แผลในช่องปาก เรื่องเล็กที่ไม่ควรมองข้าม!

แผลในช่องปาก มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ต้องสนใจอะไรมาก เพราะเดี๋ยวมันก็จะค่อยๆ หายไปเอง แต่รู้ไหมว่าแผลในช่องปากไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุอากาศร้อนจัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจเกิดจากหลายๆ สาเหตุที่คุณอาจไม่ทันคาดคิดอีกด้วย และหากรักษาไม่ถูกวิธี ก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นมาทำความเข้าใจกับแผลในช่องปากให้มากขึ้นกันดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้เกิดแผลในช่องปาก

สาเหตุที่ทำให้เกิดแผลในช่องปาก มีหลายสาเหตุ ดังนี้

• การติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดแผลในช่องปากและมีอาการอักเสบ ซึ่งสังเกตได้ชัด
• การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเกิดแผลในช่องปากได้ง่าย
• ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในขณะมีประจำเดือน จึงอาจเป็นแผลในช่องปาก ในช่วงที่มีประจำเดือนได้นั่นเอง
• มะเร็งในช่องปาก ซึ่งนอกจากจะเป็นแผลในช่องปากบ่อยๆ แล้ว ก็อาจมีปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ อีกด้วย
• การแพ้ยาสีฟัน แก้ได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันยี่ห้ออื่นแทน
• การกัดลิ้นหรือปากของตัวเอง จึงทำให้เป็นแผลขึ้นมา

การรักษาแผลในช่องปาก

การรักษาแผลในช่องปาก ในกรณีที่ไม่ได้เกิดจากโรคร้ายแรง สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1.บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น

เพราะน้ำเกลือมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และลดการอักเสบได้ดี การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ จึงจะทำให้แผลในช่องปากหายเร็วขึ้น

2.นอนหลับอย่างเพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และแผลได้รับการสมานอย่างรวดเร็ว

3.เลี่ยงการกินของร้อนจัด

เพราะอาหารที่มีความร้อนจัด จะทำให้แผลในช่องปากเกิดการอักเสบมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการกินอาหารร้อนๆ รวมถึงอาหารที่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้านอีกด้วย

4.ทานวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก

เนื่องจากแผลในปาก อาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ดังนั้นจึงควรกินอาหารที่มีวิตามินบี 12 และธาตุเหล็กให้มากๆ เพื่อเสริมบำรุงร่างกายและทำให้แผลในปากหายเร็วขึ้นนั่นเอง

5.ทายาป้ายแผลในปาก

แม้ว่าแผลในปากจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน แต่ก็ควรทายาป้ายแผลในปาก เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น และป้องกันการอักเสบที่อาจจะทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่าเดิม

แผลในช่องปาก ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะนั่นอาจเกิดจากสาเหตุที่เป็นอันตรายไม่น้อย ดังนั้นเมื่อมีแผลในช่องปาก หากเป็นอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุทันที และที่สำคัญจะต้องดูแลรักษาแผลในช่องปากอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock