วิธีเลือกดื่มชา พร้อมเคล็ดลับการชงชาให้อร่อยถูกใจ

ชา มีให้เลือกดื่มด้วยกันหลายชนิด สำหรับใครที่ชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจหรือหากใครที่ยังไม่เคยดื่ม แต่อยากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกดื่มชาบ้าง พร้อมเคล็ดลับการชงชาให้อร่อยต้องทำอย่างไร ตามไปดูกันเลยดีกว่า

1.ชาดำ

เป็นชาที่ได้รับความนิยมในการดื่มมากที่สุด โดยผลิตขึ้นจากใบชาที่ถูกเก็บและผ่านการหมักบ่มเอาไว้ก่อนที่จะนำไปตากแห้ง ซึ่งชาดำนั้นมีทั้งที่มาจากจีน อินเดีย ศรีลังกาและแอฟริกา ส่วนใหญ่ก็มักจะถูกนำไปผสมใหม่เพื่อให้มีกลิ่น รสชาติและระดับความเข้มข้นที่แตกต่าง เช่น

ดาร์จีลิ่ง มีรสชาติที่อ่อนเบา สดชื่น ผสมผสานรสเปรี้ยวฝาดเล็กน้อย

อัสสัม กลิ่นและรสชาติมีความเข้มข้น เป็นชาที่เหมาะสำหรับดื่มยามเช้ามากที่สุด

ซีลอน ให้กลิ่นและรสชาติที่ดื่มแล้วสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันสดใส

เอิร์ลเกรย์ ชาดำที่ผสมด้วยน้ำมันเบอร์การม็อตเล็กน้อย เพื่อปรุงแต่งรสให้อมเปรี้ยวและสดชื่นยิ่งขึ้น

2.ชาอูหลง

ชาที่ผ่านการบ่มน้อยกว่าชาดำ ให้รสชาติที่สุขุม ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากประเทศจีนและไต้หวัน ในบางครั้งจะมีการอบด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบหรือดอกมะลิ อย่างไรก็ดี ชาอูหลงจะให้คาเฟอีนน้อยกว่าชาดำ แต่มีมากกว่าชาเขียวแค่เพียงเล็กน้อย

3.ชาเขียว

นับเป็นชาเก่าแก่มากที่สุดในกระบวนชาทั้งหมด โดยมีการบันทึกเกี่ยวกับการผลิตที่ย้อนหลังไปอย่างน้อย 5,000 ปี ชาเขียวเป็นชาที่ไม่มีการหมักบ่ม จึงทำให้ได้รสชาติที่อ่อนจางกว่าเครื่องดื่มชาชนิดอื่น

4.ชาขาว

อีกหนึ่งชาที่นับว่าผ่านกระบวนการน้อยที่สุดในบรรดากระบวนชาต่างๆ โดยทำมาจากยอดอ่อนใบชาซึ่งเก็บก่อนพระอาทิตย์ขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นและรสชาติของชาขาวจะบางเบาอย่างมากจนเกือบจะผสานไปด้วยรสหวานเล็กน้อย อีกทั้งยังมีคาเฟอีนน้อยที่สุดอีกด้วยเมื่อเทียบกับกระบวนชาต่างๆ

5.ชาสมุนไพร

หลายคนมักเรียกกันว่า "ชา" แต่แท้จริงแล้วกลับไม่มีส่วนผสมของใบชาแต่อย่างใดเลย หากแต่เป็นส่วนผสมจำพวกสมุนไพรดอกไม้หรือใบไม้แห้งหลากหลายชนิด จึงทำให้ชาดังกล่าวมีสรรพคุณในการบำรุงและช่วยเยียวยาปัญหาสุขภาพ เช่น ทำให้นอนหลับสบาย อันเนื่องจากเป็นชาที่ไม่มีคาเฟอีนนั่นเอง

เคล็ดลับชงชายังไงให้อร่อย

- ให้เทน้ำร้อนใส่ในกาชาเล็กน้อย เพื่อให้อุ่นก่อนที่จะใส่ชาตามลงไป

- การชงชาดำ ให้ใช้น้ำที่เดือดปุดๆ เทใส่ลงไปบนใบชาทันที คนสักเล็กน้อยแล้วปล่อยเอาไว้ประมาณ 5 นาที

- การชงชาเขียว ปล่อยน้ำที่เดือดพล่านอยู่ให้เย็นลงสักครู่ไปก่อนที่จะเทลงบนใบชา สำหรับชาเขียวญี่ปุ่นนั้นควรปล่อยทิ้งไว้โดยใช้เวลา 1-2 นาที ส่วนชาเขียวจากจีนอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 นาที

- การชงชาขาว สำหรับชาขาวนั้นไม่แนะนำให้ใช้นำเดือดในการชงเช่นกัน และควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3-10 นาที ขึ้นอยู่ที่ประเภทของชา อีกทั้งยังสามารถชงใบขาขาวที่มีราคาแพงซ้ำได้อีก 2-3 ครั้ง เพียงแค่แช่ใบชาทิ้งไว้แต่ละครั้งให้นานขึ้นกว่าเดิม

- การชงชาดำ เป็นชาที่เหมาะสำหรับเติมนมมากกว่าชาชนิดอื่นๆ เนื่องจากนมจะทำให้รสชาติของชาดำมีความละมุนยิ่งขึ้น บางคนนิยมเติมนมลงไปก่อนที่จะรินชาหรือบางคนก็เติมทีหลัง แต่การเติมนมเข้าไปทีหลังนั้นจะทำให้ได้ปริมาณของนมที่เหมาะสมกับความเข้มข้นของชามากกว่า อย่างไรก็ตาม การเติมนมอาจทำลายรสชาติของชาเขียวและชาขาวที่มีรสอ่อนอยู่ให้ยิ่งอ่อนลงกว่าเดิมได้

รู้กันแล้วนะคะว่าชามีชาแบบไหนบ้าง แต่ละประเภทรสชาติอย่างไร พร้อมทั้งวิธีชงชาให้อร่อย ใครที่อยากลองชงชาดื่มเอง ต้องทำตามคำแนะนำนี้กันซะแล้ว