8 ขั้นบันไดสู่ความเซ็กซี่
เรื่องโดย Localita
ทุกวันนี้หลายคนยังเชื่อและเข้าใจผิดๆ เมื่อใดก็ตามที่นึกถึงคำว่า เซ็กซี่ จะต้องหมายถึงความยั่วยวน เสื้อผ้าน้อยชิ้น กับท่วงท่าเชื้อเชิญเกินจริตอันดีงาม
วันนี้เรามีเคล็ดน่ารู้ น่าลอง เพื่อเปลี่ยนมุมมองความคิดและลบล้างนิยามของคำว่า "เซ็กซี่" เสียใหม่ ว่าคนเราก็เซ็กซี่ถึงแก่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำปากเจ่อเผยอแข้งขาแบบพวกปลุกใจเสือป่าให้เป็นต้นตอของปัญหาสังคม แถมยังทำง่าย และใครๆ ก็เซ็กซี่ได้ คอนเฟิร์ม!
1. แต่งให้เป็น
แต่งในที่นี้ก็คือการแต่งตัว หลายคนเมาหมัดจัดชุดบางวาบหวิว สายเดี่ยว ขากุด นุ่งสั้นผ่าสูงตะลุยไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำตั้งแต่ดินเนอร์มื้อค่ำยันเข้าวัดฟังเทศน์ ซึ่งสิ่งนี้ึคนที่มีบุพการีอบรมอย่างเอาใจใส่ก็จะรู้ได้ด้วยสำนึกอยู่แล้วว่าไม่เหมาะไม่ควรและไม่งาม แต่เมื่อศีลธรรมเริ่มเสื่อมถอย จริยธรรมเริ่มย่อหย่อน สิ่งที่ได้รับการอบรมพร่ำสอนก็ดูเหมือนจะถูกมองข้ามไปอย่างน่าเศร้า
ซึ่งการแต่งตัวให้เป็น ก็มีทิปที่ควรคำนึงไม่กี่ข้อแต่ทำแล้วดีเป็นศรีกับตัวชัวร์ป๊าบ นั่นก็คือ แต่งตัวอย่างรู้ตน คือแต่งแล้วรู้สึกมั่นใจและสบายตาทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เพราะเมื่อความมั่นใจบังเกิด พลังในตัวก็จะก่อ เท่านี้ก็เปล่งประกายความเซ็กซี่ได้โดยไม่ต้องพยายามจนขาดสติ และคำนึงถึงสิ่งสำคัญก่อนออกไปพบปะใครต่อใครนอกบ้าน ว่า กาลเทศะ คือสิ่งสำคัญอย่างที่เราคอยเตือนสาวๆ อยู่เป็นประจำ...หากใครพยายามล้างความคิดคุณว่า สุภาพคือความเชย...ก็บอกเขาไปเลยว่าคุณยอมเชยเพื่อให้คนที่พบเห็นเคารพในตัวตนและคุณค่า ดีกว่าชมต่อหน้าแต่ลับหลังโดนนินทาว่าแต่งตัวไปล่อตะเข้!
2.เป็นตัวของตัวเอง
เรื่องน่าเวทนาของคนสมัยใหม่ที่เห็นนางแบบแต่งชุดหวิวๆ หรือออกท่าทางจัดจ้านกร้านโลกแล้วปลาบปลื้มชื่นชมว่าเป็นวีรสตรียุคใหม่ ถ้าเราลองทำตามใครต่อใครคงบอกว่าเราเซ็กซี่...ขอสมเพชคุณดังๆ 3 ที เพราะนั่นคือความคิดที่ไร้สมองอย่างสุดๆ เอาง่ายๆ ถ้าเนื้อในคุณเป็นคนขาดความั่นใจ แต่อยากแรงอยากเร่าร้อนเหมือนคนอื่นๆ จนเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองให้วุ่นวาย แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวเพราะนั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงจากภายใน ผลลัพธ์มันจะเจ็บปวดนัก ....จงเป็นตัวเองในแบบที่เป็น คุณจะไม่ชอบเข้าโรงหนังในขณะที่เพื่อนๆ แห่ไปดู Avatar หรือคุณจะปล่อมผมดำสลวยในขณะที่เพื่อนๆ รุมเม้าท์ว่ายายเชยไม่รู้จักทำไฮไลท์ ...แต่ถ้านั่นคือตัวตนที่คุณเป็นแล้วสบายใจที่จะอยู่กับมัน ก็จงเป็นคุณคนเดิมที่สุขใจได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เมื่อคุณมั่นใจ เสน่ห์ภายในที่ใครก็สัมผัสได้จะเปล่งประกายออกมาเอง
3. ใส่ใจกับตัวเอง
ไม่มีผู้หญิงที่ไหนเซ็กซี่ได้ด้วยถุงเท้าดำปี๋ รองเท้าขาดเป็นรู หรือชุดชั้นในย้วยยานใส่ 3 ปีจนเสื่อมแล้วเสื่อมอีกก็ยังจะใส่ต่อ เพราะลุคที่ดูสะอาด จะบ่งบอกความเป็นคนรู้จักดูแลและใส่ใจตัวเองของคุณให้ผู้คนรอบข้างได้เห็นด้วยความรู้สึกชื่นชมและสบายใจเมื่อได้พบเจอ
4. อย่าปล่อยตัว
ช่วงนี้มีข่าวถี่ยิบรายวันว่าผู้หญิงเดี๋ยวนี้ห่วงผิวหน้าผิวพรรณอยากขาวสวยใสไร้สิวฝ้าหน้าไม่ย่น แล้วก็แห่กันไปเสียเงินเข้าคอร์สกันหลายสตางค์ บางคนมีอันจะกินเหลือเฟือก็แก้ไขทั้งตัวประมาณว่าแปลงร่างได้ก็จะทำ ศัลยกรรมทุกจุดจนเสพติดก็ไม่วอร์รี่ แต่อีกด้านก็มีสาวกระเป๋าแห้งอยากเป็นนางฟ้าจำแลง แต่ไม่มีเงินจ่ายแพงก็ไปทำหน้าใสผิวสวยกับคลีนิคถูกๆ ที่ำำไม่ได้มาตรฐาน หากทำบุญมาดีจากชาติก่อนก็รอดตาย แต่ถ้าบุญไม่มีบวกสุขภาพก็ไม่ดีแถมยังเจอสารเคมีดูแลผิวปลอมๆ เข้า ก่อนจะสวยเซ็กซี่ก็คงซี้ม่องเซ็กลงไปเช็คชื่ออยู่กับยมบาลแทน
อันที่จริงหลายคนมองข้ามวิธีการดูแลตัวเองที่ง่ายแสนง่ายและปลอดภัยแต่เสริมสร้างชีวิตให้ยืนยาว ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยครั้งละ 15 นาที ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ปาร์ตี้ให้น้อยลง เพลาๆ การเล่นเกมลงอีกหน่อย อย่าตามใจปากบ่อย...และสิ่งสำคัญสุดชีวิต เหล้าเบียร์บุหรี่ งด! อย่าไปเพ้อพกตามในหนังว่านางเอกที่เซ็กซี่ต้องสูบบุหรี่จัดและเป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้...เพราะอะไรที่โป่งๆ พองๆ ของแม่คุณทั้งหลาย คืออวัยวะภายในที่ถูกทำลาย หาใช่อกอึ๋มปลอมๆ ยัดซิลิโคนไม่!
5. หยุด! พฤติกรรมก้าวร้าว
โบราณว่าสตรีนางใดพูดจาส่อเสียดว่าร้ายนิสัยก้่าวร้าว นางผู้นั้นใครได้เป็นภรรยามีแต่จะพาสามีตกต่ำ! แม้ยุคนี้สมัยนี้ผู้หญิงจะเก่งกล้ากั่นมั่นใจจนมองข้ามคำสอนที่แสนเชย แต่กิริยามารยาทงดงาม มีความสำรวม พูดจาไพเราะอ่อนหวานน่าฟัง ก็ยังเป็นสิ่งที่สังคมเรียกว่ามารยาทอันดีงาม สาวๆ ที่พูดคำ สบถคำ ทำก๋ากั่นมั่นใจจนไร้สติเพราะคิดว่าเจ๋ง ดูแรง เป็นสาวมั่นตัวแม่ กล้าได้กล้าเสียอยู่แล้ว! หากอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทกันก็คงต้องถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อใดก็ตามที่อยู่ท่ามกลางผู้คนในสังคม ก็จงงดกิริยาก๋ากันทั้งหลายเสียทั้งการกระทำและความคิด เพราะความก้าวร้าวเป็นก้าวอันตรายขั้นแรกที่จะนำสาวๆ ไปสู่ความเสื่อมขั้นต่อๆ ไป....
6. เชื่อมั่นและศรัทธากับตัวเอง
สาวๆ หลายคนแคร์เสียงนกเสียงการอบข้างเสียจนสติกระจุยจิตแตกกระเจิง อ่อนไหวเมื่อใครๆ ทักว่าอ้วน ร้องไห้เสียใจเมื่อแฟนทักว่าแก่ จะเป็นจะตายเมื่อเพื่อนล้อว่าหน้าอกเล็ก...เสียงสะท้อนเหล่านี้ก็แค่มลพิษทางอากาศชนิดหนึ่งที่ดังหึ่งๆ เข้าหูเราแล้วก็ลอยลมผ่านไป แก้ได้ง่ายๆ ทำจิตใจให้แข็งแรง เคารพในตัวตนของเราเอง และรักตัวเอง! เกราะกำบังที่แข็งแรงที่สุดของมนุษย์นั้นสร้างได้จากภายใน เมื่อใจแข็งแรงก็จะส่งผลให้ภายนอกผ่องใส เซ็กซี่ได้เองโดยอัตโนมัติ
7. ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม แค่ยิ้มก็เปลี่ยนโลกได้
คนบางคนหน้าบูดบึ้ง เคร่งขรึมตลอดเวลา เพื่อนหัวเราะเฮฮาก็พยายามทำหน้านิ่งเริ่ดเชิด เพราะคิดว่าเกิดแน่ๆ ....ไม่รู้ใครไปเข้่าฝันบอกกันหนอว่าความเซ็กซี่นั้นคือต้องวางท่าทีให้ดูไม่เป็นมิตร ทั้งที่ในความเป็นจริงจากผลกาีรวิจัย สาวๆ ที่ยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย อารมณ์ดีมีมุขแพรวพราว คืิอหนึ่งในเหตุผลที่ทุกคนโหวตให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของสาวเซ็กซี่ต่างหาก...หัดยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ออกมาจากความสุขภายใน มิใช่ปั้นยิ้มแบบนางงามเรียกคะแนนจากกรรมการ สร้างสุขให้ตัวเอง มองโลกในแง่ดี ลับสมองอยู่เป็นนิจ แล้วคิดในเชิงบวก...หลายคนบอกทำยากสุดๆ ในยุคที่ทุกอย่้างพร้อมใจกันฝืดแบบนี้ แต่้ทุกคนมีเวลาอย่างน้อย 5 นาทีในแต่ละวันให้ได้บริหารรอยยิ้มอยู่แล้ว...จงใช้ซะ
8. พูดแต่เรื่องที่สร้างสรรค์
สาวพูดเก่ง สาวช่างพูด สาวช่างเมาท์ สามสาวนี้กำลังใช้ปากปฏิบัติหน้าที่เหมือนๆ กัน แต่เมื่อพิจารณาดีๆ เราจะเห็นทันทีว่าเจตนาของทั้งสามสาวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พูดเก่ง ก็คือพูดจากความคิดที่ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี ส่วนสาวช่างพูด ก็อาจจะพูดจาเสนาะหูดูน่าฟัง แต่มุมมอง ความคิด และเจตนาบางอย่างอา่จไม่น่ารัก และสาวช่างเมาท์ ก็คือสาวที่พูดจาเรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะ สาระไม่มีหาดีไม่ได้ อาจคึกคะนองเป็นที่เฮฮา แต่ทว่าผู้ฟังไม่ได้รับประโยชน์อะำไรเลย
ฉะนั้น คติแต่ดั้งเดิมที่ว่า ก่อนพูด คำพูดมักเป็นนายเรา ยังใช้ได้ดีทุกที่ทุกเวลาทุกสถานการณ์ หากอยากเป็นสาวคุณภาพ เซ็กซี่อย่างสร้างสรรค์จากตัวตนภายใน...อย่ามองข้ามความสำคัญของการพูดจา เพราะัดวงตาอาจเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่คำพูดก็คือคำสารภาพของทั้งความคิดและจิตใจ ที่จะส่งผลดีหรือร้ายก็ได้ขึ้นอยู่กับความคิดของเราเอง