จากสาวหุ่นหมีสู่เวทีนางงามของ “เบลล์-เลลาณี” ลูกสาวแก้ว อภิรดี

ขึ้นชื่อว่า “ลูกดารา” หลายคนคงคิดว่ามันง่าย ต้นทุนชีวิตคงดีกว่าอื่น อยากเข้าวงการเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องพยายามมาก ยังไงก็เป็นที่สนใจ แต่ความเชื่อนี้ อาจจะใช้ไม่ได้กับลูกสาวสุดสวยของ “แก้ว อภิรดี” ที่ใช้ความพยายามเอาชนะใจตัวเอง ด้วยการลดน้ำหนักเกือบ 20 กิโล ภายในเวลาไม่กี่เดือน เพื่อเข้าสู่การประกวดนางงามระดับประเทศอย่าง Miss Grand Thailand 2017

“เลลาณี ทศพร” หรือ “เบลล์” วัย 23 ปี เริ่มต้นเส้นทางในวงการด้วยการคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์สระบุรี ปี 2017 แต่นั่นเป็นเพียงด่านแรกของเวทีสรรหา “นางงามพร้อมใช้” เพราะหลังจากนั้น เธอกลับต้องพยายามอย่างหนักอีกเท่าทวีคูณ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่เวทีใหญ่ ให้ตัวเองเพอร์เฟกต์ในทุกมุมมองที่ไม่ใช่แค่ “ความสวย”

วันนี้เธอมาเยือนถิ่น Sanook! ทั้งที S! Women เลยไม่พลาดที่จะคว้าตัวเธอมาสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งเรื่องการประกวด เคล็ดลับการลดน้ำหนักที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน และเรื่องสุดดราม่าตอนลดน้ำหนัก

จุดเริ่มต้นของการประกวด

เบลล์มาประกวดเวทีมิสแกรนด์ได้ เพราะช่วงที่เบลล์กำลังจะเรียนจบ คุณแม่ชักชวนให้ลองประกวดดู แต่เหมือนเป็นการหลอกล่อให้ลดน้ำหนักมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ เบลล์เป็นหมีมาเป็นเวลา 2 ปี คุณแม่อยากได้ลูกสาวคืน คุณแม่ไม่อยากเห็นลูกเป็นหมีแล้ว เบลล์ค่อยๆ อวบขึ้นตั้งแต่ปี1 ซึ่งมาพีคสุดตอนปี3 ตอนนั้นเบลล์ไปฝึกงานครัวที่โรงแรมที่ในฝรั่งเศส ทำไปก็ชิมไป น้ำหนักก็ขึ้นไปตามที่ชิมไปนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)

อ้วนจนเสียเซลฟ์ เพราะคนรอบข้างจำไม่ได้

“ภาพลักษณ์ของเบลล์ที่โตมา 20 ปี เบลล์เป็นผู้หญิงที่ผอมมาก ทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่เพราะความชะล่าใจ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกระทั่งตัวเองน้ำหนัก 70! เป็นช่วงที่อ้วนจนคนจำรอบข้างจำไม่ได้ ตอนกลับจากฝรั่งเศสคุณแม่ก็จำแทบไม่ได้ อย่างเวลาเจอคนรู้จัก บางครั้งก็เดินสวนเบลล์ไปเลย เพราะจำเบลล์ไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นเริ่มรู้สึกน้อยใจ และรู้สึกว่าเราต้องกลับไปผอมแล้ว บวกกับความอ้วนมันเป็นอุปสรรคต่อการแต่งตัวมาก  เบลล์เชื่อว่าต่อให้หน้าตาไม่สวย แต่หุ่นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง นั่นเลยเป็นแรงบันดาลใจที่เริ่มลดน้ำหนักค่ะ”

 รับตัวเองไม่ได้ จึงลดความอ้วนจริงจัง!

“ช่วงมิถุนายนปีที่แล้ว เบลล์น้ำหนักเข้าใกล้เลข 7 มันเกินกว่าที่ตัวเบลล์เองจะรับได้แล้ว เลยลดน้ำหนักภายในเวลา 3-4 เดือน น้ำหนักลงมาประมาณ 11 กิโล จากน้ำหนัก 69 ลงมาเหลือ 57.5 โดยยึดหลักคุมอาหารประมาณ 80% ออกกำลังกาย 20% ซึ่งตอนนั้นเบลล์มีวินัยในการทานอาหารและการออกกำลังกายหนักมากนะคะ ย้ำว่าออกกำลังกายหนักมาก!”

ตบะแตกจนกระทั่งเข้าประกวด

“ช่วงปลายปีที่แล้วยอมรับเลยว่าตบะแตกค่ะ กลับมาอ้วนเหมือนเดิม จากน้ำหนัก 57 ขึ้นไปเกือบ 65 เลย  เพราะว่าเริ่มไม่มีวินัย แต่พอรู้ว่าต้องเข้าประกวด เบลล์ก็เริ่มดูแลตัวเองอย่างหนัก ใช้เวลา 1 เดือนกับ 2 อาทิตย์ในการลดน้ำหนัก จาก 64.5 ให้เหลือ 54 ถือว่าใช้เวลาน้อยกว่ารอบที่แล้ว

เบลล์เริ่มจากตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน ช่วงแรกตื่นมาวิ่งเป็นเวลา 45 นาที แต่หลังจากอาทิตย์แรก เบลล์ต้องการลีนไขมันออกจากร่างกาย เลยเปลี่ยนมาใช้วิธีเดินค่ะ โดยเดินสูง เป็นเวลา 45 นาทีตอนเช้า"

สูตรการทานอาหาร

“จริงๆ เบลล์เหมือนทานข้าวแค่ 1 จานต่อวัน แต่จานเดียวของเบลล์แบ่งออกเป็น 3 มื้อ มื้อเช้าจะหนักที่สุด มื้อกลางวันรองลงมา และมื้อเย็นจะไม่มีแป้งเลย แต่ถ้ามื้อเย็นหิวมากๆ ก็จะทานผลไม้แทน แล้วก็แอบใช้ตัวช่วยอย่างการดื่มน้ำดีทอกซ์บ้าง”

เรื่องดรามาก่อนเข้าประกวด

“ปกติเบลล์ชอบจังก์ฟู้ด ชอบทานช็อกโกแลต ไม่งั้นไม่เป็นหมีมา 2 ปีค่ะ ช่วงก่อนขึ้นเวทีใหญ่ มีจุดที่เบลล์ยอมเคี้ยวของที่ชอบเข้าไป เพื่อให้ได้รสชาติแล้วก็คายออกมา แต่ว่าไม่ได้ล้วงคอ เคยเป็นถึงขนาดน้ำตาไหลเลยนะว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้ยังไง แต่เพราะการเข้ามาประกวดตรงนี้ เหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้เบลล์ไม่ยอมแพ้”

น้ำหนัก 51 เอว 22 ยังต้องไดเอท

“เบลล์อยากบอกว่าที่นางงามผอมขนาดนี้ไม่ใช่ว่านอนไม่เป็นเวลาหรือทานข้าวไม่เป็นเวลานะคะ เพราะว่าในแต่ละวันต้องทำภารกิจและเต้นหนักมาก เวลาทานข้าวก็น้อย สำหรับเบลล์จะเลือกทานแต่อะไรที่ไม่ทำให้เราเวียนหัวและไม่อ้วนขึ้น หลังหกโมงเย็นไป เบลล์จะไม่ทานอะไรที่มันเป็นแป้ง”

 

ฝากถึงคนอยากออกกำลังกาย แต่ไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ออกกำลังกาย

“ทุกคนมีโซเชียลมีเดียอยู่ในมือ เราสามารถหาวิธีออกกำลังกายง่ายๆ ได้สบาย เบลล์จะแนะนำคนใกล้ตัวเสมอนะคะ อย่ามีข้ออ้างว่าเราทำงานเหนื่อย เพราะทุกคนเหนื่อยเหมือนกันหมด ทุกคนตื่นเช้า ทุกคนกลับบ้านดึก ทุกคนมีงานเครียดปวดหัว แต่การออกกำลังกายใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

อย่างตอนเริ่มต้นลดความอ้วนใหม่ๆ เบลล์ก็ขี้เกียจ ข้ออ้างในหัวเยอะมาก เลยเริ่มจากวันละครึ่งชั่วโมง บวกกับความเหงาอยู่บ้านคนเดียว ก็จะชวนเพื่อนไปตีแบด ชวนเพื่อนไปว่ายน้ำ ชวนเพื่อนไปทำกิจกรรมต่างๆ พอเราสนุกไปกับมัน ก็ถือเป็นช่วยที่ดีมากนะคะ

ส่วนใครที่ไม่อยากไปฟิตเนส ไม่อยากเสียเงิน อยู่บ้านเราก็ทำได้ แค่ลองต้องตั้งเป้า และที่สำคัญต้องหาแรงบันดาลใจไว้ ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ตัวเองหยุดออกกำลังกาย แล้วคุณจะประสบความสำเร็จค่ะ

เบลล์รู้ว่ามันไม่ง่าย ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ หรือว่าไม่มีแรงกดดันบางอย่าง เพราะเราก็จะมองว่าช่างมันเถอะ! เราจะหาเหตุผลให้ตัวเองตลอด  เพื่อให้เราไม่ต้องออกกำลังกาย เพื่อให้เราทานอะไรก็ได้ที่ตามใจเรา และหุ่นเราก็จะเป็นไปตามนั้น  แล้วถ้าเราไม่มีวินัย ไม่รู้จักอดทน เราก็จะไม่มีวันทำเป้าหมายเราให้สำเร็จได้ สำหรับเบลล์เอง อาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่หุ่นดีที่สุด แต่คิดว่าเรื่องของเบลล์น่าจะมีประโยชน์กับหลายๆ คนนะคะ”

อย่างไรก็ตาม แม้คำว่า “ลูกแก้วอภิรดี” จะเป็นที่จดจำมากกว่า “เบลล์ เลลาณี” แต่เราเชื่อเหลือเกินว่าเธอมาอยู่จุดนี้ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความพยายามและความสามารถ Sanook! Women ขอชื่นชนที่เธอยอมลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อตัวเอง เพื่อสิ่งที่เธอรัก และเพื่อคนรอบข้างภูมิใจ และเราหวังว่าบทสัมภาษณ์นี้ จะเติมแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถทำเป้าหมายให้สำเร็จได้เช่นกัน เหมือนกับเธอคนนี้นะคะ

ติดตามผลงานและเคล็ดลับการดูแลตัวเองในสไตล์เบลล์เพิ่มเติมได้ที่ @bellelani