พลาดไม่ได้! 10 แบรนด์นาฬิกาคู่รักมาแรง

“นาฬิกาคู่รัก” สื่อรักมาแรง ที่นอกจากจะสวมใส่เป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ในทุกครั้งเมื่อคนรักพลิกข้อมือดูนาฬิกาก็ชวนนึกถึงผู้ที่มอบให้เคล้าคลอกับภาพความทรงจำและความรู้สึกดีๆ ย้อนกลับมาชวนให้อมยิ้มคิดถึงกันเสมอ  ล่าสุด ห้างเซ็นทรัล รวบรวม 10 แบรนด์นาฬิกาคู่รักที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดชิคและมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ไว้ในงาน  ‘Central Season of Giving 2017 A Million Ways to Love’ เพื่อให้คู่รักทุกคู่ได้เลือกสรรนาฬิกาคู่เรือนพิเศษ และมอบเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์เติมความหวานให้แก่กันตั้งแต่วันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ 2560 ณ  แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา

 

ลองจิ้นส์ (Longines) 

สำหรับบุรุษ Master (117,400 บาท) คือนาฬิกาตัวเลือกแรกแห่งรักหวาน ที่มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล หน้าปัดโดดเด่นด้วยลายบาร์ลีย์คอร์นสีเงิน หน้าปัดย่อยมูนเฟสและวงทดเวลา 12 ชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา หน้าปัดย่อยวินาที และชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยแสดงวันและเดือน ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ฝาหลังใสเผยให้เห็นการทำงานของเครื่องจักกลแบบขึ้นลานอัตโนมัติ L678 สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง กันน้ำลึก 30 เมตร พร้อมสายหนังสืน้ำตาล

ขณะที่สุภาพสตรี มาพร้อมคอลเล็กชั่น DolceVita (58,500 บาท) อันเลื่องชื่อ ตัวเรือนสตีลทรงเหลี่ยมขนาด 23 x 37 มม. หน้าปัดมุกสีขาวประดับเพชร ณ ตำแหน่งบอกชั่วโมง บอกเวลาด้วยเช็มแบบบลูสตีล ทำงานด้วยกลไกควอตซ์ พร้อมสายสตีล

 

แฮมิลตัน (Hamilton)

        เครื่องบอกเวลาอันเลอค่าสำหรับคู่รักทุกคู่ที่กับคอลเล็กชั่นนาฬิกาแบบเปลือยกลไกทั้งหน้าปัดและด้านหลังตัวเรือน Hamilton Jazzmaster Viewmatic Skeleton ที่มาพร้อมกับกลไกขึ้นลานอัตโนมัติเฉพาะตัว ‘คาลิเบอร์ H-20-S’ ซึ่งเป็นเครื่องกลที่มีความแม่นยำสูง เต็มไปด้วยรายละเอียดขั้นสุดแห่งตัวเรือนของสุภาพบุรุษสร้างขึ้นจากสเตนเลส สตีล สีโรสโกลด์ ขนาด 40 มม. หน้าปัดสีเทาเงินรับกับสายหนังสีน้ำตาลเข้มสะท้อนถึงความเป็นผู้นำทันสมัย ขณะที่ตัวเรือนของสุภาพสตรีสร้างขึ้นจากสเตนเลส สตีล ขนาด 36 มม. หน้าปัดสีขาวเจาะช่องเพื่อให้เห็นกลไกคาลิเบอร์ H-20-S ภายใน มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาล (ทั้งสองรุ่นราคา 42,600 บาท)

 

ราโด (Rado)

        เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาที่คู่รักไม่ควรพลาดกับคอลเลคชั่น ราโด เซ็นทริกซ์ โอเพ่น ฮาร์ท  (Rado Centrix Open Heart) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานความรักสุดโรแมนติกจากชาวจีนโบราณ เรื่อง “เจ็ดนางฟ้า” ที่สองคู่รักต้องพลัดพรากและอนุญาตให้พบกันเพียงปีละ 1 ครั้ง ณ ทางช้างเผือก ทำให้การดีไซน์ตัวเครื่องจะเน้นเผยให้เห็นเครื่องจักรอัตโนมัติภายใน เปรียบเสมือนจังหวะการเต้นของหัวใจ สำหรับรุ่นของสุภาพบุรุษ (71,300 บาท) ตัวเรือนประกอบเข้ากับสายไฮเทคเซรามิกสีน้ำตาลที่เรียวบางลง โอบกระชับข้อมือได้แนบสนิท หน้าปัดขนาด 38 มม. สำหรับรุ่นของสุภาพสตรี (82,000 บาท) ดีไซน์ขนาดหน้าปัดกว้าง 33 มม. และประดับเพชรสีทอป เวซเซลตัล 12 เม็ด พร้อมเผยให้เห็นกลไกระบบออโตเมติกภายในด้านล่างของตัวเครื่อง ในลักษณะวงพระจันทร์คว่ำ ซึ่งเปรียบเสมือนสะพานที่ทั้งสองคนจะได้พบกัน

 

ชาริออล (Charriol)

ชาริออลสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนงาม และเต็มไปด้วยเอกลักษณของแบรนด์อย่าง St. Tropez เด่นด้วยการออกแบบของสายด้วยสเตนเลสสตีลขดร้อยเป็นสายเคเบิ้ล 6 เส้น ขณะที่ตัวเรือนของสตรีและคลิปรัดสายเคเบิ้ลสเตนเล สตีล สีโรสโกลด์  ขอบเรือนเป็นสายเกลียวประดับเพชร เช่นเดียวกับบนหน้าปัดมุกสีขาว ประดับเพชร ณ ตำแหน่งบอกชั่วโมง และสายโซ๋ห้อยข้างตัวเรือนเพิ่มความหรูหรา (157,000 บาท)

ขณะที่นาฬิกาสำหรับบุรุษก็ดูหนักแน่นด้วยรุ่น Alexandre C ขนาดหน้าปัด 40 มม. ตัวเรือนสเตนเลส สตีล สีโรสโกลด์ ขอบเรือนใหญ่ สลักโลโก้แบรนด์ Charriol สายนาฬิกาเคเบิ้ล 6 แถว เอกลักษณ์ของแบรนด์ (119,000 บาท)

 

โอริส (Oris)

นาฬิกาคู่รักในแบบลึกลับ ด้วยตัวเรือนสเตนลสสตีล ขอบเรือนเป็นเซรามิกพร้อมขีดบอกนาที ขณะที่หน้าปัดสีน้ำเงินดูสงบเยือกเย็น เข็มบอกชั่วโมง นาที และตัวเลขบอกชั่วโมงตกแต่งด้วยพรายน้ำเรืองแสงในที่มืด มาพร้อมระบบอัตโนมัติด้วยฟันเฟืองหมุนแบบ bi-directional ด้านหลังเปลือยเพื่อแสดงฟันเฟืองที่จัดเรียงอย่างสวยงาม มาพร้อมสายยางและสเตนเลส สตีล มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 36 มม.สำหรับสตรี (57,900 บาท) และ 43 มม.สำหรับบุรุษ (61,900 บาท)

 

   มอริส ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix)

มอริส ลาครัวซ์ สร้างสรรค์นาฬิกา Aikon มาอย่างต่อเนื่องกว่า 25 ปี โดดเด่นด้วยตัวยึด 6 ตัวที่ขอบเรือน  สำหรับบุรุษ ตัวเรือนขนาด 42 มม.เน้นความบึกบึน หน้าปัดสลักลายทาง มีช่องบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ตัวเรือนสเตนเลสเข็มแข็งเข้ากัน (45,000 บาท) ขณะที่เรือนสตรีดูอ่อนช้อยด้วยขนาดเรือน 35 มม. หน้าปัดมุกหรูหรา พร้อมตัวเลขบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมกลไกควอตซ์พร้อมสายสเตนเลสสตีลเช่นกัน (48,000 บาท)

 

อิซเซ่ มิยาเกะ ทเวลฟ์ (Issey Miyake Twelve)

นาฬิกาเรือนเรียบหรู จากการออกแบบของ นาโอโคโตะ ฟูกาซาวา (Naoto Fukasawa) นักออกแบบชื่อดัง กลายเป็นผลงานที่เน้นความเรียบง่าย แต่มีดีเทลแปลกตา นับจากตัวเรือนสเตนเลสสตีลสีเทาเข้ม ที่มีของหน้าปัดด้านในรูป 12 เหลี่ยมตามจำนวนชั่วโมง โลโก้แบรนด์ประดับบนเข็มสั้นแสดงชั่วโมง บอกเวลาเที่ยงตรงด้วยระบบควอตซ์ พร้อมสายหนังสีดำโก้หรู ออกแบบมา 2 ขนาดคือ 38 มม.(15,900 บาท) และ 28 มม. (14,900 บาท)) สำหรับสองเรา

 

  คาสิโอ (Casio)

นาฬิกาคู่รักหวาน ออกแบบตัวเรือนด้วยเรซินสีขาว และสายนาฬิกาเรซินขาว สำหรับ G-SHOCK (GA-110LD ) (11,900 บาท) ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และคลื่นแม่เหล็ก กันน้ำลึก 200 เมตร พร้อมสวิตซ์เปิดไฟอัตโนมัติ เลือกระยะเวลาการเรืองแสง และแสงระเรื่อได้ แสดงเวลาโลก โซนเวลา สามารถสลับระหว่างเวลาที่บ้านและเวลาโลกได้ รูปแบบจับเวลส สามารถจับเวลาในโหมด Elapsed time, Lap time, Split time, นับเวลาถอยหลัง  จับเวลาความละเอียด 1/1000 วินาที นาฬิกาปลุก ปฏิทิน  อะนาล็อก 2 เช็มบอกเวลาชั่วโมง และนาที

ขณะที่นาฬิกา BABY-G (BA-110LD) (11,900 บาท) กันน้ำลึก 100 เมตร แสดงโซนเวลา 28 โ.ซน ตัวจับเวลาละเอียด 1/100 วินาที พร้อมฟังก์ชั่น Elapsed time, Split time เวลาเข้าเส้นชัยของที่ 1 และที่ 2 จับเวลาถอยหลัง นาฬิกาปลุก ปฎิทิน บอกเวลาแบบอะนาล็อก 2 เข็มนาฬิกา

 

นิกสัน (Nixon)

“The Kingpin” และ “The Queenpin” ตอบโจทย์คู่รักผู้ชื่นชอบนาฬิกาสไตล์ Minimalist ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นตามแบบฉบับของ Nixon ซึ่งแม้ว่าจะดูเรียบแต่แฝงความโก้หรู และมีกลิ่นอายสปอร์ต สำหรับตัวเรือนเป็นสแตนเลส สตีล สีทองตัดกับหน้าปัดสีดำล้วนอย่างลงตัว ขนาดหน้าปัด 41 มม.  (12,900 บาท) และขนาด 36 มม. (13,000 บาท) ดูเรียบง่าย สะอาดตา พร้อมเพิ่มลุคให้ดูเท่เนี้ยบเรียบหรูด้วยดีไซน์ฝังเพชรแท้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ยิ่งใส่คู่กันยิ่งสวยสง่าเข้ากันได้ดี

 

แดเนียล เวลลิงตัน (Daniel Wellington)

มาพร้อมความเรียบง่าย และคลาสสิกในรุ่น Classic Black โดดเด่นที่หน้าปัดสีดำ สายแบบ Nato สีดำ วัสดุไนลอนเข้ากับตัวเรือน หน้าปัดสีดำซึ่งมีให้เลือก 2 ไซส์ 36 มม. สำหรับสุภาพสตรี (6,990 บาท) และ 40 มม. สำหรับสุภาพบุรุษ (6,990 บาท) ขอบเรือนมี ให้เลือกสีทอง หรือเงิน กลไกระบบควอทฬจากญี่ปุ่น เพื่อความแม่นยำในการบอกเวลา