ชีวิตคนเรามันสั้น เกินกว่าที่ใครจะได้ยิน
ติ๊ด...ติ๊ด...
ที : "ฮัลโหล เออว่าไงมึง ?"
วัน : "มึง มินตายแล้วนะ"
ที : "บ้าป่ะมึง อำกูเปล่า"
วัน : "เรื่องแบบนี้เค้าอำกันรึมึง ไม่เชื่อก็ลองไปดูใน hi5 มันดู"
ตู๊ด ๆ ๆ
ภาวะหยุดนิ่งเสมือนทุกอย่างไร้น้ำหนัก ทีละจากมือถือเพื่อค้นหาคำตอบบางอย่างที่รับรู้ว่า จริง หรือไม่ ?
สิ่งที่สัมผัสได้คงหนีไม่พ้น ความเร่งรีบ และร้อนรุ้มถึงสิ่งที่อยู่ในห้วงแห่งความคิดต่าง ๆ นานา
ภาพข้อความ และประโยคเชิญชวนให้ยิ่งคิดว่า "เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าของพื้นที่แห่งนี้"
"มิน" เสียชีวิตลงเมื่อวาน หลังจากได้อ่านข้อความ "ไว้อาลัย" และคำบอกเล่าจากเพื่อนสนิทชิดเชื้อที่ย้ำถึงความเป็นไป
และพาลทำเอาสติที่มีอยู่ครบถ้วน กลับเบาบาง พร้อมความคิดที่ยังวนเวียนว่าคำตอบที่ได้ "ไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย"
และทุกอย่างยิ่งกระจ่างเมื่อทีได้อ่านข้อความเกี่ยวกับการตายของ "มิน" น้ำตาคลอ อยากร้องไห้ แต่กลับไม่ไหลออกมาด้วยเพราะทีเก็บมันเอาไว้ หรือกำลังล้มทั้งยืนไม่มีสติรับรู้ หรือไม่มีความรู้สึกต่อสิ่งใด และไม่อยากเชื่อว่า "เพื่อนคนดีจะจากหายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับเช่นนี้"
เพราะตลอดระยะเวลาที่ได้ติดต่อกัน แม้จะนาน ๆ ครั้ง ไม่เคยมีวี่แววในสิ่งที่เพื่อนจะเลือกทำ ทีได้แต่ถามไถ่ ว่ากล่าวตามประสาเพื่อนคนหนึ่งที่ห่างหายจากการติดต่อไปนาน ด้วยเพราะต่างคนต่างมีวิถีชีวิต แต่ทีเชื่อมั่นตลอดว่า แม้ไม่ได้พบเจอ หรือจากกันมานานนับปี แต่เมื่อโอกาสมาให้ได้พบ กลับมีเรื่องให้พูดคุย ถามไถ่ไม่รู้จบ เพราะ "มิตรภาพยังคงอยู่เสมอ"
วันนี้ทีสูญเสีย "มิน" เพื่อน สมัยมัธยม เพื่อนรุ่นพี่ที่เฮฮาเสมอ เล่นบาสร่วมกันมา อาจจะต่างวัยสักหน่อย แต่กลับสนิทกันจนรู้ไส้รู้พุง มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด
หากย้อนไปเมื่อสมัยมัธยม ทีรู้จักกับ "มิน" จากวัน เพื่อนของมิน โดยการเล่นบาสกีฬาสี และนั่นคือการเริ่มต้นสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อน
"มิน" หญิงสาวห้าว แต่มักเก็บความรู้สึกเสมอ
"มิน" หญิงสาวพูดจาโผงผาง ไม่ยอมคน
"มิน" บ้า โดม ปกรณ์ ลัม เป็นที่ 1 ถึงขนาดมีอยู่ครั้งหนึ่งไปเฝ้าโดมถึงหน้าบ้าน เพื่อจะมอบของขวัญให้คนที่ชื่นชอบ
"มิน" บ้านอยู่ในสวน ไปส่งมันถึงที่บ้านทีไร กลัวเป็นที่สุด (แต่ก็ไปส่งทุกที)
" มิน" หญิงสาวขี้ลืม ถึงขนาดลืมเอกสารเตรียมเข้าห้องสอบ เพื่อเอนทรานซ์ จนต้องโทรปลุกใครคนนี้ให้ช่วยฝากส่งทางรถตู้เข้าตัวเมือง (ไม่งั้นมันไม่ได้สอบแน่นอน)
วีรกรรมของ "มิน" อย่าให้พูดถึง เรื่องน้ำใจ ความช่วยเหลือทีไม่เคยผิดหวังจากเพื่อนคนนี้เลย แม้มันจะบ้า ๆ บอ ๆ ตามประสา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อน ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือหากต้องการ ยิ่งนึกถึงสมัยก่อน แปลกนะคนเรามักจะรู้ถึงเสียงของใครคนหนึ่งเมื่อเค้าจากไปอย่างไม่มีวันหวน กลับ และยิ่งน่าแปลกเรามักจะฟูมฟายตอนที่เค้าไร้ลมหายใจ
เหตุเพราะ คนบางคนอาจ "คาดหวัง และไม่คิดว่าชีวิตคนเราจะสั้นเพียงนี้" นั่น สิ ทำไมถึงไม่คิด ทั้ง ๆ ที่เวลาทุกวินาทีมันเดินตามวิถี มนุษย์ก็เช่นกันที่ต้องเดินตามวิถีของชีวิต มีขึ้นมีลง มีสุขมีทุกข์ มีพบและต้องมีจาก แต่การจากลาแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้เสียศูนย์ชนิดปรับเปลี่ยน หรือทำใจได้ยาก หากภูมิต้านทานความรู้สึกไม่แข็งแรงพอ และปลงไม่ได้
"มิน"...... จากทีไปแล้ว จากไปอยู่บ้านแห่งความว่างเปล่า บ้านที่เบาบางโปร่งใส มีภาพแห่งความทรงจำที่มินเท่านั้นที่รับรู้ว่าเป็นภาพแบบใด ทีรุ้ว่าเวลาย้อนไปไม่ได้ แต่ทีเชื่อว่า "มินยังคงอยู่กับทีไปทุกที และยังคงมองทีอยู่เสมอ" ทีเชื่อแบบนั้น และแม้ว่าวันหนึ่งอาจต้องสูญเสียใครบางคนโดยไม่ทันตั้งตัว แต่สิ่งเดียวที่ทีต้องทำ คือ การทำทุกวัน และเห็นความสำคัญของคนที่อยู่เคียงข้างเสมอ พร้อมฟังเสียงหัวใจของเธอเมื่อมีโอกาส
"เพราะชีวิตคนเรามันสั้น เกินกว่าที่ใครจะได้ยิน"
ขอไว้อาลัยแด่ มิน มินตรา ชาญศิลป์ ขอให้ไปสู่สุคติ อยู่ในภพที่ไม่ต้องห่วง และยิ้มรับต่อความทรงจำที่ยังตราตรึงในใจเพื่อนคนนี้
อาลัยยิ่ง....
เพื่อนคนหนึ่ง