ข้อปฏิบัติเพื่อการมีสุขภาพดี
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีคำถามหนึ่งคำถามที่จะขอถามคุณว่า วันนี้คุณได้ดูแลสุขภาพของตัวคุณเองดีแค่ไหน วันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีดูแลสุขภาพมาให้คุณทั้งหลายได้ปฏิบัติกันค่ะ
1. แก้ปัญหาอาการเท้าบวม คุณทั้งหลายเคยมีอาการเท้าและข้อเท้าบวมบ้างไหม และคุณปฏิบัติตัวอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำในการดูแลสุขภาพในเรื่องนี้มาฝากกัน โดยให้คุณนั่งยองๆ ทุกวันๆ ละ 15 นาที แล้วขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลัง เพื่อช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงที่ขนทำจากวัสดุธรรมชาติ แปรงผิวหนังเบาๆ เริ่มบริเวณฝ่าเท้าซึ่งเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย แล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง จากนั้นอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
2. การรับประทานไข่สำหรับผู้ที่ป่วยโรคเบาหวาน สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน คุณทราบกันหรือไม่ว่า การที่คุณรับประทานไข่มากกว่าอาทิตย์ละ 1 ครั้ง คุณจะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
3. การลดน้ำหนักด้วยไข่ การที่คุณรับประทานไข่เป็นเวลา 8 อาทิตย์สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานไข่ถึงร้อยละ 65 และรอบเอวก็สามารถลดลงเกือบสองเท่า เพราะผู้ที่รับประทานไข่จะรู้สึกอิ่มกว่าการรับประทานขนมปัง จึงทำให้รับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นได้น้อยลง
4. การรับประทานอาหารในขณะดูหนัง จะทำให้คุณรับประทานอาหารได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะกินอิ่มมาแล้วหรือรสชาติของอาหารไม่ได้เรื่องเลยก็ตาม นอกจากนี้ไฟสลัวๆ ทำให้ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ค่อยระวังตัว เพลิดเพลินเจริญอาหารไปเรื่อย
5. ดนตรีเพื่อชีวีมีสุข เสียงเพลงนั้นก็มีอิทธิพลต่ออารมณ์ของคนเราด้วยเหมือนกัน ยิ่งเป็นดนตรีที่มีจังหวะเร็วเท่าไรก็ยิ่งกระตุ้นให้คุณรับประทานอาหารมากขึ้นเท่านั้น
6. การดื่มน้ำเปล่า คุณทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำเปล่าเย็นๆ 50 ออนซ์ จะช่วยในการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี เท่ากับช่วยให้น้ำหนักลดลงปี 2.5 กิโลกรัม เพราะการดื่มน้ำเปล่าไม่ทำให้ร่างกายได้รับพลังงาน แต่ต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเย็นทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานเผาผลาญมากขึ้นอีก
7. การออกกำลังกาย ด้วยวิธียกน้ำหนักและพิลาทิส ควบคู่กันไปจะช่วยในการพัฒนาความแข็งแรงของปอดและหัวใจ รวมถึงความแข็งแรงและยืดหยุ่นของโครงสร้าง และการรับประทานอาหารมื้อย่อยๆ 5 มื้อต่อวัน โดยมื้อกลางวันจะเน้นอาหารประเภทโปรตีนเพียง 1 มื้อ นอกนั้นเน้นผักและผลไม้ จะทำให้มีพลังงานที่พอเหมาะในการใช้งาน และไม่ทิ้งไขมันส่วนเกินสะสม
8. การรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก ไม่ควรรับประทานผลไม้อีก เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ทำให้ผลไม้ที่ย่อยเสร็จไปเรียบร้อยแล้วถูกกักอยู่ในกระเพาะ เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้
9. การรับประทานแอปเปิ้ลหนึ่งชิ้นหลังอาหาร จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดแบคทีเรียในช่องปากและช่วยให้เหงือกแข็งแรง การรับประทานสับปะรดและมะละกอก่อนอาหารประมาณ 2-3 ชิ้น ดีต่อกระเพาะอาหารเพราะมีเอนไซน์ซึ่งช่วยย่อย จึงเท่ากับช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่ตามลงมาได้ง่ายขึ้น
10. ป้องกันกรดในกระเพาะ ถ้าหากคุณไม่อยากมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ก็ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้น อย่างเช่นมะนาว ส้ม ส้มโอ เกรฟฟรุ๊ต หรือน้ำมะเขือเทศสดปั่น หรือทำให้เจือจางด้วยการผสมน้ำเข้าไป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับวิธีในการดูแลสุขภาพที่บางครั้งคุณอาจมองข้ามไป หลังจากนี้อย่าลืมใส่ใจในการดูแลสุขภาพให้มากขึ้นนะคะ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยต่างๆค่ะ