ทำไม? ผู้ชายจึงปฏิเสธวันวาเลนไทน์

 

ความคลาสสิคอย่างหนึ่งของมนุษย์เรายังคงหนีไม่พ้นเรื่องความคิดต่างของคนสองเพศ แม้โลกจะถูกสร้างขึ้นมานับล้านๆ ปี แต่ทุกวันนี้ ลองเดินไปถามผู้ชายว่าเข้าใจผู้หญิงเต็มร้อยหรือไม่ หรือผู้หญิงอ่่านใจผู้ชายออกแค่ไหน ...ก็ยังไม่มีใครยอมรับอย่างมั่นใจหรอกว่าใช่ ฉัน/ผม เข้าใจเพศตรงข้ามแน่นอน 100%

โดยเฉพาะคู่รักที่กำลังคบหาดูใจจี๋จ๋า ไปจนถึงขั้นใช้ชีวิตร่วมกันจนเบื่อหน้า ลองคำนวณดูสิว่าใน 365 วัน คุณเคยผิดใจในเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันบ่อยครั้งแค่ไหน???

ผู้ชาย (ส่วนใหญ่) ไม่ชอบอะไรที่จุกจิก พูดง่ายๆ คืออาจไม่ละเอียดอ่อนในการแสดงความรู้สึกหรือรับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ผู้ชายหลายคนจะลืมอะไรง่ายๆ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างเช่น วันเกิดแฟน วันครบรอบแต่งงาน ครบรอบวันหมั้น วันที่บอกรักกันครั้งแรก ซึ่งผู้หญิงหลายคนมองว่า เป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อรู้อย่างนี้ เราก็เ้ลยลองไปค้นหาสาเหตุและทางออกง่ายๆ สำหรับสาวๆ ที่เตรียมตั้งท่าจะงอนหวานใจหัวแข็ง หากหนุ่มๆ ของคุณกำลังมีท่าทีที่แสดงออกว่า ไม่ได้ตื่นเต้นไปกับวันแห่งความรักเหมือนคุณ นั่นเป็นเพราะอะไร...

1.เมื่อคุณให้เหตุผลกับพ่อยอดชายไม่ได้ ว่าทำไมวันวาเลนไทน์จึงสำคัญนักหนา

ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ชอบอะไรที่จุกจิกเจ๊าะแจ๊ะ ยิ่งคุณคิดว่าถ้าทำแอ๊บแบ๊วแล้วจะเรียกร้องความสนใจหรือดูน่ารักในสายตาแฟนได้ หากผู้ชายของคุณไม่โกหก ก็แปลว่าคุณยังไม่ใช่คนที่เขาเลือกและหวังจะจริงจังด้วย! ทุกเรื่องที่ออกจากปากคุณต้องแสดงออกอย่างชัดเจนไปเลยว่าคุณต้องการอะไร คุณทำแบบนี้ทำไม และกำลังทำเพื่อสิ่งใด เด็ดขาดแบบหญิงยุคใหม่ ยังจะทำให้คุณผู้ชายเปิดใจรับฟังคุณมากกว่าทำตัวไร้เดียงสา

บอกหวานใจคุณไปเลยว่าวาเลนไทน์สำคัญกับความรู้สึกของคุณแค่ไหน ร้อยแปดเหตุผลที่คุณสามารถบอกเขาไปเลยตามที่หัวใจคุณกำลังรู้สึกอยู่ เป็นต้นว่า....เพราะเป็นวันที่คุณกับฉันเจอกันครั้งแรกไง, เพราะคุณเคยขอฉันแต่งงานในวันวาเลนไทน์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณจำได้มั้ย?, เพราะคุณเคยบอกฉันในวันที่ 14 กุมภาฯ ว่าคุณอยากเริ่มต้นกับคนที่ใช่ และคนๆ นั้นคือฉันนี่ไง ที่อยู่ข้างคุณจนถึงวันนี้....เพราะผู้หญิงมักจะหวั่นไหวกับกับโอกาสพิเศษที่ทำให้รำลึกถึงความหวานชื่นได้มากกว่า แต่ขณะเดียวกัน สำหรับคุณผู้ชายทั่วไป บทจะให้เหตุผลที่เคลียร์แล้วล่ะก็ พ่อคุณก็จะเข้าใจอะไรง่ายๆ กว่าที่คิดซะอีก

2. เมื่อคุณแสดงออกว่ารับไม่ได้ ที่คุณผู้ชายไม่ตื่นเต้นไปกับวาเลนไทน์ของคุณ

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับความผิดหวังเมื่อคุณผู้ชายทำเฉยชาในสิ่งที่คุณกำลังตื่นเต้นตั้งตารอ กรณีนี้ทั้งคุณและเขาควรจะเปิดใจคุยกันครึ่งทาง ว่าทำไมคุณถึงตั้งตารอวันวาเลนไทน์นักหนา ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าก็แค่วันธรรมดาๆ วันเดียว อย่ายื้อยุดให้เขาหยุดทำทุกอย่างเพื่อใช้เวลาทั้งวันกับคุณในวันนั้น หากเขามีเหตุติดประชุม นัดลูกค้า หรือแก้ปัญหาสำคัญในที่ทำงาน เพราะภาระหน้าที่คงแลกกับช่วงเวลาสวีทใส่กันไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็เช้าไม่ได้ และหากคุณดึงดันเถียงว่า วาเลนไทน์มันมีเพียงปีละครั้ง คุณผู้ชายก็คงไม่ใจอ่อนทิ้งทุกอย่างเพื่อคุณง่ายๆ แถมตัวคุณเองนั่นแหละจะต้องสะอึก หากเขาย้อนกลับมาว่า "แล้ววันอื่้นๆ อีก 364 วัน เราไม่เคยรักกันเลยหรือไง"

3. เมื่อคุณไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้ชาย ว่าความรักนั้นแสดงออกได้หลายวิธี มิใช่แค่บอกรักทุกวันที่ 14 กุมภาฯ

ผู้ชายส่วนมากเมื่อลงหลักปักฐานจนมั่นใจว่าเจอคนที่ใช่ ก็จะค่อยๆ ลดดีกรีความกุ๊กกิ๊ก และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้หญิงหลายคนคิดฟุ้งซ่านไปว่าความหวานน้อยลงเมื่อไหร่นั่นหมายถึงความรักใกล้จืดจาง หลายครั้งที่ผู้ชายไม่ได้จดจำหรือใส่ใจกับวันพิเศษคือสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงน้อยใจ จนทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่องต้องบานปลายโดยไม่จำเป็น

ทว่าอีกด้านหนึ่ง ผู้ชายจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่ชอบหาเรื่องเซอร์ไพรส์ อยากมัดใจคนพิเศษด้วยการแสดงความรักในแบบที่ตัวเองคิดว่าเจ๋งสุดๆ ชนิดที่ใครไม่มีวันลืม แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นสาวเจ้าไม่ปลื้มเอาซะเลย ซึ่งก็ถือว่้าเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ที่ความไม่คลิ้กกันในบางเรื่องย่อมเกิดขึ้นได้

แม้ว่าคุณทั้งคู่จะชอบหรือไม่ชอบที่อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติต่อ อย่าแสดงออกด้วยคำพูดในแง่ลบ เช่น "ทำไมคุณทำแบบนี้ ผมไม่ชอบ มันไร้สาระ" หรือ "คุณคิดได้แค่นี้เองหรือ" คำขอบคุณคือด่านแรกของการคลี่คลายตัวตนในกันและกัน ขอบคุณเธอที่พยายามทำสิ่งดีๆ ให้คุณในวันพิเศษทั้งๆ ที่คุณเองไม่เคยใส่ใจมาก่อน หรือขอบคุณหัวใจซื่อๆ ของเขาที่อยากเซอร์ไพรส์คุณในวันวาเลนไทน์ แม้จะไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวัง และอาจผิดหวังที่มันไม่ปิ๊งปั๊งดั่งใจคุณ และใช้วันเวลาที่เหลืออยู่ ค่อยๆ ศึกษานิสัยและตัวตนกันและกันว่าชอบ-ไม่ชอบ อะไร เพื่อที่วาเลนไทน์ปีต่อๆ ไป จะได้เป็นวันพิเศษของคุณทั้งสองคนสมใจปรารถนา...

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Getty Images