อาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ที่ไม่ควรมองข้าม สัญญาณผิดปกติที่ควรรีบพบแพทย์ !

คุณแม่มือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตั้งครรภ์มาก่อน เชื่อว่าส่วนมากหากเจออะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นความรู้สึกผิดปกติเพราะการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างร่างกาย ระบบฮอร์โมน และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทำให้บางครั้งก็ไม่ทราบได้ว่าอาการคนท้องที่เกิดขึ้นเป็นอาการตามธรรมชาติทั่วไป หรืออาการที่มาจากความผิดปกติจริงๆ กันแน่ ซึ่งหลักๆ ที่น่าเป็นห่วงคือ อาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ แม้บางครั้งจะเป็นอาการปวดแบบปกติ แต่บางครั้งอาการปวดก็กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยได้เช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ ควรสังเกตอาการปวดท้องให้ดี หากเป็นสัญญาณไม่พึงประสงค์ จะได้รีบเข้ารับการตรวจรักษาได้ทันนั่นเองค่ะ

การตั้งครรภ์นอกมดลูก

การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นอาการปวดท้องที่มักบ่งบอกถึงอันตรายร้ายแรงทั้งต่อคุณแม่และเด็กในครรภ์ อาการปวดชนิดนี้พบได้บ่อย เกิดขึ้นจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งไข่จากเดิมที่จะทำการฝังตัวเจริญเติบโตภายในผนังมดลูก เป็นบริเวณอื่นที่ไม่เหมาะสมแทน ซึ่งมาจากความผิดปกติของท่อนำไข่ที่ไม่สามารถพาไข่ที่ถูกผสมแล้วเข้าไปฝังในมดลูกได้ ทำให้ไข่ไปเกาะอยู่ตามท่อนำไข่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง โดยไข่จะไม่สามารถเติบโตเป็นทารกต่อไปได้ ส่งผลให้คุณแม่เกิดอาการปวดท้อง อาจจะปวดด้านซ้ายหรือด้านขวาเพียงข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งมักจะสังเกตได้ว่าอาการปวดมาพร้อมกับภาวะเลือดออกตามมาด้วย

ปวดท้องจากภาวะติดเชื้อ

คุณแม่มือใหม่ควรทราบเอาไว้ว่าการตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อได้มากกว่าในสาวๆ ทั่วไป หากร่างกายของคุณแม่ไม่สมบูรณ์แข็งแรงมากพอ สาเหตุของการติดเชื้อได้ง่ายนั้นมาจากการที่มดลูกกับกระเพาะปัสสาวะอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกัน การติดเชื้อหากพบแล้วไม่รีบทำการรักษา เสี่ยงที่จะลุกลามไปยังไส้ติ่ง กลายเป็นอาการปวดท้องจากภาวะไส้ติ่งอักเสบ มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง หากไม่รีบพบแพทย์ เสี่ยงที่ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะขาดน้ำได้ง่ายจนเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ กลายเป็นภาวะแท้งคุกคามตามมา

ไม่เพียงแค่อาการปวดท้องดังกล่าวข้างต้นเท่านั้นที่พบได้บ่อย แต่ยังมีอาการปวดท้องซึ่งเป็นอาการคนท้องอันเนื่องมาจากร่างกายของคุณแม่ไม่แข็งแรง ทำให้เกิดอาการปวดท้องจนต้องคลอดก่อนกำหนดได้อีกด้วย โดยอาการปวดเหล่านี้มักจะมีอาการที่รุนแรง มีภาวะอื่นแทรกซ้อนร่วมด้วย หากไม่มั่นใจว่าเป็นความผิดปกติหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนสายเกินแก้จะดีกว่าค่ะ