ศัลยกรรมปาก ก้าวล้ำไปไกลกว่าที่ใครๆคิด
การศัลยกรรมดูจะเป็นเรื่องที่ธรรมดาไปแล้วในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเซเลป ดารา หรือคนธรรมดาทั่วไป ก็ล้วนแล้วแต่อยากเพิ่มความสวย ความมั่นใจให้ตัวเองด้วยกันทั้งนั้น นอกจากจะเพิ่มความสวยสดใสให้กับรูปร่างหน้าตาแล้ว ยังเสริมให้โหง้วเฮ้งบนใบหน้าดูดีขึ้น รับทรัพย์ เพิ่มการได้รับโอกาสดีๆที่จะเข้ามามากขึ้น ซึ่งศัลยกรรมที่นิยมเสริมแต่งกันได้แก่ ศัลยกรรมตา จมูก และ คาง แต่ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยอีกหนึ่งศัลยกรรมเพราะได้รับความสนใจและนิยมมากๆ ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ "การศัลยกรรมปาก"
"ศัลยกรรมปาก" คือ การแก้ไขเปลี่ยนรูปทรงริมผีปากให้มีรูปปากที่สวยงามตามแบบที่เราอยากจะให้เป็น เช่น ปากบาง ปากกระจับปากปีกนก เป็นต้น เพื่อเสริมรอยยิ้มให้สวย สดใส และเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้า ดังนั้นศัลยกรรมปากจึงนิยมกันมาก เป็นอันดับต้นๆของศัลยกรรมความงามของใบหน้าเลยทีเดียว
นอกจากนั้น "ศัลยกรรมปาก ยังก้าวล้ำไปไกล กว่าที่ใครๆคิด" ซึ่งบางคนอาจเกิดจากอุบัติเหตุที่ได้รับมา หรือ ในบางคนที่ได้รับความทุกข์จากรูปปากที่ผิดรูป ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ส่งผลให้ปากที่เคยสวยงามนั้นเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดเป็นปมด้อย ทำลายความมั่นใจ ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น"ศัลยกรรมปาก" จึงเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้รูปปากนั้นกลับมีความสวยงามโดดเด่นและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ได้รับการแก้ไข้ ให้กลับมา มีความสุขบน มีรอยยิ้มที่งดงามอีกครั้ง
ซึ่งการศัลยกรรมปากนี้ไม่ใช่ว่าหมอศัลยกรรมทั่วๆไป จะผ่าตัดทำให้ออกมาดูดีอย่างที่ต้องการได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยคุณหมอที่มีความเชียวชาญเฉพาะด้าน มีประสบการณ์ที่ยาวนาน ซึ่งมีคนไข้ให้ความไว้วางใจ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ได้ผลดีที่สุด
โดยการเตรียมตัวก่อนทำปากกระจับ นั้นมีดังนี้
สำหรับข้อควรปฏิบัติเป็นอย่างแรกก็คือ การงดรับประทานอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี หรือ น้ำมันตับปลา เพราะอาหารเสริมเหล่านี้มีส่วนช่วยให้เกิดการแข็งตัวของเลือด ทำให้บาดแผลจากการศัลยกรรมนั้นหายได้ช้าลง อย่างที่สองก็คือการรับประทานยาประเภทแอสไพลิน โดยแพทย์ได้ระบุว่าไม่ควรกินยาจำพวกนี้ก่อนการทำศัลยกรรม เพราะยาในกลุ่มนี้จะทำให้อาการบวมของแผลนั้นมีระยะเวลาที่นาน ไม่หายตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น โดยสิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับการ เตรียมตัวก่อนทำปากกระจับ ก็คือควรงดการดื่มสุราและการสูบบุหรี่ก่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย และถ้าหากผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดทำปากกระจับนั้นมีโรคประจำตัวใดๆก็ตาม ควรจะแจ้งให้แพทย์ที่ทำการผ่าตัดนั้นทราบก่อน เพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ทัน
หลังจากทำปากกระจับ ก็จะมีรอยแผล อาการบวมจากการผ่าตัดบ้างเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทุกคน ซึ่งจะมีอาการบวมมากที่สุด 1-3 วันแรก แต่หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ จนปากเข้ารูป และสวยงามในที่สุด แต่ในระหว่างที่ปากยังบวมอยู่นั้นวิธีดูแลหลังการผ่าตัดปากกระจับที่ถูกต้องเพื่อช่วยให้อาการบวมหายไปอย่างรวดเร็ว มี ดังนี้
1. ประคบด้วยผ้าเย็น หรือน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องในช่วงแรงหลังการผ่าตัดที่บริเวณแก้ม แต่ห้ามประคบบริเวณแผลเด็ดขาดเพราะอาจทำให้แผลช้ำได้ ควรประคบบริเวณรอบๆเท่านั้น ซึ่งความเย็นจะช่วยให้แผลดการอักเสบ และบวมน้อยลง
2. ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากแพทย์สั่งให้รับประทานยาในเวลาใดก็ตาม สาวๆไม่ควรพลาดที่จะปฎิบัติตามคำแนะนำทุกครั้ง การรับประทานยาตามแพทย์สั่งประกอบกับการดูแลตนเองให้ดีพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความสะอาดอยู่เสมอ เป็นปัจจัยที่ทำให้อาการบวมหายได้อย่างรวดเร็ว
3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ริมฝีปากกระทบกระเทือน เช่น การออกกำลังกายหนักๆ (วิ่ง ว่ายน้ำ อาจหันมาออกกำลังกายเบา เช่น ซิทอัพ ฮูลาฮุบ เป็นต้น) หลีกเลี่ยงการพูดหรือหัวเราะเสียงดัง เนื่องจากจะทำให้ริมฝีปากสั่นสะเทือนมาก และอาจทำให้แผลหายช้ากว่าที่กำหนดไว้ หรืออาจเกิดอาการฉีกขาดได้
4. การเลือกรับประทานอาหารก็สำคัญ ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม ควรดื่มเป็นน้ำเปล่าแทน ในช่วงแรกๆ อาจใช้หลอดดูดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ริมฝีปากกระทบกับขอบแก้ว ส่วนอาหารควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เหนียว โดยหันมารัปประทานอาหารที่นุ่มๆแทน เช่น หากอยากทานผลไม้ อาจรับประทานเป็นน้ำผลไม้แทน
สำหรับคนไข้ที่กำลังตัดสินใจจะทำปาก ยังลังเลว่าปากตัวเองจะทำได้หรือไม่ โดยผู้ที่มีภาวะต่อไปนี้คุณหมอจะไม่ได้ทำการผ่าตัดให้ ได้แก่
1. ผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างฟัน เช่น ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันไม่สบกับสนิท หรือภาวะฟันล่างครอบฟันบน ซึ่งหมอแนะนำต้องพบทันตแพทย์เพื่อประเมินก่อน
2. กรณีคนที่จัดฟันอยู่ หากฟันยังไม่เข้าที่ ฟันห่างหรือโครงฟันยังยื่นอยู่ หมอจะยังไม่ทำศัลยกรรมปากให้ครับ จนกว่าฟันจะเข้าที่ โดยหากฟันเข้าแล้วในขณะใส่เหล็กดัดหรือ retainer ก็สามารถทำได้
3. ผู้ที่มีปัญหายิ้มเห็นเหงือกมาก หมายถึงยิ้มในท่าปกติริมฝีปากก็ร่นขึ้นเหนือขอบฟันมาก ซึ่งกรณีเช่นนี้หมอจะแนะนำให้พบและปรึกษาแพทย์ด้านทันตกรรมยิ้มเห็นเหงือก ซึ่งหมอแนะนำแก้ปัญหายิ้มเหงือกก่อนให้เสร็จเรียบร้อยประมาณ 1-2 เดือน จึงค่อยมาผ่าตัดริมฝีปาก
4. ผู้ที่มีริมฝีปากบางมากครับ เพราะวิธีการทำปากให้เป็นรูปทรงคุณหมอต้องตัดเนื้อริมฝีปากออกบางส่วน แล้วเย็บตกแต่ง ซึ่งหากริมฝีปากบางมากแล้วก็ไม่สามารถทำให้เป็นรูปทรงได้
5. ผู้ที่มีริมฝีปากคว่ำมากหรือมุมปากตกมาก จนไม่สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดหรือตกแต่ง
6. ผู้ที่มีริมฝีปาก 2 ข้าง ไม่สมมาตรกันเมื่อวัดจากจุดกึ่งกลางปาก หรือในผู้ที่มีปัญหายิ้มไม่เท่ากัน 2 ข้าง ซึ่งอาจทำให้รูปทรงผิดรูปไปได้
7. ผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นนูนหรือคีรอยด์
สำหรับใครที่มีปัญหาในเรื่องของริมฝีปาก ที่ตัดสินใจที่จะศัลยกรรมริมฝีปากนั้น ควรศึกษาหาข้อมูลการทำอย่างละเอียด พร้อมทั้งเลือกสถาบันคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตราฐาน และที่สำคัญต้องมีศัลยแพทย์ผู้เชียวชาญมีความชำนาญด้านศัลยกรรมปากโดยเฉพาะ ถ้าสาวๆคนไหนอยากมั่นใจอวดริมฝีปากสวยๆ สามารถติดต่อได้ที่ ภูณิศาคลินิก ตั้งอยู่ใต้อาคารคอนโดลุมพินี สวีท ปิ่นเกล้า ฝั่งเดียวกับพาต้าปิ่นเกล้า หาง่าย เดินทางสะดวก คลินิกสะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน
สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติม
087-5556011 , 085-3629018 https://www.facebook.com/punisaclinic
[Advertorial]