เล่มไหนดีน้า?

ใกล้ช่วงวันหยุดยาวทีไร ฉันเป็นต้องปวดหัวกับเรื่องนี้เสมอ คือ ไม่รู้จะพกหนังสือเล่มไหนไปเที่ยวด้วยดี?

ฉันมักเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง เล่มเก่าที่ซื้อมานานแล้วแต่ยังไม่อ่านก็เพียบ เล่มใหม่ที่อยากอ่านก็ไม่น้อย แล้วยังประเภทอีกล่ะ? จะเอาแบบปรัชญาลึกล้ำไว้อ่านแบบละเลียด หรือนิยายหรรษาพาเพลินอ่านคล่องปรื๊ดๆ ดีน้า?

โอย คิดไม่ตก!

อย่างช่วงหยุดยาวที่จะถึงนี้ ฉันมีแผนหาที่พักริมน้ำเงียบๆ เพื่อจะได้นอนอ่านหนังสือให้ชุ่มปอดไปเลย และฉันก็มีหนังสือที่เข้าชิงอยู่ 4-5 เล่ม

1.Timmy Failure ต้นฉบับที่จะต้องแปลเล่มต่อไป
ฉันแปลหนังสือชุด Timmy มาเป็นเล่มที่ 3 แล้ว เป็นเรื่องราวของเจ้าหนูทิมมี่ นักสืบจอมป่วน ที่คิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดในโลก (แต่ความจริงนี่คนละเรื่องเลย) กับหมีขั้วโลก ผู้ช่วยสุดเด๋อ ที่จะมีเรื่องมาให้เราขำตลอดทั้งเล่ม

2.Humans of New York Stories
หนังสือรวมภาพถ่ายผู้คนในนิวยอร์คของช่างภาพชื่อดัง Brandon Stanton ที่แต่ละภาพจะมีคำบรรยายสั้นๆ ที่โดนใจสุดๆ แต่เล่มหนาปึ้กและหนักอึ้ง แถมกำลังจะออกเวอร์ชั่นภาษาไทยเร็วๆ นี้อีกต่างหาก เลยลังเลว่าจะรออ่านฉบับภาษาไทยทีเดียวเลยดีรึเปล่า

3.100 Days of Happiness โดย Fausto Brizzi
นิยายฟีลกู๊ดที่อ่านค้างอยู่ ติดอยู่นิดเดียวตรงที่มันอยู่ใน kindle ซึ่งฉันไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือจาก kindle เท่าไหร่

4.ปริศนา โดย ว. ณ ประมวญมารค
นิยายสุดโปรดที่เคยดูละคร เคยอ่านหนังสือมาแล้ว แต่อยากอ่านอีก (เรื่อยๆ)

5.ศิลปะแห่งการรัก (The Art of Loving) โดย Erich Fromm แปลโดย สุรพงษ์ สุวจิตตานนท์
หนังสือที่พูดถึงความรักในทุกๆ ด้าน ทุกรูปแบบ เล่มนี้อยากอ่านมานานมาก แต่หาจังหวะไม่ได้ซะที

หลังจากคิดสะระตะอยู่นาน สุดท้ายฉันก็เลือก “ศิลปะแห่งการรัก” แต่ไม่วายพก “Timmy Failure” ไปเป็นเล่มสำรอง เผื่ออ่านศิลปะแห่งการรักจบภายในเวลาอันรวดเร็ว จะได้ไม่ต้องลำบากขับรถออกจากที่พักไปหาซื้อหนังสือให้วุ่นวาย และสอด Kindle ใส่กระเป๋าตามเข้าไปในวินาทีสุดท้าย (เผื่อไว้กันเหนียวอีกชั้น)

ส่วน “ปริศนา” นั้นหาไม่เจอ ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ที่ไหน (ปริศนาสมชื่อ)
และ Humans of New York ก็จะรออ่านฉบับแปลเลยทีเดียว

เฮ้อ เป็นอย่างนี้ทุกที สุดท้ายก็ขนไปเกือบทุกเล่ม แล้วอย่างนี้จะมานั่งคิดให้ปวดหัวทำไมเนอะ 55555

แล้วคุณล่ะคะ วันหยุดยาวนี้จะพกหนังสือเล่มไหนไปเที่ยวด้วย? มาบอกเล่ากันบ้างนะ ^^