เตรียมลูกให้พร้อมเข้าอนุบาล

เตรียมลูกให้พร้อมเข้าอนุบาล

เตรียมลูกให้พร้อมเข้าอนุบาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกเข้าโรงเรียน

ไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก ตื่นเต้นกันทั้งคุณพ่อ คุณแม่ บางบ้านมี คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คอยร่วมลุ้นทำตาแดงๆ สงสารเจ้าตัวเล็ก แล้วลูกล่ะตื่นเต้นพร้อมจะไปโรงเรียนหรือยัง

สำหรับคุณแม่ที่ตอบว่าพร้อม แสดงว่าได้เตรียมตัวลูกมาอย่างดี คุณแม่มือโปรเหล่านี้ใช้วิธีอะไรบ้าง มาดูกันดีกว่า

โฆษณาประชาสัมพันธ์ เด็กๆ ชอบเรื่องสนุก ถ้ากระตุ้นให้ลูกรู้สึกว่าการไปโรงเรียนนั้นน่าสนุกเช่นเดียวกับการไปเที่ยวสวนสัตว์ ร้านขายของเล่น หรือไปเที่ยวทะเล เขาก็จะซึมซับรับความรู้สึกนี้เอาไว้แล้วเกิดความอยากไปโรงเรียน เล่าให้เขาฟังว่ามีอะไรแปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจบ้าง ชุดนักเรียน เครื่องเขียน คุณครูใจดี เพื่อนๆ มากมาย โรงเรียนน่ารัก ฯลฯ

พาทัวร์โรงเรียน หลังจากโฆษณาปูพื้นไว้พอสมควรแล้ว แผนการขั้นต่อไปคือให้ลูกได้พบเห็นของจริง อาจเริ่มจากขับรถผ่านหน้าโรงเรียนก่อนว่าเดี๋ยวต่อไปหนูต้องมาเรียนที่นี่ วันหลังค่อยพาลูกเข้าไปดูภายในโรงเรียนว่าบรรยากาศเป็นอย่างไรลูกอาจติดอกติดใจในสนามเด็กเล่นหรือห้องเรียน แวะเวียนพาไปทำความรู้จักกับคุณครูบ้างจะได้คุ้นเคยกันไว้ก่อน

บอกลูกว่าต้องทำอะไรบ้าง เมื่อคุณแม่ได้ซักถามคุณครูแล้ว เล่าให้ลูกฟังด้วยว่าเมื่ออยู่ในโรงเรียนลูกต้องทำอะไรอย่างไร เช่น ไปถึงโรงเรียนแล้วเริ่มทำอะไร ทานข้าวกลางวันกันอย่างไร เข้าห้องน้ำที่ไหน ได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง ฯลฯ เมื่อลูกรับรู้คร่าวๆ ว่าต้องพบเจอกับอะไรบ้าง จะช่วยลดความกลัวให้เขาได้

อย่ารีบทิ้งกันวันแรก ถึงลูกจะคุ้นเคยกับโรงเรียนอยู่บ้างแล้ว วันแรกที่พาไปก็อย่ารีบร้อนปล่อยลูกไว้กับคุณครู ในวันแรกบางโรงเรียนก็อาจให้อยู่เป็นเพื่อนลูกก่อน วันต่อๆ มาค่อยลดเวลาลง จนลูกอยู่โรงเรียนโดยคุณพ่อคุณแม่มาส่งเช้าแล้วตอนเย็นค่อยมารับกลับ และต้องมารับให้ตรงเวลาด้วย

ปลอบลูกอย่าร้องไห้ คุณแม่ต้องแสดงให้ลูกรู้ว่าเห็นอกเห็นใจและเข้าใจเขา ค่อยๆ พูดจาให้กำลังใจกัน อย่าแสดงท่าว่าจะร้องไห้เสียเองเวลาไปส่งลูก ที่ไม่ควรทำเลยก็คือไปนั่งเฝ้าลูกทุกวันหรือให้หยุดตามใจชอบ ยิ่งปกป้องหรือตามใจมากลูกจะยิ่งอ่อนแอ เด็กๆ ส่วนใหญ่พอผ่านไปหลายวันหรือหลายสัปดาห์ก็จะหยุดร้องไปเอง แต่ถ้าลูกดูแปลกไป มีพฤติกรรมถดถอยเหมือนเป็นเด็กเล็ก ก้าวร้าว งอแงมาก หรือ ซึมเศร้า นานเป็นเดือนๆ อาจต้องขอคำปรึกษาจากคุณหมอ

เป็นธรรมดาที่ลูกไม่อยากแยกจากพ่อแม่ แต่นี่คือก้าวย่างสำคัญที่ลูกจะออกไปสู่สังคมภายนอกแห่งแรกเพื่อเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ในโลกกว้าง โดยมีคนที่รักเขาคอยประคับประคองให้ก้าวไปด้วยความมั่นใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook