4 ลักษณะพ่อแม่ที่ควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากให้ลูกติดเกมส์
ปัญหาเด็กติดเกมส์ เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน ซึ่งแพทย์ชี้ว่าสาเหตุหลักๆ เกิดจากการที่พ่อแม่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและมีการเลี้ยงลูกที่ผิดวิธี จึงทำให้ลูกติดเกมส์ในที่สุด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว พ่อแม่ควรเลี่ยง 4 ลักษณะดังต่อไปนี้
1.เอาแต่บ่นและตำหนิลูก
จริงอยู่ที่การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องยาก ซึ่งเมื่อลูกทำผิดหรือไม่ถูกใจก็มักจะบ่นและตำหนิลูกเสมอ แต่รู้ไหมว่านั่นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูก เพราะการบ่นอย่างเดียวโดยไม่อธิบายให้ลูกเข้าใจหรือไม่พยายามที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูก จะทำให้ลูกรู้สึกต่อต้านและยังคงเล่นเกมส์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้ลูกติดเกมส์ ควรใช้คำพูดในเชิงอธิบายและชวนลูกทำกิจกรรมสนุกๆ ที่จะช่วยดึงความสนใจของเขาออกจากเกมส์ดีกว่า
2.ใจอ่อนกับลูกเสมอ
พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะใจอ่อนกับลูก เพราะกลัวว่าลูกจะเกิดความขัดแย้งและผิดหวังที่พ่อแม่ไม่ตามใจ แต่นั่นกลับเป็นการทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว เพราะเขาจะไม่มีวันรู้เลยว่าอะไรควรไม่ควรและติดนิสัยอาแต่ใจในที่สุด โดยเฉพาะการเล่นเกมส์ ที่หากพ่อแม่ไม่ห้ามก็จะทำให้เขามีแนวโน้มที่จะติดเกมส์มากขึ้น
3.ยุ่งตลอด ไม่มีเวลาให้ลูก
การที่พ่อแม่มักจะยุ่งตลอดจนแทบไม่มีเวลาให้ลูก ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกติดเกมส์เหมือนกัน โดยพ่อแม่เหล่านี้มักจะใช้วิธีการซื้อโทรศัพท์ ไอแพดหรือแท็บเล็ตให้ลูกเล่น เพราะคิดว่านั่นจะสามารถดึงความสนใจของลูกออกจากตนได้ดี แต่รู้ไหมว่ากลับเป็นการส่งเสริมให้ลูกติดเกมส์และติดหน้าจอในที่สุด แถมยังทำให้ลูกเข้าสังคมได้ยากขึ้นเนื่องจากไม่รู้จักการปรับตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนอีกด้วย
4.ละเลยการทำกิจกรรมในครอบครัว
กิจกรรมในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมพัฒนาการของลูกและทำให้ลูกมีความสุข ดังนั้นหากพ่อแม่ละเลยที่จะทำกิจกรรมร่วมกันกับลูก ก็จะทำให้เขาหันเหความสนใจไปที่เกมส์แทน ดังนั้นพ่อแม่ควรหาเวลาว่างสักนิด เพื่อให้ความใส่ใจกับลูกบ้าง โดยกิจกรรมครอบครัวที่ควรทำมากที่สุด ได้แก่ การชวนลูกปลูกต้นไม้ ขี่จักรยาน พาลูกไปเดินป่าชมธรรมชาติ เป็นต้น
รู้แบบนี้แล้วลองเช็คดูสิว่าคุณจัดอยู่ในพ่อแม่ที่เป็นสาเหตุให้ลูกติดเกมส์หรือไม่ ถ้าใช่ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองโดยด่วน และควรหาเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมดีๆ ที่จะเสริมสร้างความผูกพันในครอบครัวให้มากขึ้น เท่านี้ก็จะทำให้ลูกห่างไกลจากการติดเกมส์แล้ว