2 ลุคแต่งหน้าแบบสุภาพ ด้วยขั้นตอนอย่างละเอียด จาก แพรี่พาย อมตา
ช่วงไว้ทุกข์เช่นนี้ นอกจากการแต่งกายให้เหมาะสมแล้ว การแต่งหน้า ทำผม ก็ควรเรียบร้อย ถูกกาลเทศะด้วยเช่นกัน การแต่งหน้าด้วยสีที่ฉูดฉาดควรพักไว้ก่อน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้โทรมจนเกินไป ควรเลือกเฉดสีที่ด้วยสีที่สุภาพที่สุด
Sanook! Women มีขั้นตอนการแต่งหน้าแบบเรียบร้อย แต่งตามได้ไม่ยากจาก "แพรี่พาย อมตา" เมคอัพอาร์ทิสต์คนดัง มาบอกต่อค่ะ
แบบที่ 1 ลุคสุภาพ
เหมาะสำหรับทุกโอกาส จริงๆ ลุคนี้ไม่ได้ใช้สีสันอะไรเยอะเลยแม้แต่น้อย เน้นแค่จุดใหญ่ๆ เพื่อสร้างภาพรวมให้ออกมาดูไม่โทรมและถูกกาลเทศะ
ไม่อยากให้มองว่าลุคนี้จะต้องแต่งไปไหนเฉพาะโอกาส จริงๆ เราสามารถใช้ลุคนี้ได้กับทุกช่วงเวลา เพราะเป็นการแต่งหน้าเบสิกที่ดูเรียบร้อย ไม่มีสีฉูดฉาด อยู่ที่การคุมน้ำหนักและการเลือกสีแก้มปากของแต่ละคน
***ลุคนี้คือลุคที่แพรแต่งเพื่อไปร่วมไว้อาลัยเมื่อวันก่อน แต่งตัวทำผมตามแบบฉบับที่ควรเป็น(ชุดไทยจิตรลดา) ก็ได้ลุคที่ดูเป็นทางการ
how to
1.ใช้อายแชโดว์สีอ่อน ลงทั่วเปลือกตา อันนี้แพรใช้สีน้ำตาลตุ่นๆ อมชมพูเล็กน้อย ลงเพื่อลดความบวมของเปลือกตา
2.ลงสีเดิมที่ขอบตาล่าง สามารถทำซ้ำได้เพื่อเพิ่มเงาให้เข้มกว่าด้านบน
3.ลงไฮไลท์บริเวณหัวตาล่าง
4.ลงสีน้ำตาลคอนทัวร์บริเวณข้างจมูกถึงใต้หัวคิ้ว
5.ดัดและปัดขนตา (แพรติดขนตาปลอมแบบสั้นมากแค่ให้พอมีเส้นตาหวานๆ)
6.ทาปาก เลือกสีโทนชมพูน้ำตาลเข้มลงบางๆ ทั่วปาก หรือจะทาแบบไหนก็แล้วแต่ความชอบเลย แต่ถ้าอยากได้ความเป็นพิธีการ ทาเต็มขอบปากจะเรียบร้อยกว่าค่ะ
**ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แพรตั้งใจทำมาก ทำออกมากให้สุดของความสามารถ ทุกอย่างอยู่ในความเหมาะสม ให้เกียรติสถานที่ และรู้ดีเสมอว่าอะไรควรหรือไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็อยากจะให้คำแนะนำไปทีเดียว
เราเข้าใจว่าแต่ละคนมีสไตล์การแต่งหน้าที่แตกต่างกัน ทั้งความชื่นชอบและเทคนิคที่เลือกใช้ตวามความถนัดทุกอย่าง ในกรณีที่ต้องเข้าร่วมงานที่ค่อนข้างเป็น "พิธีการ" ก็มีสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
-เทรนด์การแต่งหน้าแบบคอนทัวร์จัดหนัก ไฮไลท์หน้าพุ่งสว่างวาบจนสะท้อนแสงได้แรงกว่าแสงแฟลช จะทำลายภาพของคำว่าลุคสุภาพ ขอให้พักเอาไว้ก่อน
-ขนตาปลอม ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่ดูเอาละกันว่าติดออกมาแล้วควรกับกาลเทศะหรือไม่ อะไรที่มากเกินไป ไม่ใช่ว่าจะดี จริงๆ มันติดได้แหละ ตามความชอบของคน แต่ถ้ามันหนาสุดๆ ก็เว้นไว้ก่อนนะ
-สีสันที่ฉูดฉาด จากทั้งปาก ตา แก้ม สีแดงหรือชมพู สำหรับแพร แพรว่ามันทาได้ ถ้าโทนทุกอย่างมันดูดีและไม่มากเกินไป แต่เราต้องรู้จักการ balance มันให้ดี
- contact lens หรือ eyeliner ที่ใหญ่เกินไป อาจจะไม่เข้ากับความเป็นพิธีการมากนัก
-การแต่งหน้าคือการดูแลตัวเองอย่างนึง มันคือความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้คนที่เราจะได้พบเจอ เขาจะได้ไม่ต้องมาเห็นอะไรที่ดูไม่เจริญหูเจริญตา การไม่แต่งหน้าบางคนอาจจะมองว่ารู้สึกสบายตากว่าอันนั้นก็แล้วแต่คนมอง "เราไม่ใช่คนเยอะ" และรู้ดีว่าควรจะจัดการกับตัวเองอย่างไรให้ถูกกาลเทศะ ในเมื่อสามารถทำได้ก็ทำ แต่งได้ก็แต่ง ยิ่งแต่งได้ดี ถูกที่ถูกเวลามันก็มีแต่จะดี
อันนี้เป็นแค่ guideline ที่เราสามารถพูดได้จากสิ่งที่เรียนรู้และประสบการณ์ หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คนที่กำลังต้องการคำแนะนำในช่วงนี้นะคะ
เครื่องสำอางที่ใช้
EYESHADOW - Antique Rose #BobbiBrown
EYELINER - Lunasol
EYEBROWS- Anastasia
Hilighter - Ofra
Lips - Tarte #TBT lip paint
Falselash - Diamond Lash
แบบที่ 2 ลุคธรรมชาติ
เราเคยชินกันมาตลอดชีวิตว่าการแต่งหน้าต้องมีครบเครื่อง คิ้ว รองพื้น แป้ง คัดเบ้า อายไลน์เนอร์ ไฮไลท์ คอนทัวร์ แก้ม และปากที่ยังไงก็ต้องทาสีให้เป็นสี ปัจจุบันที่เครื่องสำอางพัฒนาไปไกลแล้ว ทุกแบรนด์มีจุดร่วมกันคือสร้างสรรค์เครื่องสำอางที่ทำให้แต่งออกมาแล้วดูเป็น "ธรรมชาติที่สุด"
สำหรับแพรเมื่อได้ยินคำว่า makeup no makeup เรานึกถึงลุคประมาณว่า
-ผิวดูเต่งตึง ชุ่มฉ่ำ
- มีการตกแต่งโครงสร้างเฉพาะในจุดสำคัญ เช่นเติมเส้นคิ้วที่ขาดหายด้วยฝุ่นผงสีอ่อนๆ เท่านั้น หรืออายไลน์เนอร์ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ (แต่เราต้องมีเพราะตาบวมตุ่ย)
-สีแก้มปากที่มองปุ๊บ นึกถึงคำว่า "มีเลือดฝาด" เลียนแบบสีเข้มที่สุดที่ธรรมชาติสามารถสร้างได้บนผิวจริงของมนุษย์
ซึ่งสีประมาณนี้มักจะมาในแท่งที่ดูเข้มเกินจริง แต่ถ้าเราเลือกใช้สีที่มาจาก lip balm มันก็จะใสและใช้งานง่ายขึ้น
ในลุคนี้แพรคัดเครื่องสำอางให้เหลือน้อยที่สุด โดยการคำนึงถึงเหตุการณ์เฉพาะหน้า ถ้าเรามีเวลาน้อยและเป็นผู้หญิงจริงๆ ที่ไม่มีเครื่องสำอางเยอะ ควรจะใช้อะไรเพื่อให้ได้ลุคธรรมชาติในอุดมคติที่สามารถปรับใช้วิธีเดียวกันได้กับคนที่มีโทน/เฉดสีผิวที่แตกต่างกัน
ถ้าจะถามว่าลุคนี้แต่งไปทำอะไรได้บ้าง? น้อยขนาดนี้จะรอดเหรอ? อยากให้ลองดูค่ะ มันดีกว่าไม่แต่ง เทียบกับการรักษาพยาบาล เราไม่ใช่หมอแต่ก็ต้องรู้วิธีเอาตัวรอดเวลาป่วยไม่สบาย มีดบาดมันไม่ตายแต่ก็ต้องไม่ปล่อยให้เลือดไหลถูกมั้ย มันคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่ทุกคนควรเรียนรู้และฝึกเอาไว้เพื่อช่วยชีวิตตัวเองยามคับขัน การแต่งหน้าก็มีอะไรคล้ายๆ กันนั่นแหละ
HOW TO
1. ใช้คอนซีลเลอร์เนื้อบาง ลงกลบความช้ำบริเวณใต้ตา
2.เบลนให้ทั่ว เน้นช่วงหัวตาลงมาให้สว่างหน่อยนะคะ
3.ปัดแป้งฝุ่นทับเล็กน้อยกันไหล อย่าเยอะเดี๋ยวจะเป็นร่อง
4.ใช้แปรงหัวตัดสะกิดวาดเส้นขนขึ้นมา ฟึ่บ ฟึ่บ ไม่ต้องวาดโครง outline ให้วุ่นวาย
5.ใช้แปรงหัวขน ปัดๆ เขี่ยๆ สีที่วาดเส้นขนไว้จะถูกขยี้ให้จางลงด้วยและทำให้สีฝุ่นนั้นกระจายทั่วโดยยังทิ้งน้ำหนักแบบเส้นขนไว้ในบางส่วน
6.เก็บขอบเพื่อความเรียบร้อย ขั้นตอนนี้จะใช้ cotton bud ช่วยก็ได้ แต่ไม่ค่อยแนะนำคอนซีลเลอร์ มันจะคมกริบเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ
7. ปัดอายแชโดว์สีอ่อนผสมชิมเมอร์เล็กๆ เพื่อให้ตาดูมีประกายทั่วเปลือกตา
8.กรีดอายไลน์เนอร์ด้วยดินสอเจล เป็นเส้นเบสิกไม่วิงหางยาว
9.เติมไฮไลท์หัวตา
10.ลงคอนซีลเลอร์บริเวณขอบปากแล้วเบลนให้จาง ไม่ต้องลงเยอะ แค่พอให้ช่วยเบลนสีปากที่ดูช้ำๆ ให้เสมอกันค่ะ
11.ใช้ลิปบาล์มสีสดๆ หน่อย ลงกลางปาก
12.เบลนสีปากด้วยนิ้ว จะลงซ้ำด้านในก็ทำให้ลุคดูน่ารักดี
**ส่วนที่ติดๆ นิ้วอยู่เอามาแตะๆ ลงแก้ม จะทำให้พวงแก้มมีสีสุขภาพดี พร้อมผิวที่ดูสดชื่นกว่าการใช้บลัชออนแบบแป้งค่ะ
ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ลุคที่สุภาพเรียบร้อย แต่งได้ทุกโอกาสแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : Facebook Pearypie: Make-up Artist/Theatrical Artist
4 ทรงผมสุภาพเรียบร้อย ทำตามได้ไม่ยาก จาก แพรี่พาย อมตา คลิก!