Dog to Dog Communication พูดจาภาษา หมา

Dog to Dog Communication พูดจาภาษา หมา

Dog to Dog Communication พูดจาภาษา หมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สอนสุนัข

ปราศจากการส่งเสียง สุนัขสองตัวเพิ่งจะมาพบหน้ากันเป็นครั้งแรก และใช้เวลาในการทำความรู้จักกันไม่กี่วินาที ทั้งคู่ก็รู้แล้วว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้จะเป็นมิตรหรือศัตรู แล้วสุนัขสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่ต้องอาศัยการพูดจา? คำตอบก็คือ การแสดงออกทางใบหน้า ภาษากาย และกิริยาท่าทาง จริงที่ว่าอาจจะมีการส่งเสียงเห่าหรือคำรามบ้างแต่สารที่สื่อออกไปก็จะไม่สมบูรณ์หากปราศจากภาษากาย
ร่างกายส่วนต่างๆของสุนัขล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปแบบการสื่อสารแบบนี้ด้วยกันทั้งสิ้น และความต่อไปนี้คือ ภาษากายเบื้องต้นสำหรับสุนัข

Facial Expressions
การรวมกันของการแสดงออกทางใบหน้าสามารถสื่อสารถึงอารมณ์ของสุนัข และเจตนาที่จะสามารถทำให้สัตว์ตัวอื่นรวมไปถึงมนุษย์เข้าใจถึงอารมณ์นั้นได้ด้วย
- อารมณ์สบายๆ : สายตาอ่อนโยน มองดูแต่ไม่ถึงกับจ้อง หูลู่ไปข้างหน้าหรือตกลง ปากเปิด ริมฝีปากไปข้างหลังเหมือนการยิ้ม และลิ้นห้อยออกมาจากด้านหนึ่งด้านใดของปาก
- กังวล : ตามองไปที่ด้านข้าง หูลู่ไปทางด้านข้างหรือตกลง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ริมฝีปากหด มองไม่เห้ฯลิ้น หรือมีการเลียริมฝีปาก
- ขู่ : ดวงตาจ้องมอง หูลู่ไปข้างหน้า และเห็นฟัน
- กลัว : ตามองไปข้างหน้าหรือมองไปที่อื่น รูม่านตาขยาย หูลู่ติดไปกับศีรษะ หายใจลำบาก และขากรรไกรตึง
- เครียด : อ้าปากกว้าง ผสมกับท่าทางจากอารมณ์กังวลและกลัว

Head-Neck Position
- หัวตก : ยอมจำนน หรือเศร้า
- หัวตั้งตรงในตำแหน่งปกติ : ทุกอย่างเป็นปกติ
- หัวและคอเอนไปด้านข้าง : แสดงความเคารพ
- หัวชูขึ้นสูง คอชะเง้อไปข้างหน้า : สนใจ ท้าทาย หรือขึ้นอยู่กับท่าทางอื่นๆ
- วางหัวไว้ที่หลังของสุนัขอีกตัว : แสดงท่าทีว่ามีอำนาจเหนือกว่า


Torso/Trunk/Upper Limb
- กล้ามเนื้อตึง และแยกเขี้ยว : ขู่และเตรียมตัวที่จะต่อสู้

Gestures
- หัวก้มต่ำ ตะโพกยกสูง : เป็นสื่อสากลว่าสุนัขมีความสุขและเชิญชวนให้มาเล่นด้วย
- เอาเท้าวางไว้ที่หลังของสุนัขอีกตัว : แสดงการมีอำนาจเหนือกว่า
- วิ่งเป็นวงกลม : แสดงการมีอำนาจเหนือกว่า
- กลิ้งไปกลิ้งมา : ยอมจำนน หรือเคารพ
- ปัสสาวะโดยการยกขาขึ้น : แสดงการมีอำนาจเหนือกว่า หรือไม่เกรงกลัว
- เดินถอยหลัง : ไม่แน่ใจ หรือกลัว

Tail Position
- หางยกขึ้น : ตื่นตัว มั่นใจ และแสดงการมีอำนาจเหนือกว่า
- หางแกว่งไปมา : สุนัขมีพลังงานเหลือเฟือ ตื่นเต้น หรือไม่สบายใจ
- หางตก : กลัว หรือยอมจำนน
- หางขนานกับพื้นและแกว่งไปมาช้าๆ : ระวังภัย

ไม่มีท่าทางเพียงหนึ่งอย่างที่จะสามารถบอกเราได้ว่าตอนนี้สุนัขกำลังรู้สึกอะไรอยู่ แต่ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะพิจารณาจากภาษากายทั้งหมดที่เจ้าตูบแสดงออกมาก็จะพบว่ามันเป็นความคิดที่ดีทีเดียวในการทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ในหัวของสุนัข

แต่บางครั้งภาษากายของสุนัขก็ไม่แน่นอนเสมอไป เช่น มันไม่ใช่เรื่องปกติที่เราจะเห็นว่าสุนัขตัวหนึ่งคำรามใส่สุนัขอีกตัว เดินถอยหลังออกทางด้านข้าง และหางแกว่งไปมา ซึ่งทั้งหมดสรุปรวมได้ว่าสุนัขกำลังกลัว เมื่อไหร่ก็ตามที่มีภาษากายเพียงหนึ่งอย่างที่สุนัขแสดงออกมาว่าสุนัขกลัว แม้ว่าภาษากายอื่นๆที่แสดงออกพร้อมกันจะไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ให้คิดไว้ก่อนว่าสุนัขกลัว

อีกหนึ่งภาษากายของสุนัขก็คือ กลิ่น เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่มีประสาทในการรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม มันเหมือนกับว่าสุนัขสามารถเรียนรู้เรื่องราวของสุนัขอีกตัวได้เยอะมากจากการดมกลิ่น มันยากที่จะจินตนาการว่าข้อมูลข่าวสารใดที่ถูกส่งผ่านทางปัสสาวะเหล่านั้น
การสื่อสารแบบไม่ใช่เสียงระหว่างสุนัขนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาโดยที่เจ้าของสุนัขไม่ได้ตระหนักถึง อย่างไรก็ดีสุนัขบางตัวก็อาจจะสื่อสารได้แย่เมื่อพวกเขาโตขึ้นมาโดยปราศจากสุนัขตัวอื่นอยู่ใกล้ๆ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคืออายุ 3- 6 สัปดาห์ ถ้าช่วงอายุดังกล่าวสุนัขไม่ได้พบปะหรือเจอกับสุนัขตัวอื่นๆเลย เมื่อโตขึ้นพวกเขาจะไม่ได้เรียนรู้การสื่อสารด้วยภาษากายของสุนัข พวกเขาอาจจะเข้าทำร้ายสุนัขอีกตัวหรือถูกสุนัขตัวอื่นทำร้ายเมื่อเกิดการจ้องหน้า หรืออะไรก็ตามแต่ พวกเขาจะไม่รู้สัญญาณของการยอมแพ้เมื่อถูกโจมตี เป็นต้น

สุนัขส่วนใหญ่จะไม่เกิดอาการ Lost in Translation แบบนี้และสามารถที่จะสื่อสารถึงสิ่งที่ต้องการได้ สำหรับมนุษย์แล้วเราไม่สามารถใช้ภาษากายได้ดีเท่ากับสุนัข การเรียนรู้ภาษากายของสุนัขทำให้เราสามารถเข้าใจสิ่งที่เจ้าตูบกำลังคิด หรือกำลังทำ ช่วยส่งเสริมความเข้าใจระหว่างคุณกับเพื่อนซี้สี่ขาให้มีมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook