ความตายครั้งที่มีความหมายมากที่สุด (The Unlikely Pilgrimage of Harold Fry)

ความตายครั้งที่มีความหมายมากที่สุด เป็นเรื่องราวของชายวัยเกษียณนาม ฮาโรลด์ ฟราย ผู้มีชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบาก เขามีบาดแผลในใจที่เกิดจากการถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่ากระทั่งบอบช้ำจนยากเกินเยียวยา เขาพยายามปกปิดซุกซ่อนบาดแผลนั้นไว้ ได้แต่หวังว่าสักวันมันจะหายเอง และตั้งมั่นว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันสร้างบาดแผลลักษณะเดียวกันกับใคร โดยเฉพาะกับคนที่เขารัก

แต่กลับกลายเป็นว่า การเก็บงำบาดแผลของตัวเขาเอง เป็นการสร้างบาดแผลในอีกรูปแบบหนึ่งให้กับคนที่เขาอยากปกป้องที่สุด และกว่าจะรู้ตัว เขาก็ต้องสูญเสียคนคนนั้นไปอย่างไม่มีหวนคืน

วันหนึ่ง หลังได้รับจดหมายจากเพื่อนเก่าที่กำลังจะตายจากโรคร้าย อะไรบางอย่างทำให้ฮาโรลด์ตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมเธอ และหวังว่า “การเดินเท้า” ที่ไม่มีอะไรติดตัวเลยนอกจาก “ความศรัทธา” จะช่วยให้เธอรอดชีวิตได้

การเดินทางครั้งนี้ของฮาโรลด์เป็นการเดินทางทั้งภายนอกและภายใน การเดินทางภายนอกทำให้เขาได้พบเจอผู้คนมากมาย ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และได้เห็นชีวิตในหลากหลายมุมมอง ส่วนการเดินทางภายในทำให้เขาได้ทบทวนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต และที่สำคัญ ทำให้เขาได้รู้จักตัวเองอีกครั้ง

ระหว่างแปลหนังสือเล่มนี้ฉันลองเดินทางระยะสั้นเข้าไปในจิตใจและรับฟังเสียงในความคิดของตัวเอง ฉันพบว่าจำนวนไม่น้อยเป็นเสียงจากอดีตที่ฉันซุกซ่อนหรือพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด

ตรงทางแยกระหว่างหันหลังกลับและซุกซ่อนอดีตอันเจ็บปวดไว้ดังเดิม หรือจะเดินหน้าต่อไป ฉันคิดถึงเรื่องราวของฮาโรลด์และจึงตัดสินใจได้ว่า ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะมีเรื่องราวเดิมๆ ที่ทำให้ต้องเจ็บปวดทรมานเพียงใด ฉันก็จะเผชิญหน้าและรับฟังเสียงของมันอย่างตั้งอกตั้งใจ ฉันจะไม่กลัว จะอยู่กับมัน มองดูมันด้วยสายตาคู่ใหม่ ฉันจะยอมรับและก้าวผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหน เพราะถึงแม้ฉันจะหลบหลีกลืมเลือนมันไปได้อีกในครั้งนี้ แต่อดีตนั้นก็จะยังคงอยู่ที่เดิม และจะตามมาหลอกหลอนฉันอีกไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ที่สำคัญ ฉันจะให้อภัยตัวเองให้ได้ต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เคยทำผิดพลาดมา เหมือนที่ฮาโรลด์ให้อภัยตัวเองได้ในที่สุด ต่อความผิดพลาดจากสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา

ซึ่งฉันถือเป็นจุดหมายอันสูงสุดของการเดินทางครั้งนี้