เมื่อแม่ท้องเป็นเชื้อราในช่องคลอด ปัญหานี้จัดการได้ !

เมื่อแม่ท้องเป็นเชื้อราในช่องคลอด ปัญหานี้จัดการได้ !

เมื่อแม่ท้องเป็นเชื้อราในช่องคลอด ปัญหานี้จัดการได้ !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการคนท้องมีด้วยกันหลากหลาย หนึ่งในนั้นเชื้อราในช่องคลอดก็เป็นอาการคนท้องที่พบได้บ่อยเช่นกัน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกาย วันนี้เราจะพาคุณแม่มาทำความรู้จักอาการเชื้อราในช่องคลอดรวมถึงวิธีรักษาอย่างเหมาะสม

เชื้อราในช่องคลอดกับคุณแม่ตั้งครรภ์

1.ผู้หญิงเราเมื่อตั้งครรภ์ นอกจากอาการคนท้องต่างๆ ที่ปรากฎออกมาอย่างชัดเจนแล้ว การเกิดเชื้อราในช่องคลอดก็มักจะพบมากที่สุดในตอนตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน เพราะฮอร์โมนในร่างกายผลิตออกมามาก โดยมีผลกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของค่าความเป็นกรดด่างภายในช่องคลอดขึ้นนั่นเอง จนทำให้เกิดเชื้อราและยังมีส่วนกระตุ้นให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลทำให้มีระดูขาวออกมามากขึ้น และมีอาการอักเสบบริเวณปากช่องคลอดตามมาได้ด้วย

2.แม้คุณแม่จะไม่ได้รักษาเชื้อราในช่องคลอดให้หายก็ตาม แต่เชื้อราในช่องคลอดจะไม่สามารถไหลผ่านไปสู่ทารกในครรภ์แต่อย่างใดแน่นอน แต่การที่ไม่ได้ทำการรักษาให้หายขาด กรณีที่ลูกคลอดออกมาผ่านทางช่องคลอดก็อาจจะทำให้ทารกมีโอกาสติดเชื้อราที่ลิ้น ในปากและก้นตามมาได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของทารกที่จะคลอดออกมา คุณแม่จึงควรรีบทำการรักษาเชื้อราในช่องคลอดให้หายขาดก่อนถึงกำหนดวันคลอดจะดีที่สุด

การรักษา

1.สำหรับการรักษาเชื้อราในช่องคลอดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น แพทย์จะให้ยาทาหรือยาสอด แต่โดยส่วนมากจะไม่ให้ยา เพราะเกรงจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์นั่นเอง

2.หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการคนท้องเกิดขึ้น โดยมีอาการคันขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศหรือพบว่ามีระดูขาวไหลออกมามากผิดปกติ ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ จะได้ตรวจและทำการรักษาต่อไป โดยอาการนี้มักจะไม่ได้เกิดในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ดังนั้น คุณแม่จึงควรเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติอยู่เป็นระยะๆ จะดีที่สุด

อาการเชื้อราในช่องคลอดที่แม้ท้องสังเกตได้

สำหรับอาการเชื้อราในช่องคลอดของคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นก็จะเหมือนอาการในหญิงสาวทั่วไป โดยมีอาการคันเกิดขึ้นบริเวณปากช่องคลอดหรือพบว่ามีระดูขาวออกมามากผิดปกติ ซึ่งระดูขาวนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับแหวะนมของเด็ก เป็นเม็ดขาวๆ หากมีออกมาปริมาณมากๆ ก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการคันขึ้นที่บริเวณปากช่องคลอด และหากเกามากก็อาจทำให้เกิดการอักเสบตามมาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีอาการลักษณะดังกล่าว แนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเป็นบ่อยๆ หรือเป็นซ้ำมากกว่าปีละ 4 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นอาการเชื้อราในช่องคลอดแบบเรื้อรังนั่นเอง ซึ่งแพทย์จะต้องให้การรักษาระยะยาวด้วยยานานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว และอาการเรื้อรังนี้ก็ยังซุกซ่อนไปด้วยโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น โรคเบาหวาน เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดบ่อยๆ อย่างเด็ดขาด เมื่อเป็นแล้วก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษาให้หายขาดโดยเร็ว และหมั่นใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นอย่างดีอยู่เสมอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook