โลกในสายพระเนตรของ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ
นับเป็นนิทรรศการแรกที่ได้รวบรวมผลงานศิลปะส่วนพระองค์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งสะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพและโลกในสายพระเนตรของพระองค์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จวบจนถึงผลงานการออกแบบในฐานะนักออกแบบมืออาชีพในปัจจุบัน ในนิทรรศการ "สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น" ที่ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ (ทีซีดีซี) ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ธันวาคม
โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเป็นประธานเปิดงาน
โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มีรับสั่งว่า นิทรรศการครั้งนี้ได้แสดงถึงความเป็นตัวตนว่า อะไรที่ทำให้พระองค์เกิดมาเป็นดีไซเนอร์ โดยเริ่มมาจากการเป็นศิลปิน หลังจากนั้นเริ่มพัฒนางาน อารมณ์ ปรัชญา และแนวความคิดมาเรื่อยๆ รวมถึงประสบการณ์ชีวิตในช่วงนั้นๆ ที่อาจจะมีบางคนไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งพอมาดูรูปแล้วจะรู้สึกว่า พระองค์มีอารมณ์ที่หลากหลายมาก โดยงานออกแบบทั้งหมดเป็นลักษณะตัวของตัวเอง
"ที่มาของนิทรรศการ เกิดขึ้นจากคำติชมของคนทั่วไปที่ติมากๆ ว่า ออกแบบเสื้อผ้าเองหรือไม่ เป็นดีไซเนอร์หรือไม่ เป็นศิลปินจริงหรือไม่ อีกทั้งทูลกระหม่อมพ่อ เคยรับสั่งเมื่อ 2-3 ปีผ่านมาว่า ควรจะจัดนิทรรศการอาร์ตสักครั้งหนึ่ง ซึ่งนิทรรศการครั้งนี้จะช่วยตอบคำถามให้กับคนเหล่านั้นได้มากขึ้น และยังตอบคำถามให้ตัวของท่านหญิงให้ได้รู้ว่า จริงๆ แล้วตัวตนของท่านหญิงที่เป็นดีไซเนอร์เกิดมาจากอะไร สไตล์การทำงานเกิดมาจากอะไร หวังว่าคนที่ได้มาดูจะเข้าใจในห้องนั้นๆ และสนุกกับมัน"
โดยนิทรรศการแบ่งการนำเสนอออกเป็น 5 ส่วน เริ่มต้นที่ "ห้องค้นหา" ซึ่งบอกเล่าจุดเริ่มต้นในการสนพระทัยในงานศิลปะ
"ท่านหญิงเริ่มต้นจากวาดรูปไม่เป็นเลย แต่ด้วยอารมณ์ตอนนั้น ชอบสีสันมาก ชอบรูปทรงอิสระ จึงเริ่มจากตรงนี้เป็นหลัก ยุคแรกๆ ของภาพที่วาดจึงเป็นเรื่องของลายเส้น สี รูปทรงอิสระ การ์ตูน เป็นหลัก บอกได้ตามตรง งานแรกๆ ที่ทำไม่สวยเลย"
ส่วนใน "ห้องอิสรภาพ" ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะที่ตีความเชิงเปรียบเทียบของภาพวาดสัตว์นานาพันธุ์ รวมถึงภาพกายวิภาคของมนุษย์
"ความหมายของอิสรภาพคือ โลกของความอิสระปลดปล่อยจากความรู้สึกต่างๆ ท่านหญิงจะวาดรูปสัตว์ต่างๆ ค่อนข้างเยอะ และสัตว์ส่วนใหญ่ที่วาดจะมีความหมายเกี่ยวกับอิสรภาพ ไม่ว่าจะเป็นนก กระต่าย ผีเสื้อ หนอน"
ซึ่งในห้องนี้มีภาพ "ของเล่นปีระกา" ที่ทรงได้รับแรงบันดาลพระทัยจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
"ไก่ นี่คือ น้องชายเกิดปีไก่ ก็เลยวาดรูปไก่ วาดครั้งแรกเลยตอนสองปี ช่วงนั้นชอบไก่อยู่พักหนึ่ง เพราะตอนเด็กๆ น้องติดของเล่น เราก็วาด วาด ตัด ตัด แล้วก็เคลือบเก็บไว้ เวลาน้องร้องก็จะเอาเป็นของเล่นไว้ให้น้องเล่น"
ถัดมา "ห้องเจ็บปวดและศรัทธา" จัดแสดงผลงานภาพวาดที่สะท้อนความคิด ความเชื่อ ตลอดจนความศรัทธาในศาสนา โดยผูกโยงเข้ากับความรักความเจ็บปวด ผ่านการวาดสรีระมนุษย์ หัวใจ รวมไปถึงสัญลักษณ์เชิงศาสนา ส่วน "ห้องตั้งต้น" จัดแสดงภาพดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งความบริสุทธิ์ของดอกไม้ช่วยให้พระองค์เริ่มต้นงานศิลปะในทิศทางใหม่ๆ
ปิดท้าย "ห้องมายา" สื่อสัญลักษณ์ถึงความเป็นตัวตนผ่านผลงานศิลปะแบบคอลลาจ ที่สะท้อนความคิด ความเห็น และการวิพากษ์วิจารณ์สังคม และยังถือเป็นเครื่องมือที่พระองค์ทรงใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานคอลเลคชั่น เสื้อผ้าอีกด้วย
"สิ่งสำคัญในการทำงานศิลปะ คือความสนุก ต้องปล่อยสิ่งที่อยู่ข้างในจิตใจให้มากที่สุด โดยให้สมองสั่งการตา ตาสั่งการใจ และสั่งมือ การมาชมนิทรรศการ ทุกคนสามารถติได้ สามารถงงได้ หรือสามารถชื่นชมก็ได้ จริงๆ แล้วท่านหญิงไม่ได้ต้องการคำชม แต่ต้องการคนที่ให้โอกาสท่านหญิงทำงาน เราวัดกันที่ผลงานดีกว่า"
สำหรับแผนงานในอนาคต พระองค์รับสั่งว่า ขณะนี้ฝึกประสบการณ์เพิ่มเติมกับแบรนด์ จิออร์จิโอ อาร์มานี ของมิลาน ประเทศอิตาลี เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้จะไปร่วมงานกับห้องเสื้อที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เป็นผลงานศิลปะที่จะทำให้ประชาชนได้สัมผัสตัวตนของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ใกล้ชิดยิ่งขึ้น