แรมโบ้ สไตล์ : บู๊ได้ใจของรีฮานนา

แรมโบ้ สไตล์ : บู๊ได้ใจของรีฮานนา

แรมโบ้ สไตล์ : บู๊ได้ใจของรีฮานนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เรื่องโดย Localita

เหตุผลที่คนจับจ้องเวทีแฟชั่นวีค แน่นอนว่าเพื่อการสำรวจเทรนด์ เช็คกระแสเก่าไป-ใหม่มา ก่อนที่เสื้อผ้าบนตัวนางแบบจะไปปรากฏจริงในช็อปของแต่ละแบรนด์แล้วนั้น อิทธิพลของ "คนดัง" ทั้งในบทบาทของพรีเซนเตอร์เสื้อผ้า หรือการสวมใส่เพื่อให้เกิด ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ขึ้นมา ก็ล้วนแต่เป็นตัวชี้วัดเทรนด์ใหม่ที่จะระัเบิดในอนาคตอันใกล้ที่เห็นผลที่สุด

และพ.ศ.นี้ ริฮานนา ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้หญิงทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่งในวงการแฟชั่นไปเสียแล้ว นอกเหนือจากการขายเสียง (เพลง) รีฮานนากำลังฉีกกรอบการเดินตามโจทย์แฟชั่นนักร้องหญิงแบบเดิมๆ เมื่อความ "เซ็กซี่อย่างพร่ำเพรื่อ" ไม่ใช่คำตอบของคนเสพผลงานเพลงอีกต่อไป แต่ต้องเป็นผู้นำแฟชั่นได้ดี และ "ได้ผล" ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวที่จะกล้าออกจากกรอบ และนั่นคือคำตอบว่าทำไมเธอจึงฮอตเหลือเกินตลอดเวลาที่อยู่หน้ากล้อง

หากจะว่ากันตามตรง เธอไม่ใช่นักร้องหญิงผิวสีคนแรกที่แหกกฏแฟชั่น หากรุ่นคุณแม่คุณน้ายังจำได้ดี เกรซ โจนส์ นักร้องสาวผิวเข้มข้นอีกคนของวงการเพลง นั่นแหละคือแม่แบบแห่งการจุดประกายแฟชั่นแนวโมเดิร์นมาตั้งแต่ยุค 80s

กลับมาที่วันนี้ของรีฮานนา นอกเหนือจากเบลเซอร์ไหล่ตั้งสูงที่เธอทำให้สาวๆ ทั้งโลกลุกขึ้นมาสวมใส่ ตอนนี้เธอกำลังจะทำเรื่องฮือฮาในฐานะแฟชั่นไอคอนครั้งใหม่ คราวนี้เธอจะมาในชุดนักรบประจันบาน ย้อนตำนาน "แรมโบ้" วีรบุรุษนักบู๊ยุค 80s ที่จะปรากฏให้เห็นเต็มตาในมิวสิควิดีโอตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Hard

เดรสสั้นสีดำดูเซ็กซี่ที่มีชื่อเล่นอย่างไม่เป็นทางการว่าแรมโบ้ตัวนี้ เป็นผลงานดีไซน์ของ ไบรซ์ เดนิส ไอเม ดีไซเนอร์ยังบลัดชาวฝรั่งเศสอีกคนที่เปิดตัวชุดเดรสแนวแปลกนี้ในคอลเลคชั่นของตัวเองที่ ลอนดอน แฟชั่น วีค สปริง/ซัมเมอร์ 2010 ที่เพิ่งผ่านไป ตัวงานดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจากโครงสร้างของตัวทีเร็กซ์ เขานำผิวหนังแหลมคมดั่งอาวุธนั้นมาเป็นรายละเอียดอยู่บนช่วงไหล่ให้โดดเด่นเห็นแต่ไกล ซึ่งพอดีว่าสาวคนดังเห็นเข้าก็ปิ๊งทันที และดูเธอจะชอบใจกับชุดนี้เป็นพิเศษ จนถึงกับเีรียกว่าเป็นชุดนักรบแห่งแฟชั่นชั้นสูง ด้วยทิศทางที่สอดรับการกระแสเสื้อผ้าแนวอะวองต์-การ์ด ที่น่าจะกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงในปีหน้า

ก็บอกแล้วว่า แฟชั่นนิสต้าตัวแม่อย่างรีฮานนา อยู่นิ่งกับที่เป็นซะที่ไหน


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก telegraph.co.uk

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook