ข้อควรรู้กับการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี

ในปัจจุบันมีผู้ที่ให้ความสนใจในการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายนั้น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์กับสุขภาพร่างกายของเราอย่างมาก ดังนั้นเราจึงควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และสามารถเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเองได้ เพื่อให้การออกกำลังกายนั้นเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายมาฝากกันค่ะ

1. Aerobic exercise คือ การออกกำลังกายที่ไม่รุนแรงมากนักแต่มีความต่อเนื่อง เช่น การเดินไม่ว่าช้าหรือเร็ว วิ่งเหยาะๆ วิ่งทางไกล ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กระโดดเชือก และการเต้นแอโรบิค เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

2. Anaerobic exercise คือ การออกกำลังกายที่เป็นแบบการกลั้นลมหายใจ ออกแรงเยอะ เช่น วิ่งระยะสั้น ยกน้ำหนัก เทนนิส เป็นต้น

ขั้นตอนการออกกำลังกาย

1. การอบอุ่นร่างกายหรือการ warm up เป็นการเตรียมร่างกายโดยเฉพาะปอดและหัวใจให้พร้อมที่จะรับการออกกำลังกาย การอบอุ่นร่างกายที่ดีก็คือกิจกรรมที่สามารถทำให้อุณหภูมิของร่างกาย กล้ามเนื้อและปริมาณเลือดที่ไหลเวียนสู่กล้ามเนื้อ พร้อมที่จะใช้งานเพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะปกติ อาจเริ่มด้วยการเดินช้าๆ แล้วค่อยๆ เดินเร็วขึ้นจนชีพจรของเราเริ่มเต้นเร็วขึ้นก็ได้ ซึ่งการอบอุ่นร่างกายควรใช้เวลาอย่างน้อย 5-10 นาที

2. การยืดกล้ามเนื้อ เป็นการเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อของร่างกายให้พร้อมที่จะรับการออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นเมื่อเราเริ่มออกกำลังกาย ช่วงนี้ควรใช้เวลา 5-10 นาที

3. ช่วงของการออกกำลังกาย หลังจากอบอุ่นร่างกายแล้วช่วงต่อไปนี้จะเหมาะสมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิคค่ะ เช่น ถ้าวิ่ง ก็จะวิ่งให้มีความหนักเพียงพอ คือให้หัวใจเต้นประมาณ 60-80 % ของชีพจรสูงสุด ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีผลต่อการฝึกปอดและหัวใจโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

4. การผ่อนกาย หลังจากการออกกำลังกายแล้ว จะเป็นการปรับสภาพร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ถ้าเราหยุดทันทีในขณะที่หัวใจยังเต้นแรงอยู่อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะปอดและหัวใจปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากปริมาณเลือดของร่างกายส่วนใหญ่จะไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกาย หากหยุดออกกำลังกายกะทันหันจะทำให้เลือดที่ไหลเวียนกลับสู่หัวใจน้อยลงโดยเลือดจะคั่งค้างอยู่ที่หลอดเลือดภายในกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณเลือดที่บีบออกจากหัวใจเพื่อส่งไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลง โดยเฉพาะสมองจึงทำให้เกิดอาการหน้ามืดและเป็นลมได้

5.การคลายกล้ามเนื้อ ควรทำหลังจากร่างกายผ่อนคลายจากการออกกำลังกายและเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว เพราะการยืดกล้ามเนื้อจะช่วยลดอาการตึงหรือเกร็งของกล้ามเนื้อและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายด้วย

อย่างไรก็ดีในการเตรียมตัวก่อนการออกกำลังกายทุกครั้ง เราควรที่จะแต่งกายให้เหมาะกับชนิดและประเภทของกีฬานั้นๆ ด้วยเพื่อให้สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ