เพิ่มพลังสร้างสรรค์ในตัวคุณ
ในยุคที่การแข่งขันสูงและไม่ได้สู้กันที่เงินทุนอีกต่อไป ในยุคของเรากำลังก้าวเข้าสู่การแข่งขันเชิงไอเดียที่ใครยิ่งมีความคิดสร้างสรรค์เท่าไร ก็ยิ่งมีผลงานโดดเด่นมากขึ้นไปเท่านั้น
หากคุณอยู่ในหน้าที่การงานที่จะต้องวัดไอเดียตลอดเวลา แล้ววันหนึ่งถึงทางตัน คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกหรือไม่ความคิดก็ดูธรรมดามากเสียจนไม่อยากเอาเข้าห้อง เสนองาน ลองปรับมาใช้วิธีเหล่านี้ดูสิ
อยู่อย่างสงบ 1 ชั่วโมงต่อวัน
ด้วยความที่หน้าที่การงานยุ่งเหยิง คุณอาจจะไม่ได้ไขว่คว้าหาความสงบมากนัก นั่นอาจจะทำให้ไอเดียของคุณวุ่นวายและฟุ้งกระจายพอดู หากคุณได้นั่งเฉยๆ เงียบๆ คนเดียวบ้าง หรือนั่งสมาธิก่อนเข้านอนวันละ 1 ชั่วโมง ก็จะทำให้ความคิดที่ฟุ้งกระจายเหมือนผงในน้ำ จะตกตะกอนลงได้ แล้วความคิดคุณจะใสขึ้น และมีประเด็นแจ่มชัดมากขึ้นด้วย
ฟังเพลงอ่านหนังสือ
การฟังเพลงคลาสสิกที่มีอุปกรณ์ดนตรีหลายชั้น เช่น บาร์ค บีโธเฟ่น จะช่วยให้เซลล์สมองทั้งสองข้างเชื่อมต่อดีขึ้น รวมทั้งการอ่านหนังสือดีๆ ก็จะยิ่งทำให้สมองของคุณเปิดกว้าง มีความคิดใหม่ๆ เข้ามาโดยไม่ตีกรอบตัวเองจนเกินไป เชื่อมโยงไอเดียต่างๆ เข้าด้วยกัน และสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี ทั้งนี้ อย่างน้อยๆ คุณควรอ่านหนังสือให้ได้ 3 เล่มต่ออาทิตย์
คุยกับคนอื่นเยอะๆ
ถ้าคุณมีโอกาสมากพอลองตั้งประเด็นแล้วพูดคุยกับคนที่อยู่ในหลายๆ สาขาอาชีพ เพราะคุณจะได้รู้ความรู้สึกและความต้องการของเขาว่าเป็นอย่างไร เมื่อสบโอกาสลองพูดคุยบนรถแทกซี่ ผับ บาร์ หรือแม้แต่สมาคมแม่บ้าน เราต้องเปิดโลกให้กว้างขวางแล้วไอเดียก็จะไหลเข้ามาเอง
พกสมุดจดไอเดีย
ติดโน้ตบุ๊กเล่มเล็กๆ ไว้ในกระเป๋าดูบ้าง ยามไปไหนนั่งเงียบๆ บนรถ เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาจะได้จดไว้ทัน เพราะสมองของคุณไม่สามารถจดจำได้หมดทุกๆ สิ่งอย่างที่คุณนึกออก สมุดเล่มนี้จะบันทึกข้อมูลได้มากกว่า 90%
เดินเล่นตามสวนสาธารณะ
หากคุณเครียดคิดอะไรไม่ออกลองเล่นตามสวนต่างๆ ดูสิ เพราะจะทำให้ประสาทของคุณตื่นตัว เปลี่ยนบรรยากาศ เป็นการเปิดสมองของคุณให้เข้าที่เข้าทางด้วยการได้ออกซิเจนและพื้นที่สีเขียวจะทำให้สมองปลอดโปร่งทำงานได้ดีขึ้น
ลิสต์ปัญหาใส่กระดาษ
บางทีปัญหาที่อยู่แต่ในหัวคุณ อาจจะมองภาพหนทางแก้ไขไม่เห็น ลองเขียนลงในกระดาษหรือคอมพิวเตอร์ดูก็ได้ คุณจะมองเห็นภาพปัญหาหรือเงื่อนไขที่คุณต้องคิดได้ชัดเจนขึ้น เนื่องจากคุณจะมองเป็นรูปธรรมและมองเห็นภาพที่กว้างกว่าเยอะกว่าอยู่ในหัว
ไอเดียดีๆ ต้องห้ามดูทีวี
การดูทีวีไม่ใช่การผ่อนคลายที่แท้จริง แต่เป็นการทำให้สมองทำงานช้าลงและยึดติดกับประสาททางสายตาและทางหูมากขึ้น ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับไปผลิตเป็นไอเดียนั้นจะถูกจำกัดในวงแคบมากกว่าจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากทีวี