จัดงานแต่งแบบไม่พลาดกับ 4 เรื่องควรรู้! ก่อนหาฤกษ์แต่งงาน
เมื่อวางแผนที่จะจูงมือคนรักเข้าสู่ประตูวิวาห์ สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ก็คือการหาฤกษ์แต่งงานนั่นเอง แต่ก่อนที่จะไปหาฤกษ์กัน เรามาทำความเข้าใจกับฤกษ์ดีวันแต่งงานกันก่อนดีกว่า เพื่อจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด และได้วันแต่งงานที่เหมาะกับคู่ของคุณที่สุด
1.อย่าดูฤกษ์แค่วันเดียว
เพราะฤกษ์ดีที่เหมาะกับการแต่งงาน ไม่ได้มีแค่วันเดียวเท่านั้น ดังนั้นในการหาฤกษ์ จึงควรหาสำรองไว้ประมาณ 2-3 วัน เพื่อจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น ลองคิดดูว่าหากคุณดูฤกษ์มาแค่วันเดียวเท่านั้น แต่บังเอิญสถานที่จัดงานแต่งและผู้ให้บริการในการจัดงานแต่งส่วนใหญ่ดันมีคิวแน่นพอดี หรือมีระยะเวลากระชั้นชิดเกินไปจนทำให้เตรียมการไม่ทัน ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งหากมีฤกษ์สำรองไว้หลายๆ วัน ก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นวันอื่นตามสะดวกได้นั่นเอง
2.ควรเลี่ยงฤกษ์ปลายปี
ไม่ได้หมายความว่า ฤกษ์ปลายปีเป็นฤกษ์ไม่ดี แต่เป็นเพราะช่วงปลายปี มักจะมีคู่บ่าวสาวแต่งงานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้การบริการต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งงานมีคิวแน่นเป็นพิเศษ เช่น บริการจัดงานแต่ง บริการเช่าสถานที่จัดงานแต่ง บริการแต่งหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นต้น ดังนั้นควรหาฤกษ์ที่เป็นช่วงกลางปีดีกว่า หรือหากใครที่สามารถจองคิวได้ทัน ก็อาจจัดช่วงปลายปีก็ได้
3.ฤกษ์ชนกับปีชง ก็แก้ปัญหาได้
เมื่อเจอว่าฤกษ์แต่งงานชนกับปีชงพอดี ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆ ด้วยการแก้ชงซะก่อน จากนั้นก็สามารถจัดงานแต่งงานได้อย่างสบายใจโดยไม่มีปัญหาแล้ว แต่หากยังรู้สึกกังวลจะเลื่อนไปแต่งเป็นปีต่อไปก็ได้เหมือนกัน
4.ใช้คำถามนำในการหาฤกษ์ได้
สำหรับใครที่อยากให้ฤกษ์แต่งงานตรงกับวันใดเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้คำถามนำในการหาฤกษ์แต่งงานได้ ซึ่งจะทำให้พระท่านหรือชินแส สามารถเลือกวันแต่งงานให้กับคุณได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ตัวอย่างการถามนำ เช่น มีฤกษ์แต่งงานวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เป็นฤกษ์ดีและเหมาะกับคู่ของเราบ้างไหมคะ เท่านี้คุณก็จะได้ฤกษ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด แต่หากไม่มี พระท่านหรือชินแสก็จะแนะนำเป็นวันอื่นๆ ให้ หรือจะลองถามนำไปใหม่ก็ได้
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็สามารถหาฤกษ์วันแต่งงานที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อและขนบธรรมเนียมของท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย เพราะแต่ละท้องถิ่นอาจมีความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน และอีกสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความรักยืนยาว ไม่เพียงแค่เพราะฤกษ์ดีเท่านั้น ก็คือความรักที่จริงใจและซื่อสัตย์ต่อกันนั่นเอง