ไม่ท้อจึงได้มา : ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของนักตบสาวทีมชาติไทย

 

 

หลังจากที่ทีมนักตบลูกยางสาวไทยรวมใจกันสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอเชียมาครองเป็นครั้งแรก ด้วยการล้มทีมชาติจีน คู่ปรับกระดูกชิ้นโต เจ้าของเหรียญทองแดงจากโอลิมปิก 2008 ถึง 3-1 เซตที่ประเทศเวียดนาม ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย กระแสคลั่งสาวไทยก็กระจายกลายเป็นฟีเวอร์ทันที

นักตบสาวทีมชาติไทยชุดประวัติศาสตร์ชุดนี้ นำทีมโดย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ (กัปตันทีม), นุศรา ต้อมคำ (มือเซ็ต), ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง และ อำพร หญ้าผา ภายใต้การฝึกซ้อมโดย โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ใช้เวลาเก็บตัวเตรียมทีมกันจนเป็นทีมที่แข็งแกร่ง รู้ใจ และเข้าขากันเป็นอย่างดี

ทั้งที่เคยถูกวิพากษ์วิจาณ์และปรามาสมาพอสมควรว่าไม่ใช่ "ของจริง" เมื่อทีมตัดสินใจใช้ผู้ฝึกสอนชาวไทยทั้งชุด แทนที่จะใช้โค้ชต่างชาติจากจีนที่หลายคนมักคิดว่าจะช่วยพัฒนาผลงานสาวไทยได้ดีกว่านี้ แต่ก็พิสูจน์ไำด้ด้วยผลงานที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นตามลำดับ

ชัยชนะที่มีค่ายิ่งเหนือทีมชาติจีน ทำให้วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยขยับฐานะขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของเอเชียในทันที พร้อมกับได้โควต้าตีตั๋วไปแข่งในรายการ เวิลด์ แกรนด์ แชมเปี้ยน คัพ ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และได้สิทธิ์ไปเล่นรายการเวิลด์กรังปรีซ์ ที่ประเทศจีนในปีหน้า

นอกเหนือจากความสำเร็จประเภททีมแล้ว ในรายบุคคล นักตบสาวไทยก๋้พาเหรดกันคว้ารางวัลสร้างเกียรติภูมิให้ตัวเองอีก 3 รางวัล ได้แก่ ตัวเซตยอดเยี่ยม ของ นุสรา ต้อมคำ ลิเบอโรยอดเยี่ยม ของ วรรณา บัวแก้ว และผู้เล่นทรงคุณค่า หรือเอ็มวีพี ของ อรอุมา สิทธิรักษ์ ทั้งหมดเป็นรางวัลการันตีว่า ในเอเชีย ทีมสาวไทยชุดนี้คู่ควรต่อการก้าวขึ้นไปเป็นมือหนึ่งด้วยผลงานที่พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น

จากความสำเร็จของทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ที่มีนักกีฬาตัวจริงและสำรองรวมทั้งหมด 12 คน จะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติคนละ 2 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาท สำหรับสมาคมวอลเลย์บอลจะได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนเงินรางวัลรวมทั้งหมด ส่วนผู้ฝึกสอนได้รับคนละ 20 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์  ผู้ฝึกสอนกล่าวว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการศึกษาข้อมูลของคู่แข่ง รวมถึงการส่งนักกีฬาไปเล่นลีกอาชีพ ทำให้นักกีฬามีประสบการณ์สำหรับศึกเวิลด์ แกรนด์ แชมเปียนส์คัพ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไทยได้สิทธิในฐานะแชมป์เอเชีย ถือเป็นรายการที่ใหญ่มาก เทียบเท่ากับโอลิมปิกเกมส์ และจัดทุกๆ 4 ปี ไทยตั้งเป้าไว้ที่อันดับ 4 เป็นอย่างน้อย

แม้จะเป็นความสำเร็จที่ไม่คาดฝัน แต่ก็คุ้มกับที่บากบั่นกันมาตลอดจริงๆ