สวยปัง!! ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องศัลย์ฯ 4 เทรนด์ยกกระชับหน้ามาแรงปี 2017

เคยมั้ยเวลาได้ยินเหล่าดาราคนดังเผยวิธีดูแลตัวเองให้หล่อสวยดูดี แล้วมักจะบอกว่า พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานผักผลไม้และดื่มน้ำเยอะๆ คำตอบเบสิคที่อาจจะทำให้หลายๆ คนเชื่อได้เมื่อหลายปีก่อน แต่อย่างว่านี้ปี 2017 แล้วคำตอบเหล่านี้ฟังแล้วดูจะไม่ค่อยน่าเชื่อซักเท่าไหร่

เพราะโลกที่เปลี่ยนไปย่อมมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะเทรนด์ยกกระชับหน้าเรียว สวยได้ดั่งใจแบบไม่ต้องเจ็บตัวที่ Sanook Women ได้ข้อมูลอัพเดทล่าสุดจาก น.พ. อภิรุจ ทองวัฒน์ ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายแพทย์แห่ง The Klinique ศูนย์ผิวหนัง เลเซอร์ และศัลยกรรมครบวงจร ซึ่งหากใครที่อยากสวยหล่อแบบไม่ต้องเจ็บตัวเราไปอัพเดทกันดีกว่า

1. New Ulthera 



New Ulthera เป็นนวัตกรรมการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้าแต่ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น ด้วยเทคนิคเย็บผิวไร้แผล ด้วยเครื่อง New Ulthera ที่สามารถปล่อยพลังงาน Focused Ultrasound ลงลึกสู่ชั้นใต้ผิว ยกกระชับชั้น SMAS ได้ในทันที โดยมีระบบ Real-time Visualization ผ่านหน้าจอ ให้แพทย์สามารถปรับระดับพลังงานได้จำเพาะกับแต่ละบริเวณที่รักษา จึงทำให้รูปหน้ายกกระชับได้ในทันทีอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ด้วยการอัพเดตเครื่องและซอฟแวร์ทำให้การรักษามีความอ่อนโยนมากขึ้น ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า 1-2 ปี เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย รูปหน้าหรือกรอบหน้าไม่ชัดเจนแนวคิ้วและหางตาตก

2. New ThermageCPT 

New ThermageCPT เป็นการยกกระชับที่มีการพัฒนาหัวทิปใหม่สีส้ม New Total Tip สามารถให้การส่งผ่านพลังงานลงได้ลึกกว่าถึง 2 เท่า ลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อปรับโครงสร้างผิวได้ทุกระดับอย่างสมบูรณ์ ผิวจึงยกกระชับขึ้น พร้อมกับประสิทธิภาพในการสลายไขมันสะสม โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใบหน้าใหญ่ ทำให้ไขมันเหล่านั้นสลายไป ช่วยให้ใบหน้าเรียวและเล็กได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยี Comfort Pulse Technology ช่วยให้การรักษามีความอ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น ร่วมกับ Thermage Cool ที่ช่วยปกป้องและผ่อนคลายผิวชั้นบน ทั้งหมดช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยขึ้นอย่างชัดเจน ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า 1-2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมส่วนเกินบนใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เล็กและเรียวขึ้น

3. Vantage Lift

Vantage Lift คือนวัตกรรม Second Generation Monopolar RF ของ Vantage Lift ได้รับการพัฒนาให้สามารถให้พลังงานความร้อนในระดับและปริมาณที่แม่นยำ (Acurate dosing) ลงได้ลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว และด้วยระบบ Energy Flow Control ที่ช่วยควบคุมให้พลังงาน มีความสม่ำเสมอ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ และการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ พร้อมสลายไขมันสะสมที่อยู่ในชั้นถัดลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวจึงยกกระชับขึ้น ช่วยให้ใบหน้าให้เรียวขึ้น นอกจากนี้ Real-time Impedance IntelligenceTM โปรแกรมอัจฉริยะที่ตรวจวัดความหนาหรือความต่างศักย์ของชั้นผิวอย่างอัตโนมัติจะช่วยปรับระดับพลังงาน RF ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่ที่ทำการรักษาแต่ละบริเวณ ช่วยให้พลังงานที่ถูกปล่อยลงสู่ชั้นผิวมีความต่อเนื่องและเหมาะสม (Current Flow Intelligence) และยังมีความเสถียรมากขึ้นด้วย ที่สำคัญไม่เจ็บหรือแสบผิวขณะรับการรักษาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และมีไขมันสะสมส่วนเกินบนใบหน้า และผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เล็กและเรียวขึ้น

4. Vanquish HIFU

Vanquish HIFU ใช้เทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยหลักการของการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวน์ชนิดที่มีความจำเพาะสูงหรือ High Intensity Focused Ultrasound ให้ออกมาเป็นจุดโฟกัสที่มีรูปแบบเป็นเส้นตรง (Linear) ลงลึกถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า จุดโฟกัสดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนและทำให้เกิดการหดตัวของชั้น SMAS รวมทั้งชั้นผิวทุกระดับ จากการหดตัวดังกล่าวจะช่วยยกรูปหน้าให้ชัดเจน พร้อมกับปรับยกกระชับผิวขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน และด้วยเทคโนโลยีที่มีการเพิ่มความถี่ของพลังงานให้สูงขึ้น จึงทำให้ผิวเกิดความผ่อนคลาย ไม่เจ็บหรือแสบผิว  นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยี Safety Contact Sensor หรือ S.C.S. จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้สูงขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากระบบ S.C.S. จะทำหน้าที่ปกป้องผิวจากการทำงานที่ไม่สมบูรณ์  โดยจะเป็นตัวตรวจวัดการสัมผัสของหัวทิปกับผิวอย่างอัตโนมัติ เพื่อทำให้แน่ใจว่าในทุกๆ ช็อตของการรักษาจะให้ผลลัพธ์ได้เต็มประสิทธิภาพโดยที่ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่น ดูแก่กว่าวัย และผู้ที่ต้องการปรับผิวให้กระชับตึงขึ้น  

นี่แหละค่ะนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้สวยได้แบบไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป ครั้งหน้าจะมีเทรนด์ความงามอะไรมาฝาก รอติดตามกันได้เลย