ทึ่ง! ไปกับประติมากรรมเนยสุดอลังการ

ทึ่ง! ไปกับประติมากรรมเนยสุดอลังการ

ทึ่ง! ไปกับประติมากรรมเนยสุดอลังการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เดลิเมล์ - เป็นที่รู้กันในหมู่คนรักสุขภาพว่าไขมันเนยนั้นหากทานมากๆ เข้าก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่ในขณะที่หลายๆ คนแอนตี้นมเนย ก็มีคนเจ้าไอเดียเนรมิตเนยก้อนยักษ์ที่ดูน่ากลัว ให้กลายเป็นประติมากรรมอันน่าทึ่งได้

เชฟระดับโลกนาม วิปูลา อตูโคราลี ชาวศรีลังกา ผู้ผ่านงานครัวในโรงแรมระดับห้าดาวมาแล้วทั่วโลกตั้งแต่ประเทศกรีซ บาห์เรน จนถึงอังกฤษ บรรจงสลักเสลาเนยก้อนใหญ่ให้เป็นงานศิลปะที่เหลือเชื่อ ใครจะไปคิดว่าแค่เนยก้อนจะสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นรูปปั้นรถยนต์โรลสรอยซ์ นิทานพิน็อคคิโอ หรือตำนาน pied-piper ที่โด่งดัง

โดยปกติความร้อนแม้เพียงอุณหภูมิห้องก็สามารถทำให้เนยหลอมเหลวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ใครต่อใครจึงพากันสงสัยว่า เชฟวิปูลามีเคล็ดลับอย่างไรในการบรรจงแกะเนยให้ออกมาคงรูปสวยงาม เพราะม้เพียงลมหายใจหรือความร้อนในร่างกายที่ส่งผ่านมายังปลายนิ้วหากกระทบกับกองเนยเข้าก็อาจเป็นเรื่อง คำตอบอยู่ที่การคัดสรรเนยหลากชนิดมาผสมกันก่อนลงมือแกะสลัก ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เชฟวิปูลาเรียกว่า เนยเนื้อทอง โดยจะใช้เนยเทียมหรือมาการ์รีนเป็นส่วนผสมหลัก เพราะมาการ์รีนสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้นานกว่าโดยไม่ละลาย ซึ่งเชฟวิปูลาเองยังยืนยันว่าประติมากรรมเนยของเขาสามารถตั้งโชว์อยู่ในล็อบบี้โรงแรมหรูได้นานนับปี เนื่องจากเคยส่งผลงานลักษณะเดียวกันนี้ล่องเรือไวกิ้งไปโชว์ไกลถึงบาห์เรนมาแล้ว

 

จากประติมากรรมเนยชิ้นนี้ ก็ทำให้เชฟวิปูลา คว้าสองเหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญเงินจากงานศิลปะการทำครัวนานาชาติที่กรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

คณะกรรมการทั้งหลายลงความเห็นว่า ผลงานของเชฟวิปูลานั้นไม่ใช่แค่การออกแบบตกแต่งอาหารแต่เป็นงานศิลปะ สังเกตจากรายละเอียดบนชิ้นงานแกะสลักที่เขาพิถีพิถันแม้เพียงจุดเล็กน้อย เช่น ดอกยางของรถโรลสรอยซ์ หรือรายละเอียดบนเส้นผมของตัวแบบ และกับงานแกะสลักรถโรลสรอยซ์เพียงชิ้นเดียวก็ต้องใช้เวลาทำนานถึง 90 นาที เฉพาะรายละเอียดภายนอก ยังไม่รวมถึงงานภายในและส่วนฐาน

"ถ้าลมหายใจของคุณแตะผิวงานเพียงนิดเดียว มันจะละลายหายไปกับมือเลย ผมก็เลยต้องอาศัยเคล็ดลับช่วย คือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ให้ลึกที่สุดก่อนจะลงมือแกะงาน แล้วกลั้นหายใจไว้สักพัก แล้วก็หยุดเพื่อพักหายใจใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ" เชฟวิปูลาเผยเคล็ดลับและเสริมว่า หากต้องการพักล้างมือ ก็ต้องล้างมือในน้ำที่ผสมน้ำแข็งเท่านั้น เพื่อให้มือไม่อุ่นจนเกินไป

แม้จะเป็นเชฟมือทองที่มีรางวัลการันตี แต่ทุกวันนี้ เชฟวิปูลายอมรับว่าเขากำลังตกงาน จนตัวเขาเองถึงกับน้อยเนื้อต่ำใจว่า ครัวระดับห้าดาวในปัจจุบันกำลังมองข้ามศิลปะบนจานอาหารไปทีละน้อย จนทำให้ศิลปินพ่อครัวหลายคนอยู่ในภาวะตกที่นั่งลำบาก

"มันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้า หากครัวระดับโรงแรมทั้งหลายไม่ต้องการไอเดียสร้างสรรค์ของศิลปินพ่อครัวแบบผมอีกต่อไป แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ผมยอมตกงานดีกว่าก้มหน้าเดินตามความคิดนายทุนที่ไม่เห็นคุณค่าของงานศิลปะแบบนั้น" เชฟวิปูลาทิ้งท้าย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook