เช็คก่อนพลาด! อาหารและขนมอะไรบ้าง ที่ไม่ควรมีในงานแต่ง

เช็คก่อนพลาด! อาหารและขนมอะไรบ้าง ที่ไม่ควรมีในงานแต่ง

เช็คก่อนพลาด!  อาหารและขนมอะไรบ้าง ที่ไม่ควรมีในงานแต่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้ไหมว่าการจัดงานแต่งงาน นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับดอกไม้ที่นำมาใช้จัดงาน และการลำดับขั้นตอนพิธีต่างๆ ให้ถูกต้องไปตามขนบธรรมเนียมไทยแล้ว ก็ต้องให้ความใส่ใจกับอาหารและขนมที่จะนำมาในงานแต่งด้วย เพราะอาหารและขนมบางชนิดมีชื่อและความหมายที่ไม่เป็นมงคล จึงถูกห้ามไม่ให้มีอยู่ในงานแต่งนั่นเอง ดังนั้นมาเช็คกันหน่อยซิว่า มีอาหารและขนมอะไรบ้างที่ไม่ควรมีในงานแต่ง

อาหารที่ไม่ควรมีในงานแต่ง

1.ตีนไก่ มีความเชื่อว่า จะทำให้คู่บ่าวสาวเกิดการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นเลือดตกยางออก และทำให้ชีวิตคู่ไม่สงบสุข จึงไม่ควรให้มีตีนไก่ในงานแต่ง ไม่ว่าจะมาในรูปแบบเมนูไหนก็ตาม

2.ข้าวต้ม เนื่องจากในสมัยโบราณ ข้าวต้มจะนิยมใช้ในงานอวมงคลหรืองานศพเป็นส่วนใหญ่ จึงเชื่อว่าเป็นอาหารที่ไม่เป็นมงคลและไม่ควรให้มีอยู่ในงานแต่งนั่นเอง

3.ต้มยำ เพราะต้มยำ เป็นอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและจัดจ้านมาก จึงเชื่อว่าหากมีต้มยำในงานแต่ง จะทำให้ชีวิตคู่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม มีเรื่องให้ต้องบาดหมางและทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ

4.หอยขม แค่ชื่อก็สื่อได้ถึงความขมขื่น จึงไม่นิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ความรักเต็มไปด้วยความขมขื่นและอาจเกิดการเลิกรากันได้ นอกจากนี้หอยขมก็เป็นอาหารที่ทานยากอีกด้วย

ขนมที่ไม่ควรมีในงานแต่ง

1.ขนมบ้าบิ่น จากชื่อของขนม ทำให้ขนมบ้าบิ่นถูกจัดเป็นขนมที่ไม่เป็นมงคล ซึ่งเชื่อว่าหากมีขนมบ้าบิ่นอยู่ในงานแต่ง จะทำให้คู่บ่าวสาวต้องมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะทะเลาะกันอย่างไม่มีเหตุผล ด้วยความบ้าบิ่นนั่นเอง

2.ขนมถังแตก คงเป็นฤกษ์ที่ไม่ดีแน่ หากมีขนมถังแตกอยู่ในงานแต่ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่ตกอับ และมีปัญหาเรื่องเงินทองบ่อยๆ ซึ่งก็อาจจะนำพาไปสู่ปัญหาบ้านแตกได้อีกด้วย

3.ขนมจาก เป็นขนมที่ให้ความหมายถึงการจากลา ซึ่งหากมีในงานแต่งไหน จะทำให้คู่บ่าวสาวต้องพลัดพรากจากกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเลิกราหรือด้วยสาเหตุอื่นก็ตาม

ได้รู้แบบนี้แล้ว ก็ควรเลี่ยงอาหารและขนมเหล่านี้ในงานแต่งงานอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ความเชื่อ ที่มีมาแต่โบราณ แต่เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ การทำตามความเชื่อไว้ก่อน ก็คงดีกว่าจริงไหม แถมยังทำให้รู้สึกสบายใจอีกด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook