วิธีรักษาส้นเท้าแตก เติมความมั่นใจให้สาวๆ พร้อมอวดเท้าสวยสุขภาพดี

เท้า...อาจจะดูเหมือนอวัยวะที่ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าใดนักในเรื่องความสวยความงาม แต่ทราบหรือไม่ว่าส้นเท้าที่แห้งแตก ลอกเป็นขุย จนมองเห็นเป็นลายแทงสมบัติ สิ่งเหล่านี้กลับไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป เพราะสาวๆ ที่รักการสวมใส่รองเท้าเพื่ออวดโชว์ผิวบริเวณดังกล่าวจะต้องหมดความมั่นใจเมื่อปัญหานี้เกิดขึ้น

ดังนั้นเท้าจึงเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ผิวส่วนอื่นๆ หากเผชิญกับปัญหาความแห้งลอก ลองเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ และหาต้นตอของปัญหา เพื่อให้ผิวเท้าของสาวๆ กลับมาเนียนนุ่ม พร้อมสวมใส่รองเท้าอวดโฉมผิวสุขภาพดีกันได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

ปัญหาส้นเท้าแตก มีสาเหตุมาจากอะไร ?

ส้นเท้าแตกที่สาวๆ ต้องเผชิญ เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย อาการส้นเท้าแตก ไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกไม่สบายเท้า อาการอาจรุนแรงจนทำให้เลือดออก เดินลำบาก และยังหมดความมั่นใจในการสวมใส่รองเท้าแตะ สาวๆ จึงจำเป็นต้องเลือกรองเท้าชนิดหุ้มส้นเท่านั้นเพื่อแก้ปัญหา แม้สาเหตุจะไม่แน่ชัด แต่เมื่อเกิดขึ้นเลยก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนทำให้อาการรุนแรง สาวๆ ควรรีบทำการรักษาตั้งแต่อาการเพิ่งปรากฏ ด้วยการใช้ครีมดูแลส้นเท้า และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้เหมาะสม

วิธีรักษาส้นเท้าแตกให้ถูกวิธี

การเลือกใช้ครีมบำรุงเท้า ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น เป็นครีมที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ทาในบริเวณนี้โดยเฉพาะ เนื้อครีมจะมีความเหนียวเข้มข้นเป็นพิเศษ ทาในช่วงก่อนไปทำงาน และก่อนนอนทุกวัน แนะนำว่าครีมที่ใช้ควรมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติอย่างว่านหางจระเข้และน้ำมันงา ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ส้นเท้าที่แห้งแตก ค่อยๆ ลดอาการแข็งกระด้าง สัมผัสได้ถึงผิวที่นุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ

นอกเหนือจากการทาครีมบำรุงแล้ว การ "ขัดเท้า" เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยกำจัดเอาเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอก เผยเซลล์ผิวใหม่ที่มีความเนียนนุ่มมากขึ้น ในขั้นตอนขอการขัดผิว สาวๆ จะต้องระมัดระวังไม่ใช้แปรงที่มีความแข็งจนเกินไป เพราะจะทำให้ส้นเท้าเกิดบาดแผล ขัดเพียงแค่เบาๆ เพื่อกระตุ้นเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกไป จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนู แล้วทาครีมบำรุงเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ในการขัดเท้าทำเบื้องต้นสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ส่วนการทาครีมบำรุง ให้ทำเป็นประจำ แม้ส้นเท้าที่แห้งแตกจะหายดีแล้วก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาไม่ให้ส้นเท้ากลับมาแห้งลอกได้อีกนั่นเองค่ะ