ระวัง! โรคผิวหนังในช่วงหน้าหนาว กับวิธีรับมือดูแลผิวอย่างถูกต้อง

หน้าหนาว.. นอกจากเราจะต้องใส่ใจดูแลร่างกายให้อบอุ่นเพื่อป้องกันการเป็นหวัดแล้ว ในเรื่องของปัญหาผิวเราก็จะต้องใส่ใจดูแลเช่นกัน เพราะอากาศที่หนาวเหน็บ หากไม่ดูแลผิวดีๆ ก็อาจก่อให้เกิดผิวหนังอักเสบตามมาได้ ซึ่งโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาวจะมีอะไรบ้าง และวิธีดูแลผิวหน้าหนาวต้องทำอย่างไร เราไปทำความรู้จักและรับมือไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

โรคผิวหนัง เกิดได้ด้วยกันหลายอาการดังนี้

1.โรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการมีผิวแห้ง หรือที่เรียกว่า “ซีโรติกเอ็กซีม่า” โดยเกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวแห้ง ลอก มีอาการคัน และเกิดการอักเสบได้ในที่สุด ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะผิวหนังแดงๆ คล้ายกับอาการผิวหนังอักเสบโดยทั่วไปนั่นเอง

2.ริมฝีปากแห้ง แตกและอักเสบ อาการนี้ก็มักเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณปากที่มักจะส่งผลให้เห็นชัดเจน

3.มือแห้ง โดยเฉพาะที่บริเวณปลายนิ้ว ยิ่งกับคนที่ชอบล้างมือบ่อยๆ ก็จะก่อให้เกิดการเสียดสี ส่งผลให้ผิวบริเวณนิ้วที่มีความบอบบางอยู่แล้วยิ่งมีปัญหาผิวหลุดลอกได้ง่ายยิ่งขึ้น

4.ผิวหน้า จะพบว่ามีปัญหาผิวหน้าแห้ง ลอกเป็นขุย อันเนื่องจากผิวขาดความชุ่มชื้น

5.ผิวไหม้แดด ปัญหานี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในฤดูหนาวเช่นกัน เพราะเมื่ออากาศหนาวเย็น บางคนก็จะออกมาตากแดดเพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น แต่กลับหารู้ไม่ว่า ในฤดูหนาวนั้นแสงแดดจะร้อนแรงมากทีเดียว หากผิวอันบอบบางได้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงก็จะก่อให้เกิดผิวไหม้แดดได้ง่ายขึ้น

วิธีดูแลผิวหน้าหนาวให้นุ่มชุ่มชื้น ไร้ปัญหาผิวหนังต่างๆ

1.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุณหภูมิสูง

ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าหรืออาบน้ำก็ตาม ไม่ควรใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจัดเด็ดขาด ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ เพราะความร้อนจะทำลายความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและยิ่งแห้งมากขึ้น

2.รีบบำรุงผิวหลังอาบน้ำทันที

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้งสนิท แต่ควรรีบทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นบำรุงหลังจากอาบน้ำทันที เพื่อให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้อย่างยาวนานมากที่สุด และในตอนกลางวันก็ควรทาครีมกันแดดตบท้ายด้วยเสมอ เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี อย่าเพิ่งคิดว่าหน้าหนาวจะไม่มีแสงแดดรอทำลายผิว เพราะแม้อากาศเย็น รังสียูวีก็ยังแผ่กระจายอยู่ทั่วไปได้ดังเดิม ซึ่งแสงแดดบวกกับอากาศเย็นๆ นี่เองค่ะที่จะยิ่งทำลายผิวให้ขาดความชุ่มชื้นได้มากยิ่งขึ้น

3.สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิวได้มิดชิด

ในหน้าหนาวก็ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าแขนยาว กางเกงขายาว เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ได้สัมผัสกับสายลมแสงแดดมากจนเกินไป เป็นการถนอมและปกป้องผิวอีกทางหนึ่งที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นผิวเอาไว้ได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น ลดปัญหาผิวหนังแห้งแตกได้เป็นอย่างดี

4.ไม่ควรล้างมือบ่อยเกินไป

ใครที่รักความสะอาดเกินไป โดยมักจะใช้เจลล้างมือบ่อยๆ หรือล้างมือบ่อยครั้งเพื่อกำจัดเชื้อโรค แนะนำให้พยายามลดพฤติกรรมดังกล่าวลงหรือหาทางหลีกเลี่ยงที่จะเอามือสัมผัสสิ่งสกปรกโดยตรงแทนจะดีกว่า เพราะการทำความสะอาดมือด้วยวิธีดังกล่าวบ่อยๆ จะยิ่งเป็นการทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงใต้ผิว ทำให้ผิวมือของคุณยิ่งแห้งและหยาบกร้านมากขึ้น

5.ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากเสมอ

ในส่วนของใบหน้า นอกจากบำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเข้มข้นเป็นอย่างดีเช้า-เย็นแล้ว ริมฝีปากที่มักเกิดปัญหาแห้งแตกบ่อยๆ ก็ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง ควรทาลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากสวยสุขภาพดีอยู่เสมอ และถ้าจะให้ดีควรเลือกลิปที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วยจะดีที่สุด

นอกจากนี้แล้ว ก็ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอ โดยดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 2 ลิตรเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ผิวก็จะได้รับความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ไร้ปัญหาความแห้งกร้านจนเกิดปัญหาผิวหนังตามมา และควรกินผักผลไม้ที่มีประโยชน์ให้มากๆ เช่นกัน เพื่อที่สารอาหารต่างๆ จะได้ทำหน้าที่ซ่อมแซมผิวที่สึกหรอและบำรุงผิวจากภายในได้อย่างเต็มที่ ปัญหาผิวหนังอักเสบก็จะลดลงได้ค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock, pixabay