โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความเป็นมาของโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
ในแต่ละปี มีพสกนิกรกระทำสิ่งต่าง ๆ ถวายเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นจำนวนมากแต่สิ่งที่เหล่าพสกนิกรจะกระทำถวายพระองค์ท่านได้ดีที่สุด คงเป็นการศึกษาเรียนรู้และน้อมนำเอาแนวพระราชดำริ ที่ได้ทรงริเริ่มไว้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเอง ชุมชน และประเทศชาติ "โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ" จึงได้กำเนิดขึ้นโดยเป้าหมายสูงสุดของโครงการฯ คือ การกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมพัฒนาตนเองตามแนวพระราชดำริทั่วประเทศ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ (84 พรรษา) ในปี 2554 พร้อมทั้ง การปลูกป่า เพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี 2555

การจัดตั้งโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
ในปี 2550 สำนักงานการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) ได้ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ประกอบด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยริเริ่ม "โครงการปิดทองหลังพระ" เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาโดยส่งเสริมการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสคุณค่าและความสวยงามของโครงการพระราชดำริ พร้อม ๆ กับการเรียนรู้แนวพระราชดำริในด้านต่าง ๆ
ต่อมา สสปน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นพ้องกันว่าควรขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการจากเดิมที่สิ้นสุดในปี 2550 เป็นสิ้นสุดในปี 2554 เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ (84 พรรษา) พร้อมทั้งขยายขอบข่ายของโครงการ โดยจะให้ความสำคัญกับการกระตุ้นให้ประชาชนนำแนวพระราชดำริไปพัฒนาต่อทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนของประชาชนและชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการฯ (เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2550) และการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยโครงการฯ โดยมีนายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธาน และ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น "โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ"


แนวทางการดำเนินโครงการ
ภารกิจของโครงการปิดทองหลังพระฯมุ่งเน้นการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เผยแพร่สู่ชุมชน โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการบริหารจัดการให้เปิดการบูรณาการองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริใน 6 มิติหลัก ได้แก่ มิติเรื่องน้ำ ดิน เกษตร พลังงานทดแทน ป่า และสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาระบบความร่วมมือกับองค์กรรัฐ สถาบันวิชาการ

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสังคมและภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง รวมทั้งยึดหลักการทรงพลังงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 23 ข้อ เป็นแนวทางหลักในการดำเนินโครงการฯ ตลอดจนพิจารณาความสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเป็นการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมด้านความรู้และการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนและชุมชนนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ให้ในชีวิตประจำวันและในชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านที่แก้ปัญหาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ

 

การแสดงในงาน "เทศกาลปิดทองหลังพระ" 30 พ.ย - 5 ธ.ค 2552

30 พฤศจิกายน 2552
โก้ Mr. Saxman : Koh Mr.Saxman หรือในชื่อจริงว่า เศกพล อุ่นสำราญ โก้ ถูกเลือกเข้าเล่น Sax กับอีกหลาย ๆ วงดนตรีชั้นนำเช่น The Jazz Infinity, T-Bone ก่อนจะสร้างวงดนตรีของตัวเอง และ มี Solo Album ใช้ชื่อว่า "The sound of Saxman" (2008) Smooth and Pop-Jazz album ที่ร่วมงานกับนักดนตรีระดับโลกหลายคน เช่น Darren Rahn, Mel Brown, Frank Selman . Recording in Denver (U.S.A.) แสดงวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 20.00-21.00 น.


วงดนตรีคลาสสิค มหาวิทยาลัยศิลปากร : คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความแตกต่าง จากสถาบันดนตรีอื่นๆ นั้น คือมุ่งผลิตนักดนตรีเป็นเลิศ ควบคู่กับการสร้างฐานผู้ฟัง ซึ่งจะช่วยพัฒนาดนตรีคลาสสิกให้เข้มแข็งในอนาคต โดยให้ความรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิก หรือสร้างความซาบซึ้งในดนตรีให้กับประชาชน แสดงวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 19.00-20.00 น.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook