กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก

กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก

กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวๆ หลายคนชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการกินของหวาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะปฏิเสธได้ง่ายๆ

เพราะถ้าวางของหวาน ไม่ว่าจะเป็นเค้ก ไอศกรีม หรือขนมหวานต่างๆ ตรงหน้า รับรองว่าโดนกวาดเรียบอย่างแน่นอน แต่ก็คงหลีกเลี่ยงความอ้วนไม่ได้แน่ๆ หากยังกินของหวานเก่งขนาดนี้ วันนี้เราจึงนำวิธีการกินของหวานเพื่อไม่ให้สาวๆ ต้องมีร่างกายที่อ้วน มาฝากกันค่ะ ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก
กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก

ต้องรู้ปริมาณแคลอรี
ทุกครั้งก่อนกินของหวานเข้าไป ควรรู้ไว้ก่อนว่า ปริมาณแคลอรีในขนมมีปริมาณเท่าไหร่ โดยสังเกตดูได้จากฉลากแสดงข้อมูลทางโภชนาการข้างกล่องนั่นเอง เพราะจะทำให้เราสามารถคำนวณปริมาณการกินของหวานได้ถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายของเรา หากเป็นไปได้ ก็ควรเลือกกินหรือซื้อของหวานชนิดที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบน้อยที่สุดจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

ลดปริมาณแคลอรี่
เนื่องจากการตัดน้ำตาล ครีม ออกจากขนมก่อนกิน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเกลี่ยน้ำตาลไอซิ่งที่โรยหน้าขนมปังออก หรือไม่ใส่กะทิในขนมหวาน จะช่วยลดพลังงานได้ถึง 81-150 แคลอรี หรือแม้แต่การเกลี่ยครีมหน้าขนมเค้กออกก็จะช่วยลดพลังงานได้ถึง 160 แคลอรี่เลยทีเดียว

กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก
กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก

รู้จักควบคุมสัดส่วนการกิน
ควรกินอย่างละนิด เพื่อให้พอรู้รสชาติ เช่น ในแต่ละวันสามารถกินคุ้กกี้ 1-2 ชิ้น กินเค้ก 1 ส่วน และกินไอศกรีม 1 ลูก แค่เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถชิมรสขนมทั้งหมดได้โดยรับแคลอรี่มาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเอง

ดื่มชาเขียวหรือกาแฟหลังมื้อขนมหวาน
เนื่องจากคาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ได้ ดังนั้น หากต้องการเพิ่มรสชาติก็สามารถใส่น้ำตาลเทียมแทนได้

กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก
กินหวานให้เก่งแบบไร้กังวลเรื่องอ้วน ..ทำได้ไม่ยาก

หลังกินขนมหวานไม่ควรนั่งอยู่กับที่
หลังจากกินขนมหวาน ควรออกไปเดินเล่นรอบๆ บ้าน ประมาณ 15 นาที เนื่องจากวิธีนี้ นอกจากจะช่วยย่อยขนมหวานที่กินไปแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันสะสมที่หน้าท้อง ต้นขาและสะโพกอีกด้วย  และหลังจากกินขนมหวาน 5 ชั่วโมง ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อกำจัดแป้งและน้ำตาลก่อนกลายเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ควรดื่มชาเขียวร้อนหรือน้ำอุ่น ก่อนและหลังออกกำลังกาย
เนื่องจากการดื่มชาเขียวร้อนหรือน้ำอุ่นก่อนและหลังออกกำลังกาย เป็นการเสริมระบบเผาผลาญควบคู่ไปด้วย และควรงดแป้งและน้ำตาลในวันรุ่งขึ้น ส่วนมื้อเช้าและกลางวันให้เน้นผักประมาณ 80% และโปรตีน 20% ส่วนในช่วงอาหารมื้อเย็นให้กินผักผลไม้สดและดื่มน้ำเปล่าทั้งวันเพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง

สาวๆ คนไหนที่ชอบกินของหวานเป็นชีวิตจิตใจ อย่าลืมนำวิธีที่เรานำมาฝากไปใช้กันดูนะคะ รับรองว่า กินหวานเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางอ้วนแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook