การกลับมาของตำนานเซ็กซี่ ศศิมา สิงห์ศิริ

 

ปรากฏการณ์การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ของดาราเจ้าบทบาทฉายานางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง คือ "เพชรา เชาวราษฎร์" นั้น สร้างกระแสความฮือฮายิ่งนัก เพราะเธอหายหน้าหายตาไปจากวงการกว่า 30 ปี ทำให้แฟนๆ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่อยากรู้อยากเห็นตัวจริงในปัจจุบันของเธอ นั่นคือการกลับมาของนางเอกคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

หากมองมาฝั่งหนังบู๊ ในยุคบู๊ภูธรกำลังเป็นที่นิยมในยุคนั้น ก็มีดาราสาวหลายๆ คนที่เล่นบทบู๊ เด่นสุดในเรื่องมากมาย เป็นบทบู๊ในแนวชีวิตของลูกผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น อรัญญา นามวงศ์, ภาวนา ชนะจิต, ปิยมาศ โมนยะกุล, สุทิศา พัฒนุช จนมาถึง ศศิมา สิงห์ศิริ ที่เธอหายไปจากวงการกว่า 25 ปี ก็น่าจะเป็นที่ยินดีหากเธอหวนวงการกลับมาให้แฟนๆ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ได้ชื่นชมอีกครั้ง

เพชรา เชาวราษฎร์ ที่อยู่ในฝั่งของนางเอกยอดนิยมผู้คนรักใคร่ ส่วนอีกฝั่งเป็นดาราสมทบ ดาวยั่ว หรือดาวเซ็กซี่ ในฝั่งของนางบู๊ผู้วาบหวาม เธอผู้นี้ก็น่าสนใจยิ่งนัก

ศศิมา สิงห์ศิริ หรือ ต้อย หรือชื่อจริงของเธอคือ จุฑารัตน์ อดิศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2498 ที่ตำบลบางเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี บิดาคือพันเอกชูศักดิ์ อดิศักดิ์ มารดาชื่อ สุดแสวง เมื่อเล็กๆ มารดาถึงแก่กรรมตั้งแต่ต้อยอายุ 6 ขวบ บิดาเป็นนายทหารหนุ่มต้องออกสนาม และเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ไม่ค่อยห่วงบ้านนัก และไม่ค่อยเอาใจใส่ลูกสาว ฉะนั้นเมื่อแก่ตัวลงจึงรักและสงสารลูกมาก เพราะเล็กๆ ทิ้งให้อยู่กับตาและยายมาตลอดโดยไม่เอาใจใส่ และนี่เองเป็นชีวิตบางตอนของศศิมาที่ถูกถ่ายทอดในหนังเรื่อง ศศิมาบ้าเลือด

เมื่อเรียนจบชั้นประถมที่ปทุมธานี ได้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนสตรีศรีอยุธยาจนจบชั้นมัธยม ความที่เป็นเด็กแก่นแก้ว ถูกครูลงโทษบ่อยครั้งที่สุด แต่มีผลงานเด่นในด้านอื่นคือเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน เป็นคนนำฝึกพลศึกษา เป็นแชมป์ว่ายน้ำ จึงทำให้มีรูปร่างสมส่วนและเพรียวลม ประกอบกับความอยากเป็นดาราภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอก็ได้รับเลือกเป็น ขวัญใจบางปู ซึ่งถือเป็นตำแหน่งทางความงามเป็นตำแหน่งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น และอีก 2 เดือนต่อจากนั้น ก็ได้รับเลือกเป็นเทพีวิสุทธิกษัตริย์อีก เรียกได้ว่าตลอดปี 2513 และ 2514 เป็นขวบปีที่แจ้งเกิดในโลกมายาสำหรับเธอ

ศศิมาก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักนำของ สุรินทร์ แสงขำ ดาราทีวีขณะนั้น ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของคุณพ่อศศิมาครั้งเรียนอยู่วิทยาลัยอุเทนถวาย รุ่นเดียวกับ สมบัติ เมทะนี, มีศักดิ์ นาครัตน์, ชัยยุทธิ์ เวรสวรรค์ ฯลฯ โดยคุณพ่อได้ฝากฝังศศิมาไว้กับสุรินทร์ให้ช่วยผลักดันเข้าเรียนนาฏศิลป์กับ อาจารย์สัมพันธ์ พันธุ์มณี ต่อมาหลังจากเรียนรำไทยที่ทีวีช่อง 9 ไปได้ไม่เท่าไหร่ ด้วยความเป็นคนหน่วยก้านดี ก็จึงถูกจับให้มาเล่นละครโทรทัศน์ที่สุรินทร์จัดขึ้น และได้เล่นเป็นนางเอกมาโดยตลอด อาทิ รังสิมาอธิษฐาน ศศิมาเล่นเป็นนางเอก และมีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาฝากตัวเล่นเป็นนางรองด้วยโดยสุรินทร์นำมา สุภาพสตรีผู้นั้นต่อมากลายเป็นนางเอกภาพยนตร์ชื่อเสียงโด่งดังคือ "ปิยมาศ โมนยะกุล" นั่นเอง
ต่อมาศศิมาอยากเข้าสู่วงการภาพยนตร์บ้าง สุรินทร์จึงพาไปฝากกับรัชฟิล์มทีวี ได้เล่นภาพยนตร์ชุดหุ่นไล่กา, เมืองลับแล, สามสาววัยสวาท และอื่นๆ อีกมาก

เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม ก็เบนเข็มสู่เส้นทางวิชาชีพ เป็นจังหวะที่ สนั่น จรัสศิลป์ กำลังจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง แม่งู เธอจึงถูกทาบทามอีกครั้งเพื่อรับบทนางเอก และตัดสินใจรับเล่นภาพยนตร์อย่างจริงจังจนล้มเลิกความคิดที่จะทำอาชีพเสริมสวยตามที่ครอบครัวได้ลงทุนเปิดร้านให้ ศศิมาแสดงภาพยนตร์ต่อมาอีก 2-3 เรื่อง ได้ไม้รับบทเด่นเท่าที่ควร เพราะขณะนั้น "เพชรา เชาวราษฎร์" ยังดังอยู่ และ "อรัญญา นามวงศ์" ก็ดังตามด้วย จนกระทั่งได้รับบทนำในละครเรื่อง เสด็จองค์ชายเล็กพระองค์อนุสรณ์ จนเริ่มเข้าตาและมีผลงานทางละครโทรทัศน์ตามมาเป็นระยะ ก่อนที่ สุรพล โทณวณิก ผู้กำกับชั้นนำจะพอใจในบทบาทจึงจับตัวแสดงเป็นนางเอกเต็มตัวคู่กับ กรุง ศรีวิไล ในเรื่อง อีหนู ซึ่งถือเป็นผลงานแจ้งเกิดจากได้สมญาในเรื่องคืออีหนูซู่ซ่า เพราะถือว่าเป็นการปฏิวัตินางเอกในยุคนั้น จากเดิมที่เรียบร้อย อ่อนหวาน มาเป็นสาวใจถึงที่กล้าเล่นบทวับๆ แวมๆ เป็นคนแรกของวงการละคร

แม้จะมีเริ่มมีชื่อเสียงและผลงานผ่านตาพอสมควร แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการผระสบความสำเร็จ เธอบอกว่าช่วงนั้นเธอเบื่อหน่ายวงการบันเทิง ทั้งโดนผู้สร้างหลอกลวง แต่เนื่องจากมีครอบครัวคอยหนุนหลัง คุณพ่อจึงลงขันสร้างหนังให้ลูกสาวเล่นด้วยตัวเอง ในภาพยนตร์แนวบู๊เรื่อง ศศิมา บ้าเลือด ในนามของศศิมาภาพยนตร์ ตามมาด้วย ศศิมาตัวแสบ, ศศิมาจอมวุ่น และ หวานละว่ะ เจาะกลุ่มหนังบู๊ภูธรจนโด่งดังมากในต่างจังหวัด

แต่แล้วต่อมาในปี 2524 ผลงานของศศิมาก็ประสบความสำเร็จน้อยลงเรื่อยๆ จนเกิดสภาวะการขาดทุนอย่างหนัก จุดนี้เองที่ทำให้คุณพ่อของเธอล้มป่วยอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่มีผลงาน ก็ทำให้ชื่อของ ศศิมา สิงห์ศิริ ค่อยๆ เงียบหายไปจากวงการนานถึง 25 ปี

แม้จะเปลี่ยนอาชีพไปลงทุนทำธุรกิจอะไรหลายๆ อย่าง แต่ขาดหัวเรือใหญ่อย่าง พ.อ.ชูศักดิ์ ไปหนึ่งคน ธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเม็ดเงินงอกงามตามมา ชื่อของ ศศิมา สิงห์ศิริ ก็ค่อยๆ หายไปจากวงการ

และเมื่อกระแสลมหวนของนางเอกเลินล้าน เพชรา เชาวราษฎร์ ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง เธอจึงยังหวังว่า แฟนๆ ของอีหนูซู่ซ่า คงจะยังไม่ลืมเธอคนนี้...