คบเพื่อนขี้เหร่ ช่วยทำให้ตัวเองดูดี!
เคท มอส หนีบเพื่อนสาว เบธ ดิตโต แห่งวงเดอะ กอสซิป ออกตะลุยปาร์ตี้ เราเห็นภาพนี้อยู่บ่อยๆ
สาวๆ สมัยนี้มีวิธีทำให้ตัวเองสวยปิ๊งเตะตาใครต่อใครได้เป็นร้อยเป็นพันวิธี แต่งหน้าดีๆ ทำผมเก๋ๆ หรือเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับตัวเอง ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนทำให้คุณผู้หญิงดูสวยน่ารักแบบทันอกทันใจทั้งสิ้น
แต่นอกเหนือจากการปรุงโฉมตัวเองแล้ว สิ่งที่คุณสาวๆ ผู้ชอบคิดว่า "ฉันสวย" มักจะเลือกทำเวลาออกไปปาร์ตี้หรือมีแอคทิวิตี้เข้าสังคม หนึ่งในนั้นคือการมองหา "เพื่อนสาว" ที่ดูด้อยกว่า ทั้งหน้าตา รูปร่าง การแต่งตัว มาเป็นบัดดี้ข้างกายอยู่ร่ำไป
อ๊ะ..อ๊ะ...รู้นะว่ากำลังจะเถียงว่าไม่...นางเอกอย่างฉันจะไปทำอะไรแบบนั้น แต่ลองสังเกตตัวเองดูสิว่า เพื่อนสาวที่คุณชวนออกไปกินข้าวตอนพักเที่ยง ชวนกลับบ้านด้วยกันตอนเลิกงาน หรือชวนไปต่อกันที่เอกมัยก่อนกลับบ้าน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นหูเล่นตาพัฒนาเรตติ้งตัวเองบ่อยๆ คุณจะเลือกเพื่อนสาวที่สวยเริ่ดกว่าคุณไปแย่งเรตติ้ง หรือจะอ้อนเพื่อนหุ่นกระทิงไปเป็นบอดี้การ์ดกันแน่....ตอบให้ตรงกับใจอย่าโกหกตัวเองนะจ๊ะ!!
ดร.แอนโธนี ลิตเติล แห่งมหาวิทยาลัยสเตอร์ลิงในอังกฤษ ออกมายืนยันทฤษฎข้อที่ว่า การที่เราได้อยู่กับคนที่มีรูปร่างหน้าตาด้อยกว่าจะทำให้เราดูดีขึ้น สวยหล่อขึ้น เพราะเมื่อมี "ความเชื่อ" ว่าตัวเองดูดี ในขณะที่อีกฝ่ายดูแย่กว่า ปฏิกิริยาทางกายของเราจะแสดงออกทางด้านพลัง มีความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้นกว่าปกติ และเมื่อมีความมั่นใจ เราก็จะแสดงบุคลิกในด้านเด่นของตัวเองออกมา จนทำให้คนที่พบเจอคุณรู้สึกว่า "คุณช่างดูดีจังเลย"
ทั้งที่ในความเป็นจริงก็คงไม่สามารถบอกได้อยู่ดี ว่าระหว่างคุณกับเพื่อน ใครดูดีสวยหล่อกว่ากัน หากมีเรื่องของทัศนคติและรสนิยมเข้ามาเบี่ยงเบนทฤษฎีข้อนี้
ดังเช่น เคท มอส ซูเปอร์โมเดลแถวหน้า แม้ปัจจุบันความเสเพลและวัยที่มากขึ้นจะทำให้เธอดูร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่เค้าความงาม ความเท่ของเคทก็ยังคงหลงเหลืออยู่ และความเท่ของเคทก็ถูกขับออกมาให้เห็นเด่นชัดทันทีเมื่อเธอควงเพื่อนสาวหุ่นตุ้ยนุ้ยอย่าง เบธ ดิตโต นักร้องนำวงเดอะ กอสซิป ออกงานปาร์ตี้ แถมยังขนาบอีกข้างด้วยเพื่อนหญิงไซส์ยักษ์ เรียกว่ามองผ่านๆ แบบไม่คิด ก็คงตัดสินได้เองด้วยสายตาว่าใคร "ดูสวย" สะดุดตามากกว่ากัน
หรือเจ้าพ่อเพลย์บอย ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ที่มองยังไงก็แค่ชายแก่ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ก็ยังรู้ดีถึงการใช้ความสวยความงามเป็นจุดดึงดูดสายตา เราจึงเห็นเป็นประจำว่าทุกครั้งที่เฮฟเนอร์ปรากฏตัวตามงานต่างๆ เขาจะต้องขนเอาสาวๆ เพลย์เมทสุดเซ็กซี่ตามไปเป็นพรวนเหมือนนางสนม เพราะภาพที่ปรากฏ คือประโยชน์ที่เพลย์บอยจะได้รับในทางการตลาด กรณีนี้ถือว่า เฮฟเนอร์ฉลาดในการเรียกคนสวยๆ มาดึงความสนใจ ลบปมด้อยของตัวเองได้หมดสิ้น
หน้าเหมือนแม่-อบอุ่นคล้ายพ่อ ความสวย-หล่อ ก็ยังมองเห็นต่าง
ดร.ลิตเติล ยังยกผลงานวิจัยที่น่าสนใจมาเสริมทฤษฎีข้อนี้อีก 2-3 ประเด็น ว่า สิ่งที่ทำให้เรามองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าว่าสวย-หล่อที่สุด เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ อาจไม่ได้มาจากการที่คนรอบข้างหน้าตาแย่ไปหมด แต่สายสัมพันธ์ระหว่างบุพการีที่มีอยู่้ในตัวมนุษย์ทุกคน ก็ทำให้คนเรามองเห็น "ความงามที่ต่างกัน" เหมือนเป็นปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ผู้ชายส่วนใหญ่มักเลือกที่จะทำความรู้จักกับสาวที่มีหน้าตา ท่าทาง บุคลิก คล้ายแม่ของตน เพราะจะทำให้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจเมื่ออยู่ใกล้ ขณะที่สาวๆ เอง ก็ใช่ว่าจะให้ท่าแต่ผู้ชายหล่อๆ มาดดีมีสตางค์เสมอไป หากเขาคนนั้นไม่ได้มีบุคลิกคล้ายคุณพ่อของเธอ เพราะสัญชาตญาณผู้หญิง ต้องการเพียงแค่ชายที่ปกป้องและดูแลเธอได้ จึงไม่แปลกใจหากผู้หญิงส่วนใหญ่จะนิยมเลือกผู้ชายที่อายุมากกว่ามาเป็นคู่ชีวิต
แต่สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไป คนสวยจัดๆ ที่เราเห็นว่าสวยมาแต่ไกล อาจไม่ได้เป็นคนที่ "สวยที่สุด" ในสายตาใครต่อใครก็ได้ เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่ที่การวางตัว กิริยาท่าทาง คำพูดคำจาสุภาพนอบน้อม บุคลิก ความสะอาดสะอ้าน เมื่อรวมกันเข้า ต่อให้คุณไม่สวยไม่หล่อเลยเมื่อเทียบกับเื่พื่อนที่เดินมาด้วยกัน คุณก็ยังได้บุคลิกภาพที่กล่าวมา ช่วยเปลี่ยนคุณให้เป็น 'แม่เนื้อหอม" แบบไม่ทันตั้งตัว
สิ่งนั้นต่างหากคือ "เสน่ห์" ที่แท้ ที่สร้าง "ความน่าเชื่อถือ"ให้กับตัวคุณเอง โดยที่คุณอาจไม่ต้องลงทุนทำสวยให้วุ่นวาย หรือคบเพื่อนหน้าตาดูไม่ได้ (ยิ่งกว่า) ให้เพื่อนต้องเกิดปมด้อย
คนทุกคนมี "ของดี" อยู่ในตัว อย่าให้ความเชื่อที่ว่า "เธอสวยกว่า-เขาหล่อกว่า" มาทำลายความมั่นใจในตัวเอง เท่านี้ก็พอ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.dailymail.co.uk