ในวันที่โลหิตไม่ได้ต่อแค่ชีวิต แต่คือหัวใจของครอบครัว

ในวันที่โลหิตไม่ได้ต่อแค่ชีวิต แต่คือหัวใจของครอบครัว

ในวันที่โลหิตไม่ได้ต่อแค่ชีวิต แต่คือหัวใจของครอบครัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“คนในออฟฟิศก็เคยชวนกันไปช่วยบริจาคเลือดมาแล้วครั้งนึงนะ ตอนที่แฟนพี่ปิ๋วป่วย”

ข้อความจากเพื่อนร่วมบริษัท แต่คนละแผนก ส่งมาถึงทีมคอนเทนต์ของเรา ทันทีที่รู้ว่า Sanook! กำลังทำแคมเปญ #MissingtypeTH รณรงค์ให้คนมาบริจาคเลือด

นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่ น.ท.บรรเลง สรวมชีพ สามีของคุณปิ๋ว-วิกาญดา สรวมชีพ Head of Finance & Accounting ของบริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ป่วยหนักที่สุดในชีวิต

“เราเริ่มสังเกตว่าเขาป่วยบ่อย ยังแซวๆ เขาเลยว่า เป็นผู้ชายแข็งแรง กีฬาก็เล่น ทำไมเป็นหวัดบ่อยกว่าเราที่เป็นผู้หญิงอีก อากาศเปลี่ยนนิดหน่อยก็เป็นแล้ว ทักเขาเรื่องนี้อยู่เป็นปี แต่เขาก็ไม่ยอมไปตรวจร่างกายสักทีจนกระทั่งวันที่ 23 ต.ค. ปี 2557 ที่เราพาเขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน” คุณปิ๋วเริ่มเล่าถึงเรื่องราว

“พอหมอเห็นผลเลือดแล้วช็อกเลย เพราะค่าเลือดต่ำมาก ต่ำขนาดที่หมอบอกว่าถ้าเกิดมาช้ากว่านี้ก็มีสิทธิ์หัวใจวายตายได้” คุณปิ๋วเล่าต่อว่า ค่าเลือดที่แพทย์บอกว่าต่ำนั้น คือค่าปริมาตรของเม็ดเลือดแดงโดยเฉลี่ย ที่ค่าปกติตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ 83-97 แต่สำหรับของสามีคุณปิ๋วนั้น ตัวเลขหล่นลงไปเหลือเพียง 10 กว่าๆ เท่านั้น จนแพทย์ต้องให้นอนโรงพยาบาลทันทีและให้เลือดไปทั้งหมด 3 ถุง เพื่อช่วยต่อชีวิตเฉพาะหน้า ส่วนการวินิจฉัยเบื้องต้นของอาการทั้งหมดนี้คือ ‘โรคไขกระดูกฝ่อ’

คุณปิ๋วบอกว่าตอนที่ได้ยินชื่อโรคนี้ครั้งแรกยังไม่เข้าใจว่าเป็นโรคอะไร มีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง แพทย์เจ้าของไข้จึงอธิบายให้ฟังว่าตามปกติ ไขกระดูกจะทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์จะมีอายุประมาณ 100 - 120 วัน แต่เมื่อไขกระดูกฝ่อ จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางเพราะไขกระดูกไม่สามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือดได้

เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัยเบื้องต้นและเริ่มการรักษา คุณปิ๋วจึงพาสามีไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างที่รอผลคือช่วงเวลาของความเครียดอย่างแท้จริง เพราะกลัวว่าความผิดปกติในร่างกายที่เกิดขึ้นนั้นอาจหมายถึงมะเร็ง เมื่อแพทย์ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่มะเร็ง แต่เป็นโรคไขกระดูกฝ่อ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเริ่มรักษาตัวในโรงพยาบาลทันทีที่รู้ผล

ปลายทางของการรักษาคือการหายจากอาการเจ็บป่วย แต่ถนนที่จะไปถึงจุดหมายนั้นไม่ได้ราบเรียบไร้อุปสรรค เพราะผลข้างเคียงจากการรักษาทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายของคุณบรรเลงลดต่ำลง เช่นเดียวกับปริมาณเกล็ดเลือด ที่ทำให้ร่างกายต้องได้รับเลือดอยู่เป็นระยะ และบางครั้งต่อให้ได้รับเลือดแล้ว เกล็ดเลือดก็ยังอยู่ในปริมาณที่น่าเป็นห่วงอยู่ดี

“ค่าเกล็ดเลือดคนทั่วไปจะอยู่ที่ 150,000 - 450,000 แต่ตอนช่วงที่แย่ที่สุดของสามีคือลดลงเหลือประมาณ 5,000 เท่านั้น หลังจากให้เลือดแล้วก็ขึ้นมาเป็นราวๆ 20,000 ในวันที่ได้เลือด แต่พอวันต่อมาก็ลดลงไปเหลือเท่าๆ เดิมอีก ตอนนั้นหมอให้นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ และพยายามไม่ให้กระดุกกระดิกเลย เพราะเสี่ยงเลือดออกข้างใน” คุณปิ๋วยังเล่าต่อว่า “จนมีครั้งหนึ่งภูมิต้านทานเขาลดลงจนติดเชื้อในกระแสเลือด พอติดเชื้อในกระแสเลือดก็ต้องให้ยาฆ่าเชื้ออีก แล้วกลายเป็นว่าผลข้างเคียงจากยาที่รักษาเรื่องนี้มันรุนแรงกว่ายาหลักอีก เขาจะหนาวมาก หนาวจนสั่น หนาวขนาดที่ผ้าห่ม 4-5 ผืนยังแทบเอาไม่อยู่เลย”

สำหรับตัวคุณปิ๋ว ถึงตัวเองจะไม่ใช่ผู้ป่วย แต่ก็เป็นช่วงที่หนักหนาไม่น้อย ความเหนื่อย ความกังวล ความเครียด และความเป็นห่วง ทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปถึง 3-4 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์

ช่วงเวลานั้นเองที่ทางบริษัทสนุก ออกประกาศชวนพนักงานในบริษัทให้ไปบริจาคเลือดให้สามีของคุณปิ๋ว เมื่อถามว่ามีใครไปบ้าง คุณปิ๋วมองไปรอบๆ โต๊ะทำงานแล้วตอบว่า “น้องๆ ที่นั่งแถวนี้ก็ไปบริจาคกันเกือบหมด ทีมเซลส์ ทีมคอนเทนต์ก็หลายคน เขาก็ไปกันเองบ้าง ชวนกันไปเป็นกลุ่มบ้าง”

จากช่วงเวลาที่ต้องออกจากออฟฟิศย่านรัชดาตั้งแต่บ่าย 3 โมง เพื่อไปอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของสามีที่ศิริราชจนถึง 4 ทุ่มทุกคืน จนถึงทุกวันนี้ที่คุณปิ๋วบอกว่า “ตอนนี้อาจจะยังไม่แข็งแรงเท่าเดิม แต่ทุกอย่างเพิ่มขึ้น ภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น ค่าเลือดเพิ่มขึ้น แข็งแรงขึ้น เล่นกีฬา ขี่จักรยาน ออกรอบตีกอล์ฟก็ได้แล้วด้วยนะ”

คุณปิ๋วและคุณบรรเลงมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 19 ปี ซึ่งตอนที่คนเป็นพ่อไม่สบายหนักนั้น เธอยังอายุน้อยไปสำหรับการบริจาคเลือด คุณปิ๋วพูดถึงลูกสาวคนเดียวว่า “แต่ตอนนี้เขาไปบริจาคเลือดมา 2 ครั้งแล้ว เราก็ไม่เคยบอกเขาว่าต้องบริจาคเลือดนะ เขาตัดสินใจของเขาเอง”

“ส่วนหนึ่งเขาคงรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเพราะเห็นจากตอนที่พ่อไม่สบายด้วย”

ร่วมบริจาคเลือดเพื่อต่อชีวิตให้กับคนอื่นอีกมากในแคมเปญ #MissingtypeTH ในวันที่ 30 ตุลาคม 2559 ที่สภากาชาดไทย ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.00 น. เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดในคลังเลือดที่ลดลง สวนทางกับความต้องการใช้เลือดที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sanook.com/missingtypeth

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook