Private Onsen เก๋ๆ ไม่ต้องไปอาบรวมกับใคร ที่ Kashikiri Onsen and Spa

Private Onsen เก๋ๆ ไม่ต้องไปอาบรวมกับใคร ที่ Kashikiri Onsen and Spa

Private Onsen เก๋ๆ ไม่ต้องไปอาบรวมกับใคร ที่ Kashikiri Onsen and Spa
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สวัสดีค่าบล็อกนี้ ต๊ะพามาสปาและอาบออนเซ็น แนวญี่ปุ่นๆกัน
โดยร้านที่ต๊ะพามานี้จะแตกต่างกับการอาบออนเซ็นรวมแบบที่อื่น คือที่นี่เป็นการอาบ
แบบคนเดียว ไม่ต้องเขินคนอื่นแล้ววววว มาที่นี่เลย กับร้าน
Kashikiri Soda Onsen and Spa 49
ที่ตั้งอยู่ที่ ซอย สุขุมวิท 49 ลงBTS พร้อมพงศ์ หรือขับรถมาเองก็ตรงเข้าซอยมาเรื่อยๆ
และจะเจอสามแยกแรก ก็ถึงเลย หาง่ายมาก ๆ :)
เข้าไปดูรายละเอียดโปรแกรม และแผนที่ร้านได้ในเว็บเลยค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าร้านธรรมชาติมากๆ เต็มไปด้วยต้นไม้และน้ำตกร่มรื่นย์เบาๆ
ได้บรรยากาศ Back to the Nature
เดินเข้ามาด้านในกันเลยค่า จะมีเคาท์เตอร์บริการ มีพนักงานมาเสิร์ฟชาเขียวร้อนค่ะ
ด้านในจะตกแต่งสไตล์บ้านญี่ปุ่น น่ารักๆ ค่อนข้างเงียบสงบ และดูส่วนตัวมากๆค่ะ
ไม่ต้องกลัววุ่นวายหรือเสียงดังเลย

มาดูเมนู สปาที่ต๊ะจะมาใช้บริการในวันนี้ดีกว่า เป็นตัวที่พนักงานแนะนำมาเลยค่ะ
ต๊ะเลือก คอร์สนี้ค่ะ SOS intensive treatment
เป็นการ
Private Onsen 45 Mins
AHA body scrub-Mask 30 mins
Sport hot aroma oil massage 75 mins

ระยะเวลารวม 2.30 ชม ราคา 2,900 บาท



หรือจะเป็นเมนูอื่นๆ ที่ไม่เป็นคอร์ส ต๊ะถ่ายมาให้ดูคร่าวๆประมาณนี้ค่ะ

และพอเราเลือกคอร์สเสร็จแล้ว จะมีพนักงานเอากลิ่นต่างๆมาให้เลือกค่ะ
อย่างแรกเลย เป็นน้ำออนเซ็นที่เราจะใช้อาบ จริงๆอยากลอง Soda Spa แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน
เลยเป็นสามตัวนี้ค่ะ เป็นส่วนผสมที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นจากเมือง Beppu and Kusatsu
ต๊ะเลือกเป็นสูตร คอลลาเจน สีเขียว ที่ช่วยทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น ส่วนน้องที่มาด้วยอีกคน เลือกสูตรสีขาว ช่วยลดอาการแพ้และระคายเคืองของผิวค่ะ

และมาต่อกันด้วยการเลือก กลิ่นน้ำมัน Aroma ที่ใช้นวด ต๊ะเลือกกลิ่น ยูคาลิปตัส ผสมกับ ลาเวนเดอร์
มาแนวหอมๆ และช่วยทำให้การหายใจโล่งขึ้นด้วย

และสุดท้ายเลือก Texture Scrub ตัว สครับข้าว เป็นอะไรที่หอมละมุน และน่าลองมาก
แต่สุดท้ายก็เลือก ชาเขียวและอัลมอนด์สครับค่ะ ชอบเนื้อสัมผัสละเอียดๆมากกว่า  ตัวสครับจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวนุ่มด้วยค่ะ

พอเลือกกันเสร็จ เราก็พากันมาเปลี่ยนชุดยูคาตะ เอาของเก็บในล็อคเกอร์ ให้เรียบร้อย
เตรียมตัวไปอาบน้ำร้อนออนเซ็นก่อนเลย !

มาดูห้องน้ำกันค่ะ เป็นห้องน้ำแยกส่วนตั๊ว ส่วนตัว ใครชอบอาบชิลๆ ก็เลือกแบบคนเดียว หรือจะเป็นการอาบแบบคู่ก็ทำได้  มีม่านกั้นให้ เม้าท์กันสนุก อาบไป เม้าท์ไป ก็ฟีลดีมาก
ในห้องน้ำ จะมีน้ำเย็นให้ทำความสะอาด สบู่ แชมพู ครบ
ตัวน้ำร้อนประมาณ 40 องศา แนะนำให้อาบน้พเย็นและค่อยๆเอาขาจุ่มไปทีละนิดปรับอุณหภูมิเนอะ
แฮร่!!! ตอนนี้แช่น้ำแล้ว กว่าจะแช่ได้ก็นานเหมือนกัน แอบร้อน แต่พอปรับอุณหภูมิร่างกายได้แล้วก็สบายมาก การแช่น้ำร้อนออนเซ็นนอกจากจะช่วยให้เราสดชื่อน ผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนดี และสูตรน้ำที่อาบทำให้ผิวเราดีขึ้นด้วย เก๋มากๆ

ตอนนี้เริ่มร้อน เหงื่อเริ่มมา  ที่นี่มีน้ำเปล่าให้ดื่มด้วย กลัวเราร้อนและเสียเหงื่อมากเกินไป
แต่ก็ยังชิล จนครบเวลา พนักงานจะมาเรียกก่อนเวลานวดต่อ 10 นาทีค่ะ ให้เราเตรียมตัวไปคอร์สต่อไป

เปลี่ยนมู้ดมานวดกันบ้าง ด้านบนร้าน Aroma สุดๆ กลิ่นหอมมาก เรามาเริ่มสครับกันก่อนเลย
ที่เห็นครีมเขียวๆ คือ สครับชาเขียวและอัลมอนด์ค่ะ กลิ่นหอมมากๆ ผ่อนคลายสุดๆ
เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้พนักงาน นวด เบา ปานกลาง หรือหนัก หรือเน้นตรงไหน ดีงามมมม

สครับเสร็จก็ต่อด้วยนวด Aroma เลยค่ะ ชอบการนวดของพนักงานที่นี่ นวดตรงที่เน้นไปคือ ช่วงสะบัก และไหล่ นวดไม่หนักไม่เบาเกินไปกำลังดี กลิ่นยูคาลิปตัสและลาเวนเดอร์ที่เลือกก็ผ่อนคลายสุดๆ
แนะนำคอร์สที่ต๊ะเลือกเลย คุ้มสุดๆ ฟินมากกกกกก

สุดท้าย นวดเสร็จแล้ว เราเปลี่ยนเสื้อผ้า มานั่งทานอาหารว่าง ที่ทางร้านเสิร์ฟมาค่ะ
เป็นสปันจ์ชาเขียวมูสนุ่มๆ กับแตงโม และชาเขียวร้อน Heal my day ! สุดๆ  ผ่อนคลายและ
สบายสไตล์ญี่ปุ่นมาก  ไว้คราวหน้าจะกลับมาใช้บริการอีกแน่นอน ชอบไปรเวทออนเซ็นสุดๆ
ใครพาแฟนมาอาบออนเซ็นก็เป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับคู่รักค่ะ ต๊ะแนะนำเลย

มาคุยกันเพิ่มเติมหรือเม้ามอยต่อได้ที่เพจ https://www.facebook.com/tahithiblog/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook