ฟอร์บส์ จัดอันดับนายกหญิงเยอรมันเป็นสตรีทรงอิทธิพลสูงสุดอีกสมัย

ฟอร์บส์ จัดอันดับนายกหญิงเยอรมันเป็นสตรีทรงอิทธิพลสูงสุดอีกสมัย

ฟอร์บส์ จัดอันดับนายกหญิงเยอรมันเป็นสตรีทรงอิทธิพลสูงสุดอีกสมัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

ฟอร์บส์ จัดอันดับ 100 สตรีทรงอิทธิพลของโลก นายกฯ หญิงเยอรมันคั่วอันดับ 1 ฮิลลารี อันดับ 36 สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ติดอันดับเป็นครั้งแรก ส่วนทางด้านสตรีเอเชีย มาดาม โฮ ชิง ได้อันดับสูงสุดอยู่ที่ 5

นิตยสารฟอร์บส์ ประกาศผลการจัดอันดับ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ.2552) โดยนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดอันดับหนึ่งเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน

นางแมร์เคิล วัย 55 ปี ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) และเธอได้รับการคาดการณ์ว่าจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายนนี้

สำหรับสตรีที่เป็นบุคคลสำคัญระดับโลกรายอื่นๆ ที่ติดอยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้ได้แก่ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ที่ติดอยู่ในอันดับที่ 36 ตกจากอันดับที่ 28 ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังมีสถานะเป็นหนึ่งในตัวเลือกลงชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครต

ขณะเดียวกัน นางมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ก็มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยเธอติดอยู่ในอันดับที่ 40 เหนือ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังที่อยู่ในอันดับที่ 41 และ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ที่อยู่ในอันดับที่ 42

นอกจากนางโอบามาแล้ว นางโซเนีย โซโตมายอร์ ประธานศาลฎีกาเชื้อสายสเปนคนแรกของสหรัฐฯ ก็มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลกเป็นครั้งแรกเช่นกัน โดยเธอถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 54

สำหรับสตรีจากทวีปเอเชียที่น่าสนใจซึ่งมีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับครั้ง นี้ก็ได้แก่ นางโฮ ชิง ซีอีโอของบริษัทเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ ติดอันดับที่ 5 นางโซเนีย คานธี หัวหน้าพรรคคองเกรสของประเทศอินเดีย ติดอันดับที่ 13 นางกลอเรีย อาร์โรโย ประธานาธิบดีของประเทศฟิลิปปินส์ ติดอันดับที่ 44 และ สมเด็จพระราชินีราเนีย แห่งประเทศจอร์แดน ติดอันดับที่ 75 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นางคอนโดลีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้หลุดออกจากการจัดอันดับดังกล่าว ภายหลังจากที่เธอพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การจัดอันดับ 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลกโดยนิตยสารฟอร์บส์จะพิจารณาจากปัจจัยทางด้านอิทธิพล ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ การปรากฏตัวในสื่อ และการประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของสตรีรายนั้นๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook