ามเนื้อขาด้านหลัง ต้นขาด้านหน้า สะโพก และกล้ามเนื้อที่ใช้ดึงเข้าสู่แกนกลาง อุปกรณ์ที่ใช้ Ankle Weight เมื่อสวมอุปกรณ์แล้ว ให้ยืนแยกขาออกวางมือไว้บนสะโพก ศอกชี้ออกด้านข้าง ปลายเท้าชี้ออกด้านข้างเล็กน้อย ศีรษะตรง ตามองไปข้างหน้า ในท่านี้ อาจจะถือดรัมเบลร่วมด้วยก็ได้



1. ค่อยๆ ยกขาออกไปทางด้านข้าง คอยระวังให้หลังตรงเขาตึง พยายามยกขาให้สูงขนานไปกับพื้น ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้น ค่อยๆ ลดลงจนวางเท้าบนพื้น



2. หยุดยืนในท่าเริ่ม แล้วสลับยกขาอีกข้างขึ้นในลักษณะเดียวกัน


ท่า V-Leg Pull เป็นท่าบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านนอก อุปกรณ์ที่ใช้คือ Exercise Band บริเวณต้นขาด้านนอกนี้ มักจะเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิง การบริการท่านี้ จึงไม่เพียงแค่ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ แต่ยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ในการบริการท่านี้ ต้องให้หลังติดพื้น พยายามไม่ให้หลังงอ



1. ใส่อุปกรณ์ Exercise Band ไว้ที่ข้อเท้า นอนลงหลังติดพื้น มือวางด้านข้าง ยกเขาขึ้นตรงโดยแยกขาเล็กน้อยให้อยู่ในระนาบเดียวกับสะโพก



2. ค่อย ๆ แยกขาออกจากกัน ให้มากที่สุด แล้วหยุดไว้ จากนั้น ค่อย ๆ ผ่อนกลับที่เดิม กลับไปในท่าเริ่มต้น แล้วทำใหม่


ท่า One-Legged Lunge เป็นการบริหารกล้ามเนื้อก้น ต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง อุปกรณ์ที่ใช้ อาจเป็นเก้าอี้ หรืมม้านั่งก็ได้ บางคนอาจจะถือดรัมเบลไว้ได้วยก็ได้เช่นกัน



1. ยืนหันหลังให้เก้าอี้ โดยยืนห่างออกไปประมาณ 2 ฟุต พากเท้าไว้บนเก้าอี้ หลังเหยียดตรงศีรษะตั้งตรง ตามองไปข้างหน้า


2. ค่อยๆ ย่อเข่าข้างที่ไม่ได้พาดไว้กับเก้าอี้ ย่อลงให้ขนานกับพื้น ระวังอย่าให้ปลายเท้าที่พาเก้าอี้ชี้ขึ้น หยุดอยู่ท่านั้นสักพัก แล้วกลับท่าเริ่มต้น สลับขา และเริ่มใหม่

ขอบคุณข้อมูล : http://www.prevention.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook