4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องหัวใจ (Open House)
Open House หรือ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องหัวใจ คืองานแปลเล่มแรกของฉัน
นึกย้อนกลับไปในวันที่ได้เจอกับหนังสือเล่มนี้ ฉันยังเชื่ออยู่เสมอว่าทั้งหมดคือ พรหมลิขิต
วันนั้น ใกล้ถึงกำหนดนัดพบบรรณาธิการสำนักพิมพ์เต็มที แต่ฉันยังหาหนังสือที่อยากแปลไม่ได้เลย
เนื่องจากเป็นมือใหม่ ฉันจึงขอบรรณาธิการเริ่มด้วยหนังสือที่เลือกเอง จะได้เป็นเล่มที่ชอบจริงๆ และจะได้ปลุกปล้ำแปลอย่างสนุกสนาน เพราะหากเจอเล่มที่ยากเกินไป ฉันก็อาจจะเกิดอาการท้อได้ ซึ่งทางคุณภาณี ลอยเกตุ บรรณาธิการของฉันในตอนนั้นก็เข้าใจ และยอมให้เป็นไปตามที่ขอด้วยความกรุณา
แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ยังหาหนังสือเล่มที่ถูกใจจริงๆ ไม่ได้สักที
กระทั่งวันนั้น ตอนที่กำลังจะเดินผ่านแผนกนิยายเป็นเที่ยวสุดท้ายก่อนออกจากร้านหนังสือ ฉันบังเอิญเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มขนาดพอดีมือ วางชิดด้านในซอกลึกสุดของชั้น หลังบรรดาหนังสือเล่มอื่นๆ ฉันไม่รู้ว่ามันตกลงไปในช่องนั้นโดยบังเอิญ หรือถูกจับไปซุกไว้ แต่ก็รู้สึกสงสารมาก ที่ไม่มีโอกาสได้หันสันปกสวยงามออกมาเชื้อเชิญให้ผู้อ่านหยิบจับ จึงล้วงมือเข้าไปหยิบมันออกมา แต่ก่อนจะวางลงบนชั้น ฉันไม่วายพลิกอ่านปกหลังของหนังสือชื่อ Open House
แล้วหลังจากนั้น มันก็กลายมาเป็นงานแปลเล่มแรกในชีวิตของฉัน
Open House ซึ่งได้ชื่อภาษาไทยในเวลาต่อมาว่า 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องหัวใจ เป็นเรื่องของหญิงวัยสามสิบต้นๆ ชื่อ ซาแมนธา มอร์โรว์ ที่ถูกสามีนอกใจ และทิ้งเธอกับลูกชายวัยสิบเอ็ดไปอย่างไม่เหลียวแล แน่นอน ซาแมนธาสติแตกไปเลย
แต่สถานการณ์ทางการเงินก็ทำให้เธอต้องตั้งสติและหาทางออก เพื่อจะมีรายได้มาผ่อนบ้านและเลี้ยงดูลูกชาย สุดท้าย เธอก็ตัดสินใจเปิดบ้านให้คนมาแบ่งเช่า
แล้วพรหมลิขิตก็ชักนำผู้คนหลากหลายให้มาเป็นเพื่อนร่วมบ้านของซาแมนธา:
ลีเดีย หญิงวัยไม้ใกล้ฝั่ง ที่กลายมาเป็นเพื่อนรู้ใจของซาแมนธา
เอ็ดเวิร์ด เกย์หนุ่ม นิสัยดี
ลาเวนเดอร์ บลู เด็กสาวท่าทางประหลาด ที่ขออยู่ห้องใต้ดิน
เพื่อนใหม่เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความประหลาดใจ พร้อมความซาบซึ้งอบอุ่นหัวใจให้แก่ซาแมนธา แต่ยังทำให้เธอมองโลกต่างไปจากเดิม และเข้าใจอะไรๆ มากขึ้น แถมยังพาเธอให้ได้มารู้จักกับสุภาพบุรุษแสนดี ที่ทำให้หัวใจของเธอกลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง
แม้ Open House จะเป็นงานแปลเล่มแรก ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยความเครียดและความกดดัน แต่ฉันกลับมีความสุขและสนุกสนานกับการทำงานครั้งนี้อย่างยิ่ง เนื่องจากเนื้อหาและตัวละครในเรื่องนั้นแสนจะน่ารัก เต็มไปด้วยคำพูดโดนใจให้ได้เก็บมาคิดต่อแบบไม่รู้สึกถูกยัดเยียด
ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยกความดีความชอบให้กับ เอลิซาเบธ เบิร์ก ผู้เขียน
ด้วยความที่เบิร์กเคยทำงานเป็นพยาบาลพิเศษ เธอจึงมีความเข้าใจในชีวิตอย่างลึกซึ้ง ทว่าการถ่ายทอดความลึกซึ้งให้ออกมาได้อย่างมีอารมณ์ขัน สนุกสนาน และมองโลกในแง่ดี (ไม่ว่าตัวละครจะมีชะตากรรมที่น่าสงสารแค่ไหน) น่าจะเป็นพรสวรรค์ของเบิร์กล้วนๆ ซึ่งพรสวรรค์นี้เองที่ทำให้นักอ่านนิยายหลายคนติดอกติดใจงานของเธอ
ในการแปลหนังสือเล่มแรกในชีวิต หากฉันไม่ได้รับโอกาสและความช่วยเหลือจากพี่ๆ ใจดีหลายคน บอกตามตรงว่าฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่างานนั้น (ซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้นเกือบหนึ่งปี) จะสำเร็จลุล่วงได้หรือไม่
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ พี่นวล พาฝัน ศุภวานิช ที่รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการต้นฉบับให้ และพี่เก้ง จิระ มะลิกุล ที่สละเวลามาเขียนสุดยอดคำนำให้
และที่สำคัญ ขอบคุณผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ส่งข้อความมาพูดคุย และบอกว่าชอบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องหัวใจ ทำให้ฉันได้มีโอกาสแปล Never Change-- ขอเป็นลมหายใจสุดท้ายให้เธอ หนังสืออีกเล่มของคุณเบิร์กตามออกมาอีก
ไว้จะมาเล่าถึงหนังสือเล่มนี้ให้ฟังในโอกาสต่อไปนะคะ ^^