5 วิธีง่ายๆ ช่วยบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นอย่างได้ผล

เมื่อมีอาการปวดฟัน แน่นอนว่ามันช่างเป็นอาการที่สร้างความทรมานได้ไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่เมื่อเป็นแล้วไม่เพียงแต่ปวดฟันเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบให้เกิดอาการปวดศีรษะได้อีกด้วย ดังนั้นเราจึงรวบรวม 5 วิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกัน รับรองว่าสามารถบรรเทาอาการปวดได้ดีแน่นอน ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.เลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ปวดฟัน

เมื่อมีอาการปวดฟัน ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นและอาหารที่เป็นสาเหตุของอาการปวด เพราะจะยิ่งทำให้ปวดฟันมากขึ้น แถมอาจรุนแรงกว่าเดิมอีกด้วย ยกตัวอย่าง อาหารและเครื่องดื่มที่มีความร้อนจัด เย็นจัด และมีรสชาติจัดจ้าน โดยเฉพาะรสเปรี้ยวจัด หวานจัด นั่นเอง

2.ทานยาแก้ปวด

ยาแก้ปวด เป็นยาที่สามารถบรรเทาอาการปวดได้ดี ไม่ว่าปวดหัว หรือปวดฟัน โดยเริ่มแรกให้ลองทานยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัมดูก่อน หากอาการไม่ทุเลาลงก็ให้เปลี่ยนเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรงขึ้น หรืออาจทานยาแก้ปวดฟันโดยเฉพาะเลยก็ได้ แต่ต้องระมัดระวังในการทานยาให้ดี เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้เหมือนกัน

3.ประคบด้วยความเย็น

การประคบเย็น สามารถบรรเทาอาการปวดฟันได้ดี โดยให้นำผ้าสะอาดผืนบาง ชุบน้ำเย็นจัดหรือห่อน้ำแข็ง มาประคบบริเวณข้างแก้มตรงจุดที่มีอาการปวด ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยลดอาการอักเสบของเหงือกและฟันได้อย่างดีเยี่ยม เป็นผลให้อาการปวดค่อยๆ ทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด

4.เลี่ยงการกระทบกระแทกฟันที่ปวด

เพราะอาการปวดฟันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีอะไรมากระทบกระแทกฟัน หรือแค่เอาลิ้นไปสัมผัสก็เกิดอาการปวดได้แล้ว ดังนั้นจึงควรระมัดระวังไม่ให้มีอะไรมากระทบกระแทกฟันมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหาร จะต้องพยายามเคี้ยวอาหารให้ห่างจากฟันซี่ที่เจ็บ และควรเคี้ยวแบบช้าๆ เบาๆ จะลดอาการปวดได้ดี

5.เอาเศษอาหารออกจากรูฟัน

สาเหตุหนึ่งของอาการปวดฟัน ก็เนื่องมาจากการมีเศษอาหารอุดอยู่ในรูฟันนั่นเอง ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดฟันและพยายามเอาเศษอาหารออกจากรูฟันให้หมด  โดยอาจใช้แปรงสีฟันในการเขี่ยอาหารออกมาก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ไม้จิ้มฟัน เพราะเสี่ยงเป็นอันตรายต่อเหงือกและอาจติดเชื้อได้นั่นเอง

วิธีเหล่านี้จะสามารถบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสามารถลดอาการปวดได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่มีอาการปวดฟันก็ลองทำตามวิธีเหล่านี้กันดู แต่หากปวดบ่อยๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุด

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock