ข้อเท็จจริง ของครีมไวเทนนิ่งที่คุณชอบ

 

 

        เป็นเรื่องที่ถกเถียงมานานทีเดียว กับเทรนด์ที่ไม่เคยตกยุคอย่างผิวขาวๆ ใสๆ ที่สาวเอเชียหลงใหลเป็นนักหนา เพราะบ่งบอกได้ว่าเป็นผิวที่สะอาด น่าสัมผัส สะดุดตา และเป็นค่านิยมที่มีมาแต่โบราณ

        นั่นจึงทำให้สาวๆ หาวิธีสารพัดมาบำรุงผิวให้ขาว และสิ่งที่ดูเหมือนง่ายและประหยัดที่สุดแล้วก็คือการทาครีมไวเทนนิ่งยี่ห้อต่างๆ ที่เชื่อกันว่าจะระงับการเกิดเม็ดสี และทำให้ผิวขาวสว่างขึ้นได้ โดยที่บางคนนั้น ยอมลงทุนเสาะหาทุกยี่ห้อที่ว่าดี พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเอาจริงเอาจังเลยทีเดียว

        คุณหมอกอบกาญจน์ ไพบูลย์ศิลป แพทย์ประจำบัลวี ศูนย์ธรรมชาติบำบัด ได้ให้ความเห็นทางคอลัมน์ Green Beauty Guide ในเวบไซต์ www.sabai-arom.com ไว้ว่า “ถ้าตามธรรมชาติแล้วไม่ใช่คนผิวคล้ำ เมื่อไปออกแดดผิวจึงคล้ำขึ้นได้ แต่เมื่อกลับมาอยู่ในที่ร่ม ผิวเราก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ในอีกกรณีที่เดิมเป็นคนผิวคล้ำอยู่แล้ว การดูแลอย่างมากก็คือที่มีผิวเนียนสวยขึ้น แต่จะไม่ขาวขึ้นอย่างแน่นอน

        การใช้ครีมไวท์เทนนิ่งต่างๆ หมอก็เคยคุยกับแพทย์ผิวหนังและมีความเห็นคล้ายกันว่า อะไรก็ตามที่ทาลงบนผิวให้ขาวนั้น จะไม่ค่อยช่วยเท่าไร ส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง Co2 อาจช่วยเรื่องหลอดเลือด แต่พวกทาๆ ทั้งหลายจะไม่เกิดผล ยิ่งถ้าเป็นครีมบางชนิดที่เคลือบผิวให้ดูขาว การใช้นานๆ ก็ยิ่งอาจทำให้เป็นอันตรายต่อผิวได้…”

เบื้องหลังครีมที่เราใช้

        มีรายงานว่า ผู้หญิงเอเชีย ไม่ว่า จีน ญี่ปุ่น (ที่สุดจะขาวอยู่แล้ว) อินเดีย และไทยมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ยอมทุ่มเงินกว่า ฃร้อยล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ ต่อปีเพื่อผลิตภัณฑ์ผิวขาว รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ แต่เบื้องหลังของครีมเหล่านี้ มีน้อยคนที่จะศึกษาอย่างจริงจัง

        ครีมทาผิวให้ขาวนั้นมีไม่มากชนิด โดยมากแล้วจะเป็นการเติมสารสังเคราะห์ที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี และใส่สารกันแดดด้วย บางชนิด ก็เป็นการทำให้เกิดการหักเหของแสง (อย่างครีม BB ที่สาวๆ กำลังนิยม) ทำให้ผิวดูสว่างใส และบางชนิดก็เป็นการเคลือบผิวไว้ด้วยสารเคมีบางอย่าง ซึ่งชนิดนี้อาจทำให้ระคายเคืองได้

        อย่างไรก็ตาม มีการใช้สารอันตรายที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี และทำลายผิวอย่างมากตามข่าวต่างๆ ในหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือสารทื่ชื่อว่า ‘ไฮโดรควิโนน’ (Hydroquinone) และ ‘สเตียรอยด์’ (Steroids) ซึ่งถ้าใช้ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ในส่วนผสม ก็จะสามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีได้ แต่หากมากถึง 5 - 10 เปอร์เซ็นต์จะทำให้ระคายเคือง ผิวเห่อแดง และอาจทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี และที่ร้ายสุด ก็คือการกัดผิวจนด่างขาว ผิวลอก

        แพทย์ผิวหนังแนะนำว่าสารเคมีสองตัวนี้เป็นสารต้องห้าม แต่ก็ยังพบว่า ในอเมริกาถูกใช้เป็นส่วนผสมของครีมบำรุงผิวกว่า 200 ชนิด ทางที่ดีหากต้องการผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ลองใช้สารทดแทนอย่างวิตามินบี3 ,ถั่วเหลือง, กลอย, กาแฟ และ ถั่วเขียว ที่มีสาระสำคัญในการทำให้ผิวผลัดตัว และช่วยดูดซับแสงแดด พร้อมกันนั้นก็ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านเพื่อไม่ให้ผิวคล้ำลง เพราะอย่าลืมว่าผิวคนเราจะไม่ขาวขึ้นไปกว่าธรรมชาติของสีผิวเดิม แต่เราสามารถทำให้ผิวเรียบเนียน และสว่างขึ้นได้ หากผิวเดิมเรานั้น ขาวกว่าสีผิวปัจจุบันที่เป็นอยู่

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากผลิตภัณฑ์สบายอารมณ์ หรืออ่านคอลัมน์ Green Beauty Guide กับคุณหมอกอบกาญจน์ ได้ที่ www.sabai-arom.com/green_beauty_guide.html