เผยโฉมคอลเลคชั่นในพระองค์ SIRIVANNAVARI, Spring/Summer 2010 The World is not enough
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมคอลเลคชั่นในพระองค์ ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ภายใต้พระดำริ " THE WORLD IS NOT ENOUGH "
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมผลงานทรงออกแบบ จากคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ พร้อมด้วยเครื่องประดับ และเครื่องหนังประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ภายใต้แนวพระดำริ The World is not enough (เดอะ เวิล์ด อิส นอท อินาฟ) ที่สะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ และสีสันตามแบบฉบับการใช้ชีวิตอันสุขสำราญ ในช่วงฤดูร้อนของชาวเมดิเตอเรเนียน
คอลเลคชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 แฝงไว้ด้วยกลิ่นไอของการเดินทางอย่างมีสไตล์ เหนือท้องทะเลสีฟ้าแซฟไฟร์แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากทางตอนใต้ของยุโรป ตั้งแต่เกาะซานโตรินีของกรีซ เกาะคาปรีของอิตาลี เฟรนช์ ริเวียร่าของฝรั่งเศส เรื่อยไปจนถึงทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา อย่างกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยในคอลเลคชั่นนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงดึงรายละเอียดต่างๆ ของวัฒนธรรมเมดิเตอเรเนียนที่โดดเด่น แล้วทรงนำมาตีความ และทรงถ่ายทอดออกมาในภาษาของแฟชั่นภายใต้คอนเซ็ปท์ "The World is not enough" ซึ่งอารมณ์ของเสื้อผ้ามีความพริ้วไหว เซ็กซี่ รีแลกซ์ แต่ยังคงความโก้หรู และโมเดิร์นที่สัมผัสได้ นอกจากนี้ จุดเด่นของคอลเลคชั่น ยังอยู่ที่การทรงนำลายภาพวาดฝีพระหัตถ์ซึ่งจัดแสดงที่นิทรรศการศิลปะ "HOW I SEE IT" มาสร้างสรรค์ใหม่ให้เป็นลายกราฟฟิคเอกลักษณ์ประจำคอลเลคชั่นล่าสุดนี้อีกด้วย
พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งว่า "ในระหว่างที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ในยุโรป ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้เดินทาง และสัมผัสไลฟ์สไตล์ของชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงทำให้ข้าพเจ้าสังเกตว่าลักษณะการแต่งกายและสีสันในพื้นที่แถบนั้น ก็สามารถนำมาสวมใส่ที่ประเทศไทยได้เช่นกัน เพราะภูมิอากาศที่มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งก็คือที่มาของคอลเลคชั่นนี้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้ศึกษาถึงวัฒนธรรมเมดิเตอร์เรเนียนให้มากขึ้นแล้วนำมาตีความใหม่ แล้วนำมาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บอันประณีตของแบรนด์ "SIRIVANNAVARI" เพื่อสร้างรูปแบบเสื้อผ้าที่สดใหม่ให้กับคอลเลคชั่น ดังเห็นได้จากเทคนิคการนำผ้าต่างสีต่างชนิดมาเย็บตัดต่อเข้าด้วยกันให้กลายเป็นเสื้อลายกะลาสี แล้วเพิ่มความเซ็กซี่ ด้วยการจับเดรปด้วยเทคนิคชั้นสูงที่ด้านหลังของชุด โครงสร้างกระโปรงแบบสาวยิปซี ที่เพิ่มความโก้หรูด้วยการนำผ้าทูล และผ้าชีฟองมาเย็บตัดต่อกัน ไปจนถึงชุดคัฟทาน (Kaftan) และชุดค็อกเทลที่เพิ่มความเป็น แฟชั่นด้วยโครงเสื้อแบบไม่สมมาตร (Asymmetric)"
สำหรับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบสำหรับสุภาพสตรีประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ประกอบไปด้วยเสื้อผ้าทั้งสิ้น 48 ชุด แสดงถึงเสื้อผ้าที่มีความเป็นเฟมมินีน (Feminine) ที่แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่อย่างมีระดับ โดยมีเอกลักษณ์การตัดเย็บประจำคอลเลคชั่นอยู่ที่การนำเอาเทคนิคการตัดเย็บแบบ เซมิกูตูร์ (Semi-Couture) มาผสมผสานเข้ากับเสื้อผ้าแบบลำลอง เพื่อทำให้หญิงสาวดูโก้หรูมีสไตล์ได้ในทุกโอกาส โดยจะมีทั้งเสื้อผ้าแบบลำลอง ชุดค็อกเทลสั้นที่ดูเก๋สมัยใหม่ ไปจนถึงชุดราตรียาว ที่เปี่ยมล้นด้วยกลิ่นไอและรายละเอียดการตกแต่งเสื้อผ้าแบบเมดิเตอร์เรเนียน อาทิ โครงสร้างกางเกงสามส่วนตัวหลวม โครงสร้างชุดมูมู่และคัฟทานที่กรุยกราย โดยเพิ่มความโก้หรู และสง่างามไว้อย่างชัดเจนด้วยการใช้วัสดุและผ้าอันหรูหรา อย่างเช่น ผ้าไหมชีฟอง (Silk Chiffon) ผ้าไหมซาติน (Silk Satin) ผ้าทูล (Tulle) ลูกปัด และดิ้นทอง และเพิ่มความร้อนแรงประจำฤดูกาลด้วยโทนสีฉูดฉาดอย่าง สีแดงปะการัง (Coral Red) สีบรอนซ์ทอง สีเขียวมะนาว (Lime Green) แต่ยังคงคอนเซ็ปท์เมดิเตอร์เรเนียนด้วยสีขาว สีงาช้าง และสีน้ำเงิน อีกทั้งยังมีความพิเศษด้วยลายกราฟฟิคที่นำมาจากลายภาพวาดฝีพระหัตถ์อย่างลายหัวใจ และลายขนนกยูง ดังเห็นได้จากกางเกงขาสามส่วนสีทองที่เข้าคู่กับเสื้อลายกะลาสีที่นำผ้าต่างสีต่างชนิดมาเย็บตัดต่อเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดลายทางขาวน้ำเงิน ชุดเสื้อกระโปรงที่ผสมผสานเสื้อเชิ้ตจับเดรปมาอยู่คู่กับกระโปรง ยิปซีที่ดูหรูด้วยผ้าทูล และผ้าไหมชีฟอง ชุดค็อกเทลที่โดดเด่นด้วยการนำผ้าลาเม่ (Lamé) มาตัดต่อสลับกับผ้าชีฟอง ทำให้เกิดเป็นลายทาง และเพิ่มความเซ็กซี่ด้วยการจับเดรปถ่วงเผยให้เห็นแผ่นหลังของผู้สวมใส่ ชุดคัฟทานที่ชายเสื้อเป็นระบายกรุยกรายที่ตัดเย็บจากผ้าไหมซาติน ลายกราฟฟิคฝีพระหัตถ์รูปหัวใจ ไปจนถึงชุดราตรียาวผ้าทูล และชีฟองที่กรุยกรายสไตล์เทพธิดากรีก ดูหรูหราด้วยการปักลูกปัด และดิ้นทองซึ่งเป็นงานฝีมืออันประณีต ที่โมเดิร์นตามแบบฉบับของแบรนด์ "SIRIVANNAVARI"
สำหรับคอลเลคชั่นเครื่องประดับแฟชั่น ทรงออกแบบประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 ก็มีความหลากหลายเช่น เดียวกับ คอลเลคชั่นเสื้อผ้า ตั้งแต่สร้อยคอสีฉูดฉาดทั้งสีแดง สีชมพู สีส้ม สีเหลือง สีฟ้า สีเทอร์ควอยซ์ ที่ถักร้อย จากปะการัง เปลือกหอย หินสี แก้ว และลูกปัด ผ้าผันคอลายภาพวาดฝีพระหัตถ์อย่างลายหัวใจ ลายกะโหลก และ ลายนกเพนกวิน ที่นำมาผูกพันเป็นเครื่องประดับของเสื้อผ้าทำให้เกิดสไตล์การแต่งกายแบบใหม่
ส่วนคอลเลคชั่นเครื่องหนัง ทรงออกแบบประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2010 มีทั้งกระเป๋า และรองเท้า ซึ่งอยู่ภายใต้โทน สีขาว น้ำเงิน แดง และเบจ โดยพระองค์หญิงทรงออกแบบรองเท้าไว้ 2 แบบ คือ รองเท้าสานไม่มีส้น และรองเท้าส้น สูงสีขาวขลิบน้ำเงิน และเบจขลิบน้ำตาล ซึ่งมีแพลทฟอร์ม (Platform) ขนาดครึ่งฝ่าเท้า ในขณะที่กระเป๋าทรงออกแบบในคอลเลคชั่นนี้ มีทั้งกระเป๋าถือใบเล็ก (Clutch bag) ที่ตัดเย็บจากผ้าพิมพ์ลายกราฟฟิค ฝีพระหัตถ์รูปหัวใจประดับโบว์ กระเป๋าสะพายไหล่ที่ตัดเย็บ จากผ้าลายทางสีขาวน้ำเงิน และกระเป๋าสะพายที่ดูเก๋ ด้วยการนำริบบิ้นหนังมาผูกเป็นหูรูดกระเป๋า
ในขณะที่คอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบของสุภาพบุรุษ "S'Homme" (เอส ออม) ซึ่งอยู่ภายใต้คอนเซ็ปท์ของสไตล์แห่งเมดิเตอร์เรเนียนเช่นกัน อันแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ของผู้ชายที่ดูสบาย รีแล็กซ์ ไม่ต้องการรายละเอียดที่เยอะ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเท่ และสไตล์อันโดดเด่นในทุกย่างก้าว โดยมีเฉดสีหลักคือ ขาว เบจธรรมชาติ น้ำเงิน และดำ ตั้งแต่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น พิเศษด้วยผ้าพันคอสีแดง ปานามาชาโป (Panama Chapeau) กระเป๋าเป้ และกระเป๋าถือทำด้วยวัสดุผ้าลินิน รวมถึงเสื้อยืดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ทรงพบเห็นรอบตัวตั้งแต่หนุ่มกะลาสีเรือ เรื่อยไปจนถึงเศรษฐีเจ้าของเรือยอร์ช ปิดท้ายด้วยกางเกงขายาวแบบหูรูด (Drawstring) และเสื้อเชิ้ตผ้าลินิน ที่ตกแต่งด้วยผ้าลินินตีเกร็ด ในส่วนหน้าของเสื้อ และกุ๊นปกเสื้อด้วย สีดำสุดเท่
คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ พร้อมด้วยเครื่องประดับแฟชั่น และเครื่องหนังประจำฤดูใบไม้ผลิ /ฤดูร้อน 2010 ของแบรนด์ "SIRIVANNAVARI" มีจัดจำหน่ายแล้วที่ SIRIVANNAVARI บูติค ภายในร้าน เอฟ เซน ดีไซน์ โชว์เคส (F ZEN DESIGN SHOWCASE) ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซน
อัลบั้มภาพ 50 ภาพ