พี่ฉอด สายทิพย์ เจ้าแม่วงการวิทยุ กับความเหมือนเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลง

#ป้าซุ่มทุ่มไม่อั้น กลายเป็นแฮชแท็กมาแรงบนโลกโซเชี่ยลในขณะนี้ เมื่อมีคนไปตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ว่า "อยากให้พี่ฉอดเชิญหยาดทิพย์มาออก ClubFriday จังค่า" จนมีคนมาคอมเม้นมากมายถึงความสัมพันธ์ของ "พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" กับ "เอส วรฤทธิ์" น้องชายคนสนิท เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปได้ตามสะดวกค่ะ

หลายคนยังไม่รู้ว่า พี่ฉอด วัย 60 ปี เป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง แค่ไหน วันนี้ตามมาดูประวัติของเธอกันค่ะ

พี่ฉอด ประสบความสำเร็จในการทำงานมากมาย เมื่อเรียนปีที่ 4 ได้ฝึกงานจัดรายการวิทยุที่จังหวัดขอนแก่น โดยจัดรายการเพลงลูกทุ่ง และเริ่มงานด้านหนังสือตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ โดยการเป็นนักเขียนนวนิยายในนิตยสารแพรวในชื่อนามปากกา "สายทิพย์"

หลังเรียนจบเริ่มต้นอาชีพเป็นนักเขียนคำโฆษณา ทำให้ได้ร่วมงานกับไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม , บุษบา ดาวเรือง, สันติสุข จงมั่นคง เมื่อทั้งสามได้แยกไปเปิดบริษัท แกรมมี่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อย่างเต็มตัว พี่ฉอดจึงได้ย้ายตามไปทำงานที่แกรมมี่ ในตำแหน่งโปรดักส์ชั่นเฮ้าส์ ทำงานเบื้องหลังรายการทีวี

จากนั้นได้ลาออกจากงานและผันตัวไปเป็นนักจัดรายการวิทยุ โดยรายการวิทยุที่ได้จัดเป็นรายการแรกในชื่อดีเจพี่ฉอดคือรายการ เดย์ ไทม์ เป็นรายการเพลงสากล ทำให้เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมากขึ้น โดยรายการที่ทำให้เป็นที่รู้จักคือรายการ ผิวปากตามเพลง และ ร่มไม้รายทาง หลังจากนั้นจึงตัดสินใจลาออกจากงาน

ปี พ.ศ. 2532 กลับไปทำงานที่แกรมมี่อีกครั้ง เริ่มแรกได้ผลิตรายการวิทยุ 2 คลื่นความถี่คือ กรีนเวฟ และ ฮอตเวฟ หลังจากนั้นได้มีการขยายงานเพิ่มมากขึ้นได้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นตามลำดับ โดยเป็นผู้บริหารควบคู่ไปกับการจัดรายการวิทยุ ด้านการบริการปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (มหาชน)

พี่ฉอด จัดรายการวิทยุ จัดรายการ คลับ ฟรายเดย์ และ คืนพิเศษคนพิเศษ ทางสถานีวิทยุกรีนเวฟ และ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมกรีน แชนแนล เป็นที่ปรึกษาเรื่องความรัก มีคำคม หรือวลีเด็ดๆ ออกมา และมีทางออกเรื่องความรักเพื่อเป็นคำตอบที่สวยงามให้แก่คนดูและคนฟังอย่างเสมอ จนทำให้มีคนติดตามฟัง และดูรายการที่ "พี่อ้อย พี่ฉอด" จัดอยู่ตลอด โกยเรตติ้งมากมาย

ด้านการทำงานไม่ต้องพูดเยอะ เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าความสามารถมากขนาดไหน "พี่ฉอด สายทิพย์" อยู่ในวงการวิทยุมามากกว่า 30 ปี แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือ ทรงผม และหน้าตาอันอ่อนโยนที่เป็นเอกลักษณ์ พี่ฉอดจะเหมือนเดิมแค่ไหน ตามมาดูค่ะ