เพลง ชนม์ทิดา ยกให้ ตู่ นันทิดาเป็น “คุณแม่ All in One”

 

สาวๆ คิดว่า “คนเป็นแม่” เป็นอะไรได้บ้างสำหรับคุณ? เป็นคนคอยดูแลเราตั้งแต่เล็กจนโต เป็นแม่ครัวที่ทำอาหารถูกปากเราที่สุดในโลก เป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาเราได้เสมอ ฯลฯ แต่สำหรับ “เพลง ชนม์ทิดา” เธอเรียก “ตู่ นันทิดา” แม่ของเธอว่า “คุณแม่ All in One”

วันแม่แบบนี้ Sanook! Women มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษของ “เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม” หรือลูกสาวสุดสวยของ “คุณแม่ตู่ นันทิดา” ซึ่งตอนแรกก็ต้องยอมรับว่าอยากพูดคุยอัปเดตชีวิตและผลงานของเธอเท่านั้น แต่บทสนทนาครั้งนี้ดันไปเกี่ยวกับคุณแม่ด้วยเกือบจะทุกส่วนเลย แน่นอนว่าพูดมาขนาดนี้ เราเลยขอมาเล่าสู่กันฟังสักหน่อยว่าชีวิตของ “เพลง ชนม์ทิดา” เป็นอย่างไรบ้าง และความสัมพันธ์ของเธอและคุณแม่จะน่ารักขนาดไหน

อัปเดตชีวิต “เพลง"

ตอนนี้เพลงก็เพิ่งเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ และก็เริ่มรับงานในวงการบันเทิง เร็วๆ นี้ จะมีละครเปิดกล้องใหม่ เรื่อง “ความรักครั้งสุดท้าย” เป็นละครแนวดราม่าฉายทางช่อง GMM25 ซึ่งเพลงรับบทเป็นลูกคุณหนูที่โหยหาความรัก ครั้งนี้เพลงได้มีโอกาสกลับมาร่วมงานกับ เก้า จิรายุ ด้วยค่ะ

แค่อยากให้เวลากับสิ่งที่รักก่อนไปเรียนต่อ

ภาพที่เพลงคิดไว้คือ เราได้ทำงานในวงการบันเทิงและทำงานเกี่ยวกับด้านอสังหาฯ เพลงเลยมีแพลนจะไปเรียนต่อปีหน้า แต่ตอนนี้เพลงขอให้เวลากับการทำงานในวงการบันเทิงก่อน

ถึงเพลงจะอยากเป็นผู้หญิงลุค working woman แต่เพลงก็ยังอยากทำให้สิ่งที่รัก นั่นก็คืองานแสดงที่เป็น passion ของเพลง เพราะถ้าสมมติให้เพลงทิ้งงานในวงการไปเลย เพลงคงรู้สึกว่ามันขาดอะไรบางอย่างไป เหมือนอย่างคนชอบดูหนังฟังเพลงแล้ววันหนึ่งห้ามไม่ให้ดูไม่ให้ฟัง แล้วความสุขของคุณอยู่ที่ไหน...ของเพลงมันไม่ต่างกันเลย การที่ได้เล่นละครหรือทำงานทางนี้ก็คือความสุขของเพลง และเพลงเชื่อว่าเราสามารถบริหารเวลาได้ อยู่ที่ความตั้งใจและความรับผิดชอบของเรา ไม่ว่าจะอย่างไร เพลงก็ต้องเก็บทั้งสองอย่างเอาไว้

ไม่ว่าเพลงอยากเป็นอะไร ยังไงก็มีคนซัพพอร์ต

จริงๆ แล้ว เพลงต้องบอกเลยว่าเป็นความโชคดีของเพลงที่คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างที่จะเคารพการตัดสินใจของเพลงมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่บังคับเพลงเลย เช่น เพลงบอกว่าอยากเรียนนิเทศฯ คุณพ่อคุณแม่ก็จะไม่บังคับว่าลูกต้องเรียนอย่างอื่น เขาปล่อยให้เราตัดสินใจ และพร้อมจะซัพพอร์ตเสมอ

คุณแม่ที่เปิดรับทุกอย่าง เป็นคุณแม่แบบ All in One

ด้วยความที่เพลงเป็นลูกคนเดียว  คุณแม่เลยเป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อน  แบบคุณแม่แบบ all in one และคุณแม่ก็เลี้ยงเรามาแบบเปิดมาก ไม่ว่าลูกมีอะไร ลูกจะกล้าพูด แล้วจะไม่มีการบอกว่าสิ่งนี้ผิดหรือสิ่งนี้ถูก คุณแม่จะไกด์ให้เราว่า “นี่คือกรอบนะ” แต่ไม่มีการห้าม ซึ่งถ้าเราทำผิดจริงๆ คุณแม่จะไม่มีวันบอกว่าลูกผิดจนไม่น่าให้อภัย ดังนั้น เพลงมีอะไรเลยก็พูดกับคุณแม่ทุกเรื่อง คุณแม่จะเป็นคนแรกๆ ที่รู้เรื่องเพลง ช่องว่างของเราสองคนเลยไม่ค่อยมี

ไม่มีช่องว่าง แม่ลูกคู่นี้เลยสนิทกันมาก

กิจกรรมอะไรที่เราทำด้วยกันได้ก็จะทำ ถ้าไม่นับว่าคุณแม่เกิดอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนที่ทำให้กระดูกคอแตก เราก็ออกกำลังกายด้วยกันตลอด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องช้อปปิ้งเราสองคนจะไม่เหมือนกันเลย เพราะแม่จะเป็นผู้หญิงที่สามารถช้อปได้ตั้งแต่ห้างเปิดยันคนสุดท้ายก่อนห้างปิด แต่เพลงซื้อแล้วก็จบ เวลาช้อปปิ้งด้วยกันเพลงต้องมีความอดทนนิดนึง ไม่อย่างนั้นก็จะไปทำธุระอย่างอื่นแล้วค่อยมารับคุณแม่

คุณแม่มักใส่ใจเรื่องความสวยความงามเป็นพิเศษ

เพลงเป็นคนที่ไม่สบายบ่อย มีปัญหาเรื่องท้อง ระบบการย่อยตั้งแต่เด็ก ซึ่งเพลงรักษาโดยแพทย์ทางเลือกแบบไม่ต้องทานยาแต่จะรักษาด้วยวิตามินหรือวิธีทางธรรมชาติ คุณแม่ก็จะเป็นคนคอยซื้อวิตามินให้เรา หรือเรื่องการดูแลตัวเอง ทำสปา ถ้าเทียบกับผู้หญิงคนอื่นแล้ว เพลงเฉยๆ มาก แต่ว่าคุณแม่ก็จะคอยบังคับว่า ลูกเป็นผู้หญิงนะ  ถ้าไปให้ออกซิเจนหน้าได้ก็ควรไป แต่เราก็ไม่เคยไปหรอก (หัวเราะ)  

หลังจาก Sanook! Women ได้พูดคุยกับเธอเพียงไม่นาน เราก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจและเป็นตัวเองเอามากๆ ของเธอ เราเชื่อว่าส่วนหนึ่งเพราะการเลี้ยงดูของคนในครอบครัว ที่ให้เธอกล้าพูดในสิ่งที่คิด กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แต่ก็ไม่ออกนอกกรอบ หรือต่อให้ทำผิดมากแค่ไหน แม่คนนี้ก็ไม่เคยตอกย้ำซ้ำเติมเลย แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไรว่าความรักและความเข้าใจจากคนในครอบครัวไม่สำคัญ

ฟังแบบนี้แล้ว ลูกๆ คนไหนที่ไม่ค่อยได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดกับคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณแม่คนไหนที่มัวแต่ดุด่าว่ากล่าวโดยไม่ฟังเหตุผลลูก อาจจะต้องหันหน้าเข้าหากัน กระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้นไปอีกนิดโดยการเป็นผู้ฟังที่ดีของคนในครอบครัว แล้วเชื่อสิว่าครอบครัวของเราจะกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและน่าอิจฉาที่สุดในโลกเหมือนแม่ลูกคู่นี้ยังไงล่ะเนอะ

Happy Mother’s Day!