เมื่อมาเลเซียเนรมิต คุก เป็น สปา สร้างอาชีพให้นักโทษหญิง

เมื่อมาเลเซียเนรมิต คุก เป็น สปา สร้างอาชีพให้นักโทษหญิง

เมื่อมาเลเซียเนรมิต คุก เป็น สปา สร้างอาชีพให้นักโทษหญิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

คอลัมน์ ร่อนตามลม

โดย raikorn@hotmail.com

ภายในเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยรั้วลวดหนาม ยามรักษาความปลอดภัยถือปืนคอยดูแลความสงบ ใครจะคิดล่ะว่าข้างในนั้น จะมีพนักงานเสริมสวยกำลังให้บริการลูกค้าอย่างแข็งขันภายใน "เจล สปา (jail spa)" สปาเสริมความงามในคุก ที่ผุดขึ้นเป็นครั้งแรกในมาเลเซีย ที่เรือนจำหญิงชานกรุงกัวลาลัมเปอร์!!

แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่ธุรกิจสปาในเรือนจำที่ได้รับการตกแต่งสไตล์บาหลี ก็มีลูกค้าให้ความไว้วางใจ เดินเข้าไปรับบริการไม่ขาดสาย เปิดโอกาสให้นักโทษในเรือนจำหญิงซึ่งใหญ่ที่สุดของมาเลเซียมีอาชีพติดไม้ติดมือไว้หาเลี้ยงตัว ในวันที่พวกเธอได้รับอิสรภาพ

"ดิฉันไม่รู้สึกกลัวเลย เพราะฉันมั่นใจในนักโทษเหล่านี้ว่าได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดีในการให้บริการลูกค้า รวมทั้งมั่นใจในสวัสดิภาพความปลอดภัยของเราด้วยเมื่อเข้ามาใช้บริการ" นัวร์ อลิซา ออสมาน หญิงวัย 45 ที่เข้ามาใช้บริการของสปาในเรือนจำกาแจงเป็นครั้งที่สอง เล่าถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อสปาแห่งนี้

"ที่นี่ นอกจากจะมีความสะดวกสบาย ราคายังสมเหตุสมผล และฉันไม่ต้องนั่งคอยนานกว่าจะได้ทำผมเหมือนไปตามร้านทำผมที่อื่น" หญิงแม่ลูก 4 ที่มาย้อมผมด้วยสีกล่าว

เฮนน่า กับ ฟาร่าห์ นักโทษหญิงวัย 30 ที่ดูสุภาพเรียบร้อย ผมของเธอถูกรวบไปรัดไว้ข้างหลังอย่างเป็นระเบียบ ชุดเสื้อกางเกงสีเขียวที่เธอสวมอยู่ ก็ดูไม่ต่างจากพนักงานเสริมสวยทั่วไป หากไม่มี "หมายเลขประจำตัวนักโทษ" ที่เย็บอยู่บนชุดเครื่องแบบ ที่บ่งบอกสถานภาพของเธอในตอนนี้ บอกอย่างแฮปปี้

ส่วน ฟาร่าห์ ชื่อสมมติของหญิงอินโดนีเซียรายนี้ ที่ต้องโทษหลังจากมาทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในมาเลเซียแล้วอยู่เกินระยะเวลาที่ได้วีซ่ามาทำงาน เลยถูกจำคุก 1 ปี และเป็นหนึ่งในพนักงาน 7 คนที่ทำงานในสปา ซึ่งทุกเช้าเธอและเพื่อนๆ จะต้องเดินผ่านด่านตรวจที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 4 คนยืนทำหน้าที่คอยค้นอาวุธ ค้นตัว ก่อนจะเดินเข้าไปทำงานในสปา ซึ่งอยู่ห่างจากห้องขังนักโทษไป 200-300 เมตรบอกว่า การได้รับเลือกมาเป็นพนักงานในสปา ถือเป็นเรื่องที่...

"ฉันดีใจมากที่ได้รับโอกาส และมีลูกค้าประจำหลายคนที่มีน้ำใจบอกให้ฉันไปทำงานด้วยเมื่อฉันออกจากคุก หลังจากพวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับฉัน ...นี่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ฉันได้เรียนรู้ทักษะหลายอย่าง และคิดอยากจะเปิดสปาของตัวเองเมื่อพ้นโทษออกไป และมีเงินทุนพอ"

ทันทีที่ถึงที่ทำงานอันน่าสบาย หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันอโรมากลิ่นต่างๆ ฟาร่าห์ และเพื่อนๆ พนักงานหญิงอีก 6 คน ได้รับอนุญาตให้พูดคุย สังสรรค์กับลูกค้าได้อย่างอิสระเสรี ภายใต้เวลาทำงาน 9 ชั่วโมง แม้จะต้องทำงานภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คุม 3 คนที่คอยอยู่ดูแลความปลอดภัย แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความอึดอัดใจให้แก่ลูกค้า หรือพนักงานแต่อย่างใด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า นักโทษที่จะได้รับสิทธิพิเศษมาทำงานในสปาแห่งนี้ได้ ต้องเป็นนักโทษคดีเบาๆ ไม่ใช่คดีฆ่า หรือคดีที่รุนแรงน่ากลัว

นักโทษส่วนใหญ่ในเรือนจำกาแจง ที่ตอนนี้มีผู้ต้องโทษราว 1,600 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติถึง 60% ส่วนมากเป็นชาวอินโดนีเซีย ที่ต้องคดีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

นับแต่เปิดประตูให้บริการเมื่อปลายปีที่แล้ว เจล สปา ก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามารับบริการไม่ขาดสาย ด้วยบริการเสริมสวยที่มีตั้งแต่ นวดหน้า ทำเล็บ นวดตัว นวดเท้า ด้วยราคาขั้นต่ำสุด 30 ริงกิต (ราว 288 บาท)

"เราได้รับการตอบรับดีเกินคาด ตอนแรกลูกค้าหลายคนก็ลังเลที่จะเข้ามาในคุก แต่แล้วโครงการนี้ก็สามารถเปลี่ยนทัศนคติที่ชาวบ้านมีต่อนักโทษ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ต้องโทษได้รับการยอมรับจากสังคมได้ง่ายขึ้นในอนาคต เราต้องการให้ความช่วยเหลือพื้นฐาน เพื่อเตรียมพวกเขาในการปรับตัวเข้าสู่สังคมทันทีที่พ้นโทษออกไป แล้วเรายังหวังว่า โครงการนี้จะช่วยเปิดอีกมุมหนึ่งของเรือนจำให้สาธารณชนได้เข้าใจทั้งหมดที่เราทำ ก็เพื่อช่วยให้นักโทษรู้สึกมั่นใจตัวเอง เชื่อมั่นตัวเอง นั่นคือไอเดียที่ทำให้เกิดสปานี้ขึ้นมา" ฟาอูเซียห์ หัวหน้าผู้คุมในเรือนจำบอก

เธอยังเล่าว่า นักโทษที่ทำงานในสปาได้รับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย เพราะรายได้เกือบทั้งหมดจะถูกนำเข้ากองทุนฟื้นฟูฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังซึ่งยังมีอีกหลายโครงการ อย่างเช่น โครงการฝึกทำเบเกอรี่ และตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook