ตลาดนัดหย่า แยกทาง หมดหวัง ครั้งแรกในกรุงปารีส

 

สมัยก่อนตอนปู่ย่าตายายของเรายังหนุ่มยังสาว เรื่องเลิกๆ หย่าๆ ถือเป็นเรื่องน่าอับอาย กว่าสามีภรรยาสักคู่จะตัดสินใจหย่ากันได้ ก็ต้องนอนคิดแล้วคิดอีกว่า จะทนฟังคำนินทาของชาวบ้านได้มั้ย? ยิ่งเป็นผู้หญิง ก็จะต้องคิดหนักไปอีกว่า ต่อไปจะเลี้ยงลูกยังไง? จะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้มั้ย?

แต่สมัยนี้ การหย่าร้างนอกจากจะกลายเป็นเรื่องธรรมด๊า...ธรรมดา ปรากฏว่า บรรดา "คนหม้าย" ยังมี "ตัวช่วย" เยอะแยะไปหมด ขนาดว่า ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งมีงานแฟร์ ชื่อ หย่า แยกทาง หมดหวัง ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแก่บรรดาคนหม้ายแบบครบวงจร โดยมีทุกเรื่องที่คนหม้ายอยากรู้!!!

ซิลวี ราซาฟินดราโกโต แม่หม้ายน้องใหม่วัย 46 ที่เพิ่งผ่านการหย่าร้างมาเพียง 3 สัปดาห์ บอกกับนักข่าวรอยเตอร์ว่า เธอมาที่งานนี้ เพราะต้องการคำแนะนำในการดูแลลูกๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ที่ต่อไปนี้เธอต้องดูแลลูกๆ ตามลำพังในฐานะ ซิงเกิล มาเธอร์

แต่ขณะเดียวกัน ซิลวี ก็ต้องการที่ปรึกษาที่จะให้คำแนะนำเรื่องการแต่งตัว การเลือกแบบเสื้อ และสีเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับเธอด้วย "ฉันต้องการสร้างความมั่นใจในตัวเอง ฉันจึงอยากได้ใครสักคนที่จะมาบอกฉันว่า ควรจะปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพตัวเองอย่างไรบ้าง"

นอกจากเรื่องเสริมสร้างความเชื่อมั่นอย่างที่ซิลวีอยากได้ ผู้ไปเที่ยวงานยังสามารถหาทุกสิ่งอย่างที่สามารถจะช่วย "บรรเทา" ความเจ็บปวดจากการหย่าร้าง แยกทาง ซึ่งยังมีทั้งคำแนะนำเรื่องการจัดการด้านกฎหมายที่คู่หย่าร้างต้องสะสาง หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงิน ไปตลอดจนถึงคำแนะนำในการดำเนินชีวิตนับแต่นี้ไป หรือแม้กระทั่งเคล็ดลับในการสร้างเสน่ห์ และการกำจัดเซลลูไลต์ ไขมันส่วนเกิน เพื่อปรับปรุงรูปโฉมให้เช้งกระเด๊ะขึ้นมาใหม่

ในงานนี้ บรรดาผู้ที่ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ยังสามารถว่าจ้างสำนักงานนักสืบให้ช่วยสืบหาหลักฐานการคบชู้ นอกใจ หรือทรัพย์สินที่อีกฝ่ายอาจซุกซ่อนไว้ได้ด้วย

"จุดประสงค์ของงานนี้ก็คือ การรวมทุกอย่างมาไว้ในงานเดียวกัน เพื่อช่วยบรรดาคนหม้ายในการเผชิญทุกปัญหาที่ตามมาหลังจากการหย่าร้างแยกทางกัน" บริดเจ็ต กูเม่ต์ ผู้จัดงานซึ่งทุกวันนี้ยังอยู่ดี มีสุขกับสามีมาถึง 25 ปีบอก

ทั้งนี้จากสถิติของสำนักสถิติ บอกว่า ที่ฝรั่งเศส มีสถิติการหย่าร้างเพิ่มขึ้นทุกปี นับแต่ปี 2513 เป็นต้นมา กระทั่งเมื่อปี 2550 มีคดีหย่าร้างเกิดขึ้นกว่า 134,000 คดี ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ยังไม่รวมถึงคู่ที่ไม่ได้แต่งงานแล้วแยกทางกัน

ทุกการแยกทางที่เกิดขึ้น บริดเจ็ตบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม แน่นอนว่า ความเจ็บปวด ทุกข์ใจ เป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานที่สุดที่ทุกคู่ต้องเจอ แต่เธอก็เชื่อมั่นว่า ต่อให้เจ็บปวดมากขนาดไหน ไม่ว่าใครก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้!!!

"ในการจะก้าวต่อไป ทุกคนต้องผ่านขั้นตอนของความโศกเศร้ากับอดีต เสียใจกับความหวังที่เคยมีแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว กับภาพลักษณ์ที่พวกเขาเคยมีกับตัวเอง และภาพความสัมพันธ์ในอดีตกันทั้งนั้น แต่มันก็จะผ่านไปได้"

สำหรับขั้นตอนในการปลุกชีพตัวเองให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ ต้องทำอย่างไร? ผู้จัดงานเล่าว่า ถึงแม้ในงานจะมีการให้ความช่วยเหลือ แก้ปัญหา ไขข้อข้องใจทางกฎหมาย และการเงิน แต่สิ่งที่ผู้จัดให้ "ความสำคัญ" ที่สุดก็คือ การจัดการกับอารมณ์ ความรู้สึก และการเสริมสร้างความมั่นใจ ดังนั้นภายในงานจึงมีเวิร์กช็อป หรือสัมมนาเชิงปฏิบัติการหลายหัวข้อ อาทิ หัวข้อการปรับตัว เพื่อตั้งหลักใหม่ การเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เพื่อที่จะกลับมายืนด้วยตัวเองได้ใหม่ แล้วยังเรื่องการทำศัลยกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจ แล้วยังมีสอนเคล็ดลับเรื่องการสร้างเสน่ห์ หว่านเสน่ห์ เพื่อพบรักใหม่อีกด้วย

เดวิด เฮอร์ซ็อก อดีตนักกีฬาที่ผันตัวเองมาเป็นโค้ชให้คำปรึกษาการจัดการชีวิต ซึ่งมาร่วมงานนี้ด้วย เล่าว่า สำหรับเขาเอง เขาจะใช้หลายวิธีผสมผสานกัน ทั้งฟิตเนส เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย การสะกดจิต และโปรแกรมที่จะช่วยลบความรู้สึกด้านลบ เพื่อช่วยให้ผู้มาขอความช่วยเหลือจากเขา ค่อยๆ สร้างชีวิตใหม่ เพื่อกลับมายืนหยัดด้วยตัวเองได้อีกครั้ง