เคล็ดลับกิน มันฝรั่ง ช่วยหุ่นเป๊ะ
มันฝรั่ง กินแล้วไม่อ้วนจริงหรือ?
เนื่องจากเนื้อของ มันฝรั่ง สามารถดูดซับเครื่องปรุงต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันเข้าไว้ในเนื้อได้มากถึงร้อยละ 30-40 จึงเป็นที่มาของห่วงยางรอบเอว
รู้อย่างนี้แล้ว เรามาเรียนรู้เทคนิคปรุงเจ้าผักหัวกลมๆ นี้ให้อร่อย ปลอดภัย ห่างไกลโรคอ้วนกันค่ะ
แนะเมนูอร่อย ถอยน้ำหนัก
อาจารย์นิพนธ์ ฉิมเฉลิม นักโภชนาการอิสระ แนะนำว่า
“เราสามารถนำมันฝรั่งมาทำอาหารสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น ต้มให้สุกแล้วบด จากนั้นโรยเกลือและพริกไทยป่นเล็กน้อย หรือถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น ควรนำส่วนผสมที่ได้ห่อกระดาษฟรอยด์แล้วนำเข้าอบในเตาอบ บดเนื้อมันฝรั่งต้มสุกผสมในน้ำแกง เช่น เมนูหัวปลาต้มเผือก จะทำให้น้ำแกงเข้มข้นขึ้น หรือทำเป็นขนม โดยใช้แทนมันเทศหรือเผือก เช่น บัวลอยเผือก มันทิพย์ เผือกทิพย์ ก็ได้”
หนังสือสารานุกรมผัก เขียนโดย ศาสตราจารย์ ดร.ทวี หงษ์วิวัฒน์ อธิบายว่า แท้จริงแล้วมันฝรั่งเป็นอาหารสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก(และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดชนิดหนึ่ง) เพราะให้แคลอรี่ต่ำ มันฝรั่งต้ม 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 75-80 แคลอรี่เท่านั้น
นอกจากนี้ผักหัวกลมนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6
เทคนิคคู่ครัว ปรุง+เลือกซื้อ+เก็บรักษา
การปรุงมันฝรั่งให้อร่อย
“ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาต้มหรืออบ และควรปรุงทั้งเปลือกเพื่อรักษากลิ่นหอมของมันฝรั่งไว้ และยังช่วยรักษาวิตามินซีในเนื้อไม่ให้ถูกทำลายไป ส่วนน้ำที่ต้มมันฝรั่ง อย่าทิ้ง เก็บไปทำน้ำซุปได้”
การเลือกซื้อมันฝรั่ง
“เลือกหัวที่มีสีเหลืองทอง ไม่มีปุ่มตาของรากที่กำลังงอกหรือหัวที่มีจุดสีเขียวอ่อน นั่นแสดงว่า เป็นมันฝรั่งที่เก็บไว้นาน เนื้อจะไม่อร่อย”
ข้อมูลจากหนังสือ รู้คุณรู้โทษโภชนาการ ( Foods That Harm, Foods That Heal) บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า
มันฝรั่งที่มีจุดเขียวๆ และมีรากงอกออกมามีส่วนประกอบของสารอัลคาลอยด์ (alkaloid) ที่เรียกว่า ซาโคนีน (chaconine) และโซลานีน (solanine) ซึ่งหากมีปริมาณมากเกินไปจะเป็นพิษร้ายแรงได้ จึงควรคัดหัวที่มีจุดเขียวทิ้งไป
สำหรับผู้แพ้สารโซลานีนในมันฝรั่ง แม้ได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เป็นไมเกรนได้
วิธีการเก็บ เพื่อยืดอายุมันฝรั่ง
“ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น เพราะจะกระตุ้นให้มันฝรั่งเกิดการงอกของรากอย่างรวดเร็ว ควรวางมันฝรั่งไว้ในห้องอุณหภูมิปกติและอากาศถ่ายเทสะดวก”
กินมันฝรั่งและผักชนิดอื่นๆ หมุนเวียนกันไป ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้หุ่นดี แต่อย่าลืมนอน พักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงานให้สมดุลด้วยค่ะ
ที่มา : นิตยสารชีวจิต
รูปภาพ : http://www.istockphoto.com/